กรมบังคับคดีเผยไตรมาส 2 เร่งผลักดันทรัพย์สินได้กว่า 3.24  หมื่นล้านบาท

24 เม.ย. 2560 | 08:03 น.
กรมบังคับคดีแถลงผลงานไตรมาสที่ 2 ปี 60 เร่งผลักดันทรัพย์สินได้กว่า 32,426 ล้านบาท ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทชั้นบังคับคดีให้กับลูกหนี้สำเร็จไปแล้วกว่า 6,000 ราย เพื่ออำนวยความเป็นธรรม และพร้อมสร้างความรับรู้ด้านกฎหมายให้กับประชาชน และบูรณาการการทำงานกับทุกภาคส่วน

24 เมษายน 2560 - นางสาวรื่นวดี  สุวรรณมงคล อธิบดีกรมบังคับคดี แถลงผลการปฏิบัติงานของกรมบังคับคดีในไตรมาสที่ 2 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.  2560 (มกราคม  – มีนาคม 2560) โดยสามารถผลักดันทรัพย์ออกจากระบบบังคับคดีได้จำนวน 32,426,569,877 บาท ซึ่งสูงกว่าไตรมาสที่ 2 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 ถึงร้อยละ 60.33 และมีเรื่องเข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทชั้นบังคับคดีจำนวน 6,769 เรื่อง ไกล่เกลี่ยสำเร็จ 6,109 เรื่อง ทุนทรัพย์ 1,787,461,464.56 บาท คิดเป็นอัตราไกล่เกลี่ยสำเร็จร้อยละ 90.24 ซึ่งสูงกว่าไตรมาสที่ 2 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 ถึงร้อยละ 176.18

ผลการดำเนินงานในไตรมาสที่ 2 ประจำปี 2560 กรมบังคับคดีได้มีผลการดำเนินการหลักๆ ดังนี้1.งานตามภารกิจหลัก 1.1การผลักดันทรัพย์สินรอการขายของกรมบังคับคดี ได้มีผลักดันทรัพย์สินออกจากระบบบังคับคดีได้จำนวน 62,382,216,525.00 บาท จากเป้าหมายประจำปีจำนวน 100,000 ล้านบาท ซึ่งผลการผลักดันในรอบ 6 เดือนแรก กรมบังคับคดีสามารถดำเนินการได้มากกว่าร้อยละ 50 ของเป้าหมาย เป็นผลมาจากการนำนโยบาย “4 ร” มาเร่งการดำเนินการ การจัดให้ขายทอดตลาดในวันหยุดและการจัดมหกรรมการขายทอดตลาดนอกสถานที่ทำการเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชน และการส่งคำสั่งซื้อผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ นอกจากนี้ พบว่า ในเดือนมีนาคม 2560  สามารถผลักดันได้สูงถึง 12,589,401,775.00บาท ซึ่งถือว่าเป็นยอดผลักดันสูงสุดในรอบ 16 เดือนที่ผ่านมา กรมบังคับคดีมีแผนการจัดมหกรรมขายทอดตลาดทอดตลาดนอกสถานที่ โดยเป็นการนำทรัพย์รอการขายของสำนักงานบังคับคดีแพ่งกรุงเทพมหานคร 1-6 กองบังคับคดีล้มละลาย 1-5 สำนักงานบังคับคดีจังหวัดนนทบุรี จังหวัดปทุมธานีและจังหวัดปทุมธานี สาขาธัญบุรี ออกขายทอดตลาด ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี ในเดือนพฤษภาคม 2560

