‘หัวเว่ย’ยันสเปกสมาร์ทโฟน แจงผู้ใช้‘เมท9-พี10’ทุกเครื่องในไทยตรงตามระบุ

29 เม.ย. 2560 | 06:00 น.
หัวเว่ยคอนซูเมอร์ ยันผู้ใช้สมาร์ทโฟนเรือธง “เมท9-พี 10”ในไทยได้คุณลักษณะเครื่องตามระบุทุกประการ แจงกรณีร่อนสารรวมตัวร้องเรียนสคบ.ผ่านโซเชียลนั้นเป็นการนำผลทดสอบจากต่างประเทศมาเสนอ ด้านตัวแทนจำหน่ายรอคำชี้แจงชัดเจนจากหัวเว่ย

จากกรณีที่การส่งต่อข้อความร่วมตัวร้องเรียนของกลุ่มผู้ใช้สมาร์ทโฟน หัวเว่ย เมท9 (Mate 9) และ พี 10 มีการนัด เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมกับ สำนักง่านคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ สคบ. วันที่ 26 เมษายน 2560 กรณีสินค้าไม่ตรงตามคุณลักษณะที่ระบุไว้ อาทิ หน่วยความจำ ROM UFS 2.1 และ LPDDR4 เป็นการทำให้ผู้บริโภคถูกเอารัดเอาเปรียบ หรือโดนหลอกขายนั้น

แหล่งข่าวจากกลุ่มธุรกิจหัวเว่ย คอนซูเมอร์ บริษัทหัวเว่ยประเทศไทย จำกัด เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่าขอยืนยันกบั ผู้ซื้อสมาร์ทโฟนหัวเว่ย เมท9 และพี 10 ว่าคุณลักษณะของเครื่องที่จำหน่ายในไทยนั้นเป็นไปตามที่ระบุทุกประการ โดยข้อมูลที่มีการโพสต์บนโซเชียลมีเดียนั้น เป็นผลการทดสอบเครื่องจากต่างประเทศมาเผยแพร่

อย่างไรก็ตามบริษัทยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดทั้งหมดได้ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการรออนุมัติจากบริษัทแม่ในการให้ข้อมูลข่าวสารกับผู้บริโภค

ด้านนายพิชัย นีรนาทโกมลประธานกรรมการบริหาร บริษัทคอมพิวเตอร์ ซีสเท็ม คอนเน็คชั่น อินเตอร์แนชชั่นแนล จำกัด (ซีเอสซี) ในฐานะตัวแทนจำหน่ายสมาร์ทโฟน“หัวเว่ย” กล่าวว่าขณะนี้อยู่ระหว่างการรอคำชี้แจงข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าวจากทางหัวเว่ยอยู่ ซึ่งยังไม่ชัดเจนว่าข้อมูลที่นำเสนอผ่านทางโซเชียลมีเดียถูกต้อง หรือเป็นไปตามที่ระบุ หรือหัวเว่ยมีการโฆษณาไว้หรือไม่

อย่างไรก็ตามหากไม่เป็นไปตามคุณลักษณะที่ระบุไว้จริง หากหัวเว่ย มีกระบวนการแก้ไขให้ลูกค้าอออมาอย่างไรบริษัทก็พร้อมให้การสนับสนุนในการตรวจสอบ และส่งสินค้ากลับไปยังหัวเว่ย ซึ่งขณะนี้รอดูความชัดเจนเรื่องดังกล่าวอยู่ และยังไม่สามารถประเมินได้ว่าจะส่งผลกระทบกับความเชื่อมั่นของผู้บริโภคกับแบรนด์หัวเว่ย ซึ่งเป็นหนึ่งในแบรนด์สมาร์ทโฟนที่มาแรงขณะนี้หรือไม่

“กรณีที่ผู้ใช้มีการระบุคุณลักษณะของ หน่วยความจำ ROM ที่ไม่ตรงกับที่โฆษณาไว้นั้นขณะนี้ยังไม่แน่ชัดว่าหัวเว่ยมีการโฆษณาไว้หรือไม่ ซึ่งในข้อเท็จจริงแล้วกรณีการร้องเรียนดังกล่าวอาจมีนัยยะสำคัญกรณีสินค้าไม่ต้องตามคุณสมบัติ แต่ในทางเทคนิคแล้ว ROM UFS 2.0 กับ 2.1 ไม่มีผลต่อการทำงานของเครื่อง”

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,256 วันที่ 27 - 29 เมษายน พ.ศ. 2560