‘เวียดนาม’ทุ่มวิจัยรถไร้คนขับ กลุ่มเอฟพีทีตั้งทีมศึกษา-คาดเปิดระบบต้นแบบต.ค.นี้
“เอฟพีที” กลุ่มธุรกิจไอทีใหญ่ที่สุดของเวียดนามตั้งทีมวิศวกรเฉพาะกิจ 1,000 คน ศึกษาเทคโนโลยีรถไร้คนขับ ราคาประหยัด ประกาศเปิดตัวระบบที่พัฒนาขึ้นเองครั้งแรกเดือนตุลาคมนี้ เผยตั้งเป้าเป็นผู้นำเทคโนโลยีรถอัตโนมัติในอาเซียน
นิตยสารนิกเกอิเอเชียนรีวิว รายงานว่าบริษัทเอฟพีบีซึ่งตั้งทีมวิศวกรเฉพาะกิจตั้งแต่ปีที่แล้ว ตั้งเป้าผลิตระบบซอฟท์แวร์สำหรับรถไร้คนขับที่มีราคาประหยัดภายใน 2 ปี และจะเปิดตัวระบบต้นแบบในเดือนตุลาคมปีนี้ โดยคาดว่าจะมีรายได้จากการขายระบบซอฟต์แวร์ที่พัฒนาขึ้น 200 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 7,000 ล้านบาท) ตั้งแต่ปีพ.ศ. 2563
เอฟพีทีได้พัฒนารถต้นแบบขนาดเล็กที่ติดตั้งอุปกรณ์กล้อง 360 องศาและเซ็