กรุงศรีโชว์กำไรไตรมาสแรก 5.65 พันล้านบาท

21 เม.ย. 2560 | 07:12 น.
21 เม.ย.60 – กรุงศรี (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) และบริษัทในเครือ) รายงานผลกำไรสุทธิไตรมาส 1/2560 ที่โดดเด่น จำนวน 5.65 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนแม้ว่าได้รับผลกระทบจากปัจจัยด้านฤดูกาลของการชำระคืนเงินให้สินเชื่อ โดยปัจจัยขับเคลื่อนผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งในไตรมาส 1/2560 มาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ดอกเบี้ยสุทธิและรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย

สรุปผลประกอบการและฐานะการเงินที่สำคัญในไตรมาส 1/2560

·กำไรสุทธิ: จำนวน 5.65 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.5% จากไตรมาส 4/2559 และเพิ่มขึ้น 9.6% จากไตรมาส 1/2559

·รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย: เพิ่มขึ้น 4.3% จากไตรมาส 4/2559 ปัจจัยหลักเกิดจากการเพิ่มขึ้นของค่าธรรมเนียมจากธุรกิจเช่าซื้อ ธุรกิจบริหารความมั่งคั่ง กองทุน และธุรกิจหลักทรัพย์ และกำไรสุทธิจากเงินลงทุน

·ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ (NIM): อยู่ที่ 3.82% ปรับตัวดีขึ้นจาก 3.79% ในไตรมาส 4/2559

· อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้: อยู่ที่ 48.8% ปรับตัวดีขึ้นจาก 49.9% ในไตรมาส 4/2559

·เงินให้สินเชื่อ: ลดลง 1.2% คิดเป็นจำนวน 16.84 พันล้านบาท เมื่อเทียบกับ ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2559

·การเติบโตของเงินรับฝาก: เพิ่มขึ้น 1.5% หรือจำนวน 17.17 พันล้านบาท เมื่อเทียบกับ ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2559

·สินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs): อยู่ที่ 2.33% ในเดือนมีนาคม 2560

·อัตราส่วนเงินสำรองต่อสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้: อยู่ในระดับแข็งแกร่งที่ 143.0%

·อัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง: อยู่ที่ 14.4% เทียบกับ 14.2% ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2559

ในไตรมาส 1/2560 กรุงศรีมีกำไรสุทธิจำนวน 5.65 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 495 ล้านบาท หรือ 9.6% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/2559 ปัจจัยหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของกำไรจากการดำเนินงานและการลดลงของเงินสำรอง

หากเมื่อเทียบกับไตรมาส 4/2559 กำไรสุทธิไตรมาส 1/2560 เพิ่มขึ้นจำนวน 489 ล้านบาท หรือ 9.5%

เงินให้สินเชื่อ จำนวน 1.43 ล้านล้านบาท ลดลง 16.84 พันล้านบาท หรือ 1.2% เมื่อเทียบกับ ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2559 ทั้งนี้ การลดลงของเงินให้สินเชื่อในไตรมาส 1/2560 มาจากปัจจัยด้านฤดูกาลในการชำระคืนเงินทุนหมุนเวียนของธุรกิจขนาดใหญ่ และการหดตัวตามปัจจัยด้านฤดูกาลในการใช้จ่ายของสินเชื่อบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล ขณะที่สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์และสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยเติบโตต่อเนื่องที่ 2.9% และ 2.0% ตามลำดับ

เงินรับฝาก มีจำนวนทั้งสิ้น 1.13 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.17 พันล้านบาท หรือ 1.5% จากสิ้นเดือนธันวาคม 2559 การเพิ่มขึ้นส่วนใหญ่เป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของเงินรับฝากประจำที่มีอายุน้อยกว่า 1 ปี จำนวน 23.05 พันล้านบาท

ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ อยู่ในระดับแข็งแกร่งที่ 3.82% ในไตรมาส 1/2560 สะท้อนถึงการบริหารต้นทุนทางการเงินที่มีประสิทธิภาพ ด้วยการเพิ่มสัดส่วนเงินทุนต้นทุนต่ำ

อัตราส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ อยู่ที่ 2.33% ขณะที่อัตราส่วนเงินสำรองต่อสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้อยู่ในระดับแข็งแกร่งที่ 143.0%

นายโนริอากิ โกโตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “กรุงศรียังคงเดินหน้าสร้างความเติบโตโดยสามารถรายงานผลกำไรสุทธิที่โดดเด่นในไตรมาส 1/2560 ตอกย้ำการดำเนินภารกิจสำคัญในการขยายสินทรัพย์ ลดต้นทุนทางการเงินและเพิ่มรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย ผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งมีปัจจัยหลักจากการเพิ่มขึ้นของกำไรจากการดำเนินงานและการลดลงของเงินสำรอง สะท้อนถึงความสามารถในการแข่งขันที่แข็งแกร่งของกรุงศรีและพอร์ตสินเชื่อที่สมดุล”

นายโกโตะ ให้ความเห็นเกี่ยวกับแนวโน้มธุรกิจในปี 2560 ว่า “จากแนวโน้มเศรษฐกิจที่ปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องในไตรมาสแรก เราคาดว่าแนวโน้มนี้จะดำเนินต่อไปในทิศทางบวกในช่วงที่เหลือของปีนี้ โดยแรงขับเคลื่อนสำคัญมาจากการเร่งการใช้จ่ายของภาครัฐ ภาคการท่องเที่ยวที่เติบโตแข็งแกร่ง และแนวโน้มการส่งออกที่ปรับตัวดีขึ้น นอกจากนี้ เราคาดว่าภาคการบริโภคจะขยายตัวโดยได้รับอานิสงส์จากราคาสินค้าเกษตรที่เพิ่มขึ้นและหนี้ครัวเรือนที่ลดลง ภายใต้สมมติฐานดังกล่าว ธนาคารจึงยังคงคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ 3.3% ซึ่งจะส่งผลสนับสนุนต่อการขยายตัวของสินเชื่ออย่างครอบคลุมที่ 6-8% ในปี 2560”

ณ วันที่ 31 มีนาคม 2560 กรุงศรีซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจการเงินที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับห้าของไทย มีสินเชื่อรวม 1.43 ล้านล้านบาท เงินรับฝาก 1.13 ล้านล้านบาท และสินทรัพย์รวม 1.86 ล้านล้านบาท ขณะที่เงินกองทุนของธนาคารอยู่ในระดับแข็งแกร่งที่ 191.28 พันล้านบาทหรือเทียบเท่า 14.4% ของสินทรัพย์เสี่ยง โดยเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 1 ที่เป็นของเจ้าของคิดเป็น 11.9%