ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมปรับตัวดีขึ้น

26 เม.ย. 2560 | 10:09 น.
ส.อ.ท.เผยความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมมี.ค.ปรับตัวดีขึ้นมาอยู่ที่ 87.5 สะท้อนให้เห็นภาพรวมของภาวะเศรษฐกิจฟื้นตัว มียอดคำสั่งเข้ามาต่อเนื่อง แต่ยังต้องการให้ภาครัฐดูแบค่าเงินบาทอยู่ในระดับที่เหมาะสม

นายเจน นำชัยศิริ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยผลการสำรวจความเชื่อมั่นของภาคอุตสาหกรรมไทย (Thai Industries Sentiment Index: TISI) มีนาคม 2560 จำนวน 1,125 ราย ครอบคลุม 45 กลุ่มอุตสาหกรรมของสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยแยกเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมขนาดย่อม อุตสาหกรรมขนาดกลาง และอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ โดยผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมในเดือนมีนาคม 2560 อยู่ที่ระดับ 87.5 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากระดับ 86.2 ในเดือนกุมภาพันธ์ ทั้งนี้ค่าดัชนีฯ ที่เพิ่มขึ้นเกิดจากองค์ประกอบ ยอดคำสั่งซื้อโดยรวม ยอดขายโดยรวม ปริมาณการผลิต และผลประกอบการดีขึ้น

อย่างไรก็ตาม ในเดือนมีนาคม ผู้ประกอบการเร่งผลิตสินค้าเพื่อรองรับการใช้จ่ายของผู้บริโภคในช่วงเทศกาลสงกรานต์ รวมทั้งผลิตเพื่อชดเชยในช่วงเดือนเมษายนที่มีวันทำงานน้อยกว่าปกติ สะท้อนจากดัชนีปริมาณการผลิตและดัชนีอัตราการใช้กำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า นอกจากนี้ยังพบว่าราคาสินค้าเกษตรที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะยางพารา ปาล์มน้ำมัน และอ้อย ส่งผลดีต่อรายได้และการบริโภคภายในประเทศ

ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นคาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้า อยู่ที่ระดับ 99.0 ปรับตัวลดลงจาก เดือนกุมภาพันธ์ ที่ระดับ 100.9 จากความกังวลต่อต้นทุนการผลิตที่ปรับตัวสูงขึ้น ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน นโยบายการค้าระหว่างประเทศของสหรัฐอเมริกา รวมทั้งความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างประเทศ

สำหรับด้านปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อการประกอบกิจการ ในเดือนมีนาคม 2560 พบว่า ปัจจัยที่ผู้ประกอบการมีความกังวลเพิ่มขึ้น ได้แก่ อัตราแลกเปลี่ยน ส่วนปัจจัยที่มีความกังวลลดลง ได้แก่ สภาวะเศรษฐกิจโลก ราคาน้ำมัน และสถานการณ์การเมืองในประเทศ ขณะที่อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ อยู่ในระดับทรงตัวจากเดือนก่อนหน้า

อย่างไรก็ตาม ข้อเสนอแนะของผู้ประกอบการที่มีต่อภาครัฐในเดือนมีนาคม คือ ต้องการให้ภาครัฐดูแลค่าเงินบาทให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม เพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถแข่งขันได้ในภูมิภาครวมถึงมีการส่งเสริมการถ่ายทอดเทคโนโลยี (Technology transfer) เพื่อการพัฒนาศักยภาพด้านการผลิต เร่งศึกษาผลกระทบจากนโยบายการค้าระหว่างประเทศของสหรัฐฯ และแก้ไขปัญหาผังเมือง ที่เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาพื้นที่เขตเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC)…//