1.2 การไกล่เกลี่ยข้อพิพาทชั้นบังคับคดี ภายใต้กลยุทธ์ “เชิงรุก เชิงลึก และครอบคลุม”ได้มีการประสานเจ้าหนี้กลุ่มใหม่ร่วมมือกับสถาบันการเงินและหน่วยงานภาครัฐและเอกชน เพื่อให้บริการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทชั้นบังคับคดีแก่ประชาชนให้ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น ทั้งนี้ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย เพื่ออำนวยความเป็นธรรมและลดความเหลื่อมล้ำ โดยช่วงไตรมาสที่ 2 ของปีงบประมาณ พ.ศ.2560  ได้จัดมหกรรมไกล่เกลี่ยข้อพิพาทร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนรวมจำนวน 16 หน่วยงาน ทั่วประเทศ ดำเนินการเชิงรุกและลงพื้นที่เพื่อจัดไกล่เกลี่ยข้อพิพาทชั้นบังคับคดีช่วยเหลือลูกหนี้ผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้  4 ครั้ง มีลูกหนี้เข้าร่วมไกล่เกลี่ยข้อพิพาททั้งสิ้น 286 ราย ทุนทรัพย์ รวม 181,419,380.17 บาท และไกล่เกลี่ยสำเร็จ 236 ราย ทุนทรัพย์รวม 124,546,166.56 บาท คิดเป็นผลสำเร็จร้อยละ 82.51 และจัดมหกรรมไกล่เกลี่ยข้อพิพาทชั้นบังคับคดีร่วมกับกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (ก.ย.ศ.) ในพื้นที่ 8 จังหวัดภาคใต้ ได้แก่ จังหวัดปัตตานี ยะลา สงขลา สุราษฎร์ธานี ภูเก็ต พัทลุง ตรัง สตูล ระหว่างวันที่ 18 มีนาคม – 4 เมษายน 2560 มีเรื่องเข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยรวม 1,859 เรื่อง ทุนทรัพย์ 250,219,610.08 และไกล่เกลี่ยสำเร็จรวม 1,853 เรื่อง ทุนทรัพย์ 249,617,367.23 คิดเป็นผลสำเร็จร้อยละ 99.68 ของเรื่องที่เข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ย รวมทั้งได้มอบหมายให้ผู้อำนวยการสำนักงานบังคับคดีทั่วประเทศดำเนินการเชิงรุก ในพื้นที่เพื่อให้ความช่วยเหลือลูกหนี้และอำนวยความเป็นธรรม

การดำเนินการเชิงรุกดังกล่าวข้างต้นส่งผลให้ผลการไกล่เกลี่ยในไตรมาสที่ 2 ปีงบประมาณ พ.ศ.2560 มีเรื่องเข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทชั้นบังคับคดีสูงกว่าไตรมาสที่ 2 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 ถึงร้อยละ 176.18 และในรอบ 6 เดือนแรก ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2559 – เดือนมีนาคม 2560

มีเรื่องเข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทชั้นบังคับคดี จำนวน 9,974 เรื่อง ไกล่เกลี่ยสำเร็จ จำนวน 8,965 เรื่อง คิดเป็นร้อยละ 89.88 ของเรื่องที่เข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ย กรมบังคับคดีมีแผนการจัดมหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้ครัวเรือน/หนี้บัตรเครดิตชั้นบังคับคดีร่วมกับสถาบันการเงินและบริษัทต่าง ๆ ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี ในเดือนพฤษภาคม 2560

1.3 การปรับปรุงกฎหมายและกฎระเบียบที่เกี่ยวกับการบังคับคดี (1) ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....  (ภาคบังคับคดี)  สภานิติบัญญัติแห่งชาติได้ให้ความเห็นชอบในวาระที่ 2 และที่ 3 เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2560 ซึ่งการปรับปรุงและแก้ไขประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งฉบับนี้ถือว่าเป็นการปฏิรูปการบังคับคดี ทั้งระบบเพื่อลดขั้นตอนการดำเนินการและลดโอกาสของการประวิงคดี ทั้งนี้ เพื่อการบังคับคดีให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นและให้ความเป็นธรรมแก่คู่ความและผู้ที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้ กรมบังคับคดีได้วางแผนการสร้างความรับรู้ให้กับผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายทั่วประเทศ และยกร่างกฎหมายในลำดับรอง ได้แก่

1) ร่างกฎกระทรวงว่าด้วยคุณสมบัติ หลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขของบุคคลที่ได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติการแทนเจ้าพนักงานบังคับคดี พ.ศ. ... 2) กฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการขายทอดตลาด พ.ศ. .... และ 3) กฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการขายทอดตลาดด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. .... ด้วยแล้ว

(2) ร่างพระราชบัญญัติล้มละลาย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... คณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบอนุมัติในหลักการเมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2559 และขณะนี้ อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกา โดยทั้งนี้  เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2560 ได้มีคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ 21/2560 เรื่อง การแก้ไขเพิ่มเติมเพื่ออำนวยความสะดวกในการประกอบธุรกิจ โดยข้อ 12-16 ได้ประกาศใช้ร่างมาตรา 20 มาตรา 23 มาตรา 35/1 และมาตรา 39 ของร่างพระราชบัญญัติล้มละลายฯ ดังกล่าวด้วยแล้ว ทั้งนี้ กรมบังคับคดีอยู่ระหว่างการประกาศเรื่อง กำหนดเว็บไซต์เพื่อโฆษณาคำสั่งในคดีล้มละลาย โดยจะเริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2560 เป็นต้นไป ซึ่งประชาชนสามารถตรวจสอบประกาศ หรือคำสั่งของศาล ประกาศหรือคำสั่งของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ ผ่านทางwebsite ของกรมบังคับคดี www.led.go.th โดยการลงทะเบียนแจ้ง ชื่อ – นามสกุล ที่อยู่ เลขประจำตัวประชาชนและเลือกยอมรับเงื่อนไขที่กรมบังคับคดีกำหนด ทั้งนี้ เพื่อเป็นการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติ พระราชบัญญัติการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2560 และการรวบรวมและจัดทำสถิติข้อมูลจำนวนบุคคลที่เข้ามาตรวจสอบต่อไป

1.4 การบริหารจัดการคดี (Case Management) กรมบังคับคดีได้เร่งรัดการดำเนินการสำนวนคดีค้างดำเนินการเกิน 10 ปีที่มีอยู่จำนวน 12,880 เรื่อง โดยผลการดำเนินงานตั้งแต่เดือนตุลาคม 2559 – เดือนมีนาคม 2560 รวม 6 เดือน สามารถดำเนินการสำเร็จจำนวน 1,889 เรื่อง คิดเป็นร้อยละ 14.67 ของปริมาณคดีทั้งหมดจำนวน 12,880 เรื่อง คิดเป็นค่าเฉลี่ยดำเนินการเสร็จเดือนละ 315 เรื่อง ทำให้คาดการณ์จากค่าเฉลี่ยดำเนินการเสร็จได้ว่าทั้งปีงบประมาณ 2560 จะสามารถดำเนินการเสร็จได้จำนวน 3,780 เรื่อง คิดเป็นร้อยละ 29.35 ของปริมาณคดีทั้งหมดจำนวน 12,880 เรื่อง

1.5 การพัฒนาการให้บริการด้านการบังคับคดีแพ่งและล้มละลาย กรมบังคับคดีได้มุ่งมั่นในการพัฒนาการให้บริการด้านการบังคับคดีแพ่งและล้มละลายอย่างต่อเนื่อง เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับคู่ความและผู้ที่เกี่ยวข้อง โดยในไตรมาส 2 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2560 มีการพัฒนาด้านต่าง ๆ ดังนี้

(1) การวางเงินหลักประกันด้วยบัตรเดบิต/เครดิตในระบบ EDC Payment โดยไตรมาส 2 ปีงบประมาณพ.ศ.2560 มีผู้ใช้จำนวน 338 ราย เป็นเงิน 46,081,000 บาท โดยมีการให้บริการทุกสำนักงานบังคับคดีทั่วประเทศ

(2) การติดตั้งระบบบัตรคิวอัตโนมัติให้บริการงานบังคับคดีแก่ประชาชนในสำนักงานบังคับคดีแพ่งกรุงเทพมหานคร 1- 6 ตั้งแต่เดือนมกราคม 2560 ที่ผ่านมา และจะมีการติดตั้งระบบบัตรคิวอัตโนมัติ   ในสำนักงานบังคับคดีทั่วประเทศภายในปี 2560

(3) การเชื่อมโยงข้อมูลหมายบังคับคดีโดยวิธีทางอิเล็กทรอนิกส์กับศาลแพ่งธนบุรี  กรมบังคับคดีเริ่มรับข้อมูลหมายบังคับคดีตั้งแต่วันที่ 17 มีนาคม 2560 และสามารถนำข้อมูลไปดำเนินการ  ได้แบบ Real Time ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญในการขยายกรอบความร่วมมือกับศาลต่างๆ และพัฒนาเข้าสู่ Thailand 4.0 ต่อไป ปัจจุบันได้รับหมายบังคับคดีจากศาลแพ่งธนบุรีแล้ว รวมจำนวน 126 เรื่อง

