ทางเดียวไม่เลี้ยวไปไหน : คือ…ปรีดี พนมยงค์

25 เม.ย. 2560 | 11:13 น.
ทางเดียวไม่เลี้ยวไปไหน

โดย : สนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม 
คือ…ปรีดี พนมยงค์

คือ…วิญญาณเสรี ชื่อปรีดี พนมยงค์
คือ…ดาวที่ดำรง อยู่คู่ฟ้าสถาวร
คือ…เทียนที่ลาร้าง แต่ส่องทางไว้สุนทร
คือ…เกียรติที่กำจร และจารใจผู้ใฝ่ธรรม

หยิบยกเอาท่อนหนึ่งของบทเพลง "คาราวาน" ศิลปินในดวงใจตลอดกาล โดยเฉพาะ"น้าหงา" สุรชัย จันทิมาธร คงจะเห็นภาพของ "อาจารย์ปรีดี "ได้อย่างชัดเจนผ่านบทเพลงและบทกวีที่ "คาราวาน" ได้ขับขานและถ่ายทอด!!!

ภายใต้สถานการณ์ "หมุดคณะราษฎร" ที่หายไป ข้อดีก็คือคนยุคใหม่ได้ทบทวนประวัติศาสตร์ "การเปลี่ยนแปลงการปกครอง 2475" อย่างกว้างขวางผ่านโลกของโซเชียลมีเดียที่เชื่อมโยงผู้คนเข้าหากันอย่างทรงพลัง

เป็นที่รับรู้กันว่า "คณะราษฎร" ผู้ก่อการเปลี่ยนแปลงการปกครอง นั้นประกอบด้วยกลุ่มทหารและพลเรือน กลุ่มทหารนั้นประกอบไปด้วย 2 กลุ่มหลักคือ ทหารแก่นำโดย"พระยาพหลพลพยุหเสนา"และคณะ ส่วนทหารหนุ่มนำโดย "จอมพลป. พิบูลสงคราม"

ส่วนพลเรือนนำโดย "นายปรีดี พนมยงค์" แน่นอนการเป็นผู้นำนั้นมาจากมันสมองอันเฉียบแหลมและความรู้ที่มีอยู่นั่นเอง
คณะผู้เปลี่ยนแปลงการปกครองจึงเรียก "นายปรีดี"ว่า"อาจารย์"แทบทุกคน

ส่วนประเด็นที่ถกเถียงกันว่าการเปลี่ยนแปลงการปกครอง 2475 เป็นการ"ปฏิวัติ"หรือ"รัฐประหาร"นั้นดูจาก "ความคิด" "คำพูด"และ"การกระทำ"ของ "อาจารย์ปรีดี"ก็จะเห็นได้อย่างชัดเจน!!!!

"เค้าโครงเศรษฐกิจแห่งชาติ" ของ"อาจารย์ปรีดี"นั้น เป็นบันทึกทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญ ว่า"อาจารย์ปรีดี"พยายามที่จะทำให้"การรัฐประหาร" 2475 เป็น"การปฏิวัติที่แท้จริง"โดยการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างทางเศรษฐกิจเพื่อให้เกิดประโยชน์กับประชาชนส่วนใหญ่!!!

ดังจะเห็นได้ในเกริ่นนำของหมวดที่ 1 มีความตอนหนึ่งว่า "จะวางโครงการเศรษฐกิจแห่งชาติ ไม่ปล่อยให้ประชาชนอดอยาก"ข้อความนี้ย่อมฝังอยู่ในใจประชาชนถ้วนหน้า และจะจารึกลงในประวัติศาสตร์การเปลี่ยนแปลงการปกครอง ข้าพเจ้าจึงยังคงยืนยันข้อความนี้อยู่เสมอ และเห็นว่าถ้ารัฐบาลได้จัดวางโครงสร้างเศรษฐกิจแห่งชาติให้เหมาะสมแล้ว การหางานให้ราษฎรทุกคนทำหาใช่เป็นการสุดวิสัยไม่ การบำรุงความสมบูรณ์ของราษฎรนี้เป็นจุดประสงค์อันยิ่งใหญ่ของข้าพเจ้าในการเปลี่ยนแปลงการปกครอง ข้าพเจ้ามิปรารถนาจะเปลี่ยนพระเจ้าแผ่นดินองค์เดียวมาเป็นหลายองค์ ซึ่งเป็นการปกครองแบบประชาธิปไตยแต่เปลือกนอกเท่านั้น ข้าพเจ้ามุ่งต่อสาระสำคัญคือ "บำรุงความสุขสมบูรณ์ของราษฎร"

นี่คือ"เจตนารมณ์"ของ"อาจารย์ปรีดี"และชัดเจนว่าในที่สุดก็ไม่บรรลุผลสำเร็จ!!!
ประเทศไทยหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครองจึงเป็นเช่นนี้และกลายมาเป็น"มรดกบาป"ของ "คณะราษฎร"ในที่สุด!!! ยิ่งถ้าพิจารณาจากคำพูดนี้ของ"อาจารย์ปรีดี"ก็จะเห็นได้อย่างชัดเจนว่าการเปลี่ยนแปลงการปกครอง 2475 คือ "การรัฐประหาร" อย่างแน่นอน!!

"ถ้าเราคงทำตามแบบเก่าการเปลี่ยนแปลงคราวนี้ไม่มีประโยชน์เพราะเราไม่ได้ทำในสาระสำคัญ คือแก้ความฝืดเคืองของราษฎร แบบที่เราต้องเดินนั้น ต้องเดินอย่างอาศัยหลักวิชา อาศัยแผน อาศัยโครงการ วิธีการโซเชียลลิสต์เป็นวิธีวิทยาศาสตร์โดยแท้ รับรองความเห็นของหม่อมเจ้าสกลว่าการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ไม่ใช่ Coup d' Etat แต่เป็น Revolution ในทางเศรษฐกิจ"

ชัดเจนว่าประเทศไทยในวันนี้หลังจากเปลี่ยนแปลงการปกครองแล้ว "ข้อเท็จจริง" ก็คือเป็นไปตามที่ "อาจารย์ปรีดี" ว่าก็คือเราได้เปลี่ยนแปลงการปกครองจากมี "พระเจ้าแผ่นดินเพียงพระองค์เดียวที่มีพระราชอำนาจ "มาอยู่ในมือของ "เผด็จการ" ในหลายรูปแบบ เหมือนที่อาจารย์ปรีดีเปรียบเทียบว่าเป็นพระเจ้าแผ่นดินหลายพระองค์

ใครก็ตามที่พยายามโหน"อาจารย์ปรีดี" เพื่อสร้างความชอบธรรมให้"นาย"ของตัวเองหรือกลุ่มของตัวเอง ศึกษาประวัติศาสตร์เสียบ้างก็จะดี!!!!!

 

คอลัมน์ :  ทางเดียวไม่เลี้ยวไปไหน / หน้า14 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ / ฉบับ 3256 ระหว่างวันที่ 27-29 เม.ย.2560