พีแอนด์จีพัฒนาโรงงาน สู่เป้าหมายเพื่อสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน

29 เม.ย. 2560 | 11:00 น.

Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่

บริษัท พรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด หรือพีแอนด์จี มีเป้าหมายที่ประกาศชัดเจนเป็นภารกิจภายในปี 2563 (2020) กับการลดการใช้พลังงานที่ส่งผลกระทบต่อชั้นบรรยากาศ (Climate) ลดการใช้น้ำ (Water) และลดขยะ (waste) ภายใต้แนวคิด "You Can Make a world of Difference" ดดยเป้าหมายหรือภารกิจที่ตั้งขึ้นนี้ ไม่เพียงแต่ช่วยให้สิ่งแวดล้อมของโลกดีขึ้น แต่เป็นการคิดค้นนวัตกรรมขึ้นมาตอบโจทย์การทำธุรกิจไปพร้อมๆ กัน

[caption id="attachment_143420" align="aligncenter" width="440"] จุฑาภัทร บุณย์วงศกร จุฑาภัทร บุณย์วงศกร[/caption]

"จุฑาภัทร บุณย์วงศกร" กรรมการผู้จัดการ พีแอนด์จี บอกว่า พื้นที่โรงงานกว่า 9.6 หมื่นตารางเมตร ผลิตสินค้าพีแอนด์จีเป็นอันดับ 3 ของโลก รองจาก สหรัฐอเมริกา และฝรั่งเศส ส่งออกผลิตภัณฑ์ไปในกว่า 20 ประเทศ และประเทศที่ไทยส่งออกไปมากที่สุด ก็คือ ญี่ปุ่น ด้วยมาตรฐาน Japan Quality Standard โดยใช้น้ำต่อเดือนในการผลิตสินค้าประมาณ 20 สระว่ายน้ำโอลิมปิก (1สระ ใช้น้ำ 2,500 ตัน) แต่ด้วยเป้าหมายที่ตั้งไว้ ทำให้โรงงานสามารถนำพลังงานหมุนเวียนมาใช้ให้ได้ 100% รวมทั้งสามารถนำวัตถุดิบมารีไซเคิล ลดปริมาณขยะ ลดการใช้น้ำ และพลังงานได้กว่า 20-30%

mp-31-3256-5 "กิติโรจน์ ธรรมรัตน์" ผู้จัดการฝ่ายวิศวกรรม พีแอนด์จี ให้ข้อมูลว่า ตั้งแต่ปี 2552 โรงงานพีแอนด์จีได้ลงทุนปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพของเครื่องจักรที่ใช้ในกระบวนการผลิตอย่างต่อเนื่อง ทำให้ช่วยประหยัดพลังงานไฟฟ้าลงมากกว่า 37% หรือนับเป็นพลังงานไฟฟ้าสำหรับ 9.6 แสนครัวเรือนต่อปี, ลดการใช้น้ำในกระบวนการผลิตกว่า 36 % หรือเทียบเท่าปริมาณน้ำจำนวน 360 สระมาตรฐานโอลิมปิกต่อปี และสามารถลดขยะได้ 31 % ซึ่งขยะของเสียเหล่านั้นกว่า 150 ตัน ได้ผ่านกระบวนการ 3 R คือ Reduce, Reuse, Recycle นำไปสร้างเป็นสนามเด็กเล่นรีไซเคิลจากขวดแชมพู และพีแอนด์จีกำลังเตรียมทำโครงการพลังงานชีวมวล (biomass project) ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่นำผลผลิตจากการเกษตรภายในประเทศ เช่น เเกลบ, ชานอ้อย, กากปาล์ม, กากมันสำปะหลัง, กาบและกะลามะพร้าว และอื่นๆ มาใช้เป็นพลังงานหมุนเวียนทดแทนการใช้น้ำมัน (Renewal Energy) ซึ่งสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต และลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกภายในโรงงาน อย่างยั่งยืน

mp-31-3256-4 ส่วนการริเริ่มนำนวัตกรรมมาใช้ในโรงงาน มีการตั้งเป้านอกจากการแปรรูป นวัตกรรม และการลดค่าใช้จ่ายซึ่งทำไปแล้ว 128 ล้านบาทในปีที่ผ่านมา และจะเพิ่มเป็น 162 ล้านบาท ผ่าน 205 โปรเจคในปีนี้ โปรเจคที่ทำไปแล้ว เช่น การนำพลังานความร้อนของเครื่องแลกเปลี่ยนความร้อนมาใช้ใหม่เพื่อต้มน้ำ เปลี่ยนเทคโนโลยีจากการใช้น้ำทำความสะอาดถัง มาเป็นการใช้ไอน้ำแทน เพื่อลดเวลา และลดน้ำ และอีกส่วนคือการเชื่อมต่อระบบการจัดการมอเตอร์ ลดการใช้พลังงานไฟฟ้า และใช้น้ำฝนแปรรูป เพื่อใช้ในไลน์ผลิต

mp-31-3256-3 "กรรณิการ์ จรัสอุไรสิน" ผู้อำนวยการฝ่ายองค์กรสัมพันธ์ พีแอนด์จี บอกว่า เป้าหมายของพีแอนด์จี คือ การเข้าใจ เข้าถึง และพัฒนา เรื่องสิ่งแวดล้อม คือจิตสำนึกและความรับผิดชอบ งานด้านสิ่งแวดล้อม คือ โอกาสทางธุรกิจ พีแอนด์จีมองหาโอกาสใหม่ๆ สร้างนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ มาสร้างความเติบโตให้กับองค์กร การประหยัดน้ำ ประหยัดพลังงาน ทำให้ต้นทุนการผลิตของพีแอนด์จีต่ำกว่าคู่แข่ง นั่นคือ ยุทธศาสตร์ในการเติบโตทางธุรกิจ

mp-31-3256-2 ในส่วนของสินค้านวัตกรรมสีเขียวที่ทำมาแล้ว เช่น สินค้าทูอินวัน อย่างเฮดแอนด์โชวเดอร์ ไม้ถูพื้นที่ไม่ต้องใช้น้ำ ดาวน์นี่ ผลิตภัณฑ์ประหยัดน้ำในการซักผ้าได้ถึง 40-50% และยังมีนวัตกรมที่นำเม็ดพลาสติกจากบรรจุภัณฑ์ขวดแชมพูมารีไซเคิล สร้างเป็นขวดใหม่ เปิดตัวครั้งแรกที่ประเทศฝรั่งเศส โดยขวดแชมพูของพีแอนด์แอนด์จี สามารถนำมารีไซเคิลได้ 100%

mp-31-3256-1 และปีนี้ เป็นปีแรกที่พีแอนด์จีปรับกลยุทธ์จาก Sustainability Report สู่ Citizenship Report โดยยังคงเรื่องของสิ่งแวดล้อม พร้อมการดำเนินธุรกิจผ่าน 4 แนวทาง คือ 1.บริษัทธรรมาภิบาล ที่มีความโปร่งใสตรวจสอบได้ 2.ความร่วมมือกับชุมชน พัฒนาคุณภาพชีวิต 3. การเคารพสิทธิส่วนบุคคล ให้ความเท่าเทียมในการพัฒนาบุคลากรในทุก เพศ เชื้อชาติ ศาสนา ความแตกต่าง 4. ให้ความสำคัญ การพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้หญิง การสร้างแรงบันดาลใจ และสร้างความเชื่อมั่นของผู้หญิง

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,256 วันที่ 27 - 29 เมษายน พ.ศ. 2560