(4) การเร่งรัดการทำบัญชีรับจ่าย กรมบังคับคดีได้มีหนังสือแจ้งหน่วยงานในสังกัดกรมบังคับคดี เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2560 เรื่องแนวปฏิบัติเกี่ยวกับกำหนดเวลาในการทำบัญชีแสดงรายการรับจ่ายเงินในคดีแพ่ง สำหรับกรณีไม่มีเหตุขัดข้องในการทำบัญชี กำหนดระยะเวลาตั้งแต่วันที่รับเงินเพื่อทำบัญชีถึงวันที่ออกหนังสือแจ้งให้มาตรวจรับรองบัญชี หรือวันที่ส่งเงินไปยังสำนักงานบังคับคดีเจ้าของเรื่อง (กรณีบังคับคดีแทนศาลอื่น) ไม่เกิน 45 วัน

1.6 การดำเนินการตามกรอบความยาก-ง่ายในการประกอบธุรกิจ (Ease of Doing Business) ของธนาคารโลก กรมบังคับคดีได้จัดประชุมให้กับภาคเอกชนผู้ตอบแบบสอบถาม เมื่อวันที่  2 มีนาคม 2560 เพื่อชี้แจงรายละเอียดของแบบสอบถามและผลความคืบหน้าของการดำเนินการด้านต่าง ๆ ของกรมบังคับคดี และเมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2560 ได้จัดส่งคำตอบของแบบสอบถามตัวชี้วัดที่ 9 การบังคับให้เป็นไปตามข้อตกลง (Enforcing Contract) และตัวชี้วัดที่ ๑๐ การแก้ไขปัญหาล้มละลาย (Resolving Insolvency) ไปยังธนาคารโลก รวมทั้งได้นำเสนอเรื่อง การปรับปรุงการยกระดับความยาก-ง่ายในการประกอบธุรกิจที่โดดเด่นด้านการแก้ไขปัญหาล้มละลาย และการบังคับคดีให้เป็นไปตามข้อตกลง ในการประชุมเพื่อชี้แจงและสร้างการรับรู้ในการดำเนินการปรับปรุงสภาพแวดล้อมสำหรับการประกอบธุรกิจ ซึ่งจัดโดยสำนักงาน ก.พ.ร. เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2560 โดยมีดร. วิษณุ เครืองามรองนายกรัฐมนตรีเป็นประธานเปิดการประชุม ณ โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพมหานคร

1.7การพัฒนาเป็นศูนย์กลางวิชาการด้านการบังคับคดีแพ่งและคดีล้มละลายอาเซียน กรมบังคับคดีได้จัดให้มีโครงการประชุมด้านการบังคับคดีร่วมกับหน่วยงานการบังคับคดีแพ่งของประเทศสมาชิกอาเซียนและประเทศคู่เจรจา (จีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้) โดยในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐ จะมีการประชุมระหว่างประเทศว่าด้วยการบังคับคดีแพ่ง: การแลกเปลี่ยนประสบการณ์เพื่อนำไปสู่แนวปฏิบัติที่ดีเลิศ (International Conference on Enforcement of Civil Judgment: Sharing Experiences towards Best Practices) ในวันที่ 7 – 9 มิถุนายน 2560 ณ โรงแรมเบอร์เคลีย์ ประตูน้ำ กรุงเทพมหานคร และได้เสนอรายละเอียดของการจัดการประชุมดังกล่าวไปยังกระทรวงยุติธรรม เพื่อกระทรวงยุติธรรมจะได้นำเสนอต่อที่ประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสอาเซียนด้านกฎหมาย (ASLOM ) ครั้งที่ 17 ระหว่างวันที่ 14-17  พฤษภาคม 2560 ประเทศมาเลเซีย เรียนเชิญให้ประเทศสมาชิกอาเซียนส่งผู้แทนเข้าร่วมการประชุมดังกล่าวเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ระหว่างกันต่อไป