ทองร่วงเกือบ 1% ตอบรับผลการเลือกตั้งฝรั่งเศสรอบแรก

26 เม.ย. 2560 | 02:41 น.
เป็นที่แน่นอนแล้วว่า นายเอ็มมานูเอล มาครง ซึ่งเป็นผู้สมัครสายกลางและนางมารีน เลอ แปน ผู้สมัครฝ่ายขวาจัดผ่านการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสรอบแรกและจะเข้าไปแข่งขันกันในการเลือกตั้งรอบสองในวันที่ 7 พ.ค. ช่วยคลายความกังวลในหมู่นักลงทุนเกี่ยวกับความเสี่ยงที่ฝรั่งเศสจะเดินหน้ากระบวนการแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป

ในช่วงก่อนหน้านี้ ราคาทองคำได้รับแรงหนุนจากความไม่แน่นอนจากการเลือกตั้งในฝรั่งเศส ตลาดวิตกว่านางเลอ แปนอาจได้คะแนนโหวตสูงเกินคาดในการเลือกตั้งรอบแรก อีกทั้งมีความเป็นไปได้ที่นายฌอง ลุค เมลองชอง ผู้สนับสนุนแนวคิดฝ่ายซ้ายจะผ่านเข้าไปแข่งขันกับนางมารีน เลอ แปน ในรอบสอง ซึ่งทั้งนางเลอเปนและนายเมลองชองต่างมีจุดยืนที่จะจัดการลงประชามติถอนตัวออกจากสหภาพยุโรปหากได้เป็นประธานาธิบดี ทั้งนี้ ความวิตกกังวลเกี่ยวกับการเลือกตั้งรอบแรก ไม่ได้อยู่แค่ในหมู่นักลงทุนเท่านั้น แม้กระทั่งนางคริสติน ลาการ์ด ผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ก็ออกมาแสดงความเห็นเช่นกันว่าหากนางมารีน เลอเปนได้รับชัยชนะก็จะส่งผลให้ภาวะเศรษฐกิจและการเมืองโลกตกอยู่ในความวุ่นวาย

[caption id="attachment_143720" align="aligncenter" width="344"] ทองร่วงเกือบ 1% ตอบรับผลการเลือกตั้งฝรั่งเศสรอบแรก ทองร่วงเกือบ 1% ตอบรับผลการเลือกตั้งฝรั่งเศสรอบแรก[/caption]

แต่หลังจากการนับคะแนนในช่วงเช้าของวันที่ 24 เม.ย.ตามเวลาไทยบ่งชี้ว่า นายเอ็มมานูเอล มาครง ได้คะแนนเสียงมากที่สุด ในการเลือกตั้งรอบแรก และส่งผลให้มีความเป็นไปได้น้อยลงที่นางมารีน เลอ แปน จะชนะการเลือกตั้งในรอบสองในวันอาทิตย์ที่ 7 พ.ค. ส่งผลให้ตลาดหุ้นหลายแห่งทั่วโลกปรับตัวขึ้นทันที โดยดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้าพุ่งขึ้นกว่า 100 จุด ขณะที่ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเปิดพุ่งขึ้นกว่า 200 จุด ปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้เกิดแรงขายในทองคำที่อยู่ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยและกดดันให้ราคาทองคำร่วงลงเกือบ 1% มาแตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์ อย่างไรก็ดีราคาทองคำ ก็เกิดการดีดตัวกลับเช่นกันเนื่องจากผลการเลือกตั้ง ส่งผลให้ยูโรพุ่งขึ้น 2% ซึ่งการพุ่งขึ้นของยูโรส่งผลหนุนให้ราคาทองคำฟื้นตัวและลดช่วงติดลบลง

ทั้งนี้การเลือกตั้งในฝรั่งเศสยังไม่จบลง นักลงทุนยังคงต้องรอลุ้นผลการเลือกตั้งในรอบที่สอง คาดว่านางเลอ แปนจะเดินหน้าหาเสียงอย่างหนักเพื่อเรียกคะแนนเสียง ขณะที่ผลสำรวจของแฮร์ริสคาดว่านายมาครงจะชนะการเลือกตั้งในรอบที่สองด้วยคะแนนโหวต 64%ส่วนนางเลอ แปนจะได้คะแนนโหวต 36% ทางด้านโพลล์ของอิปซอส/โซปรา สเตอเรียก็คาดการณ์แบบเดียวกัน

หากผลการเลือกตั้งในรอบ 2 เป็นไปตามผลสำรวจ จะทำให้นายมาครงกลายเป็นผู้นำฝรั่งเศสที่มีอายุน้อยที่สุดนับตั้งแต่ยุคของนโปเลียนเป็นต้นมาและจะทำให้ฝรั่งเศสยังคงอยู่ในสหภาพยุโรปต่อไป ถึงแม้ชัยชนะของนายมาครงจะช่วยต่อลมหายใจให้สหภาพยุโรปต่อไป แต่ในปีนี้ยังคงมีการเลือกตั้งทั้งในเยอรมนีและอิตาลีซึ่งจะเป็นอุปสรรคและบททดสอบสำคัญให้แก่สหภาพยุโรปเช่นกัน เรียกได้ว่าหนังเรื่องนี้ยังไม่จบและเรื่องราวเกี่ยวสหภาพยุโรปจะยังคงอยู่ในสายตานักลงทุนทั่วโลกต่อไปในปีนี้

ดังนั้นแนะนำนักลงทุนติดตามสถานการณ์รอบด้านอย่างใกล้ชิด

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,256 วันที่ 27 - 29 เมษายน พ.ศ. 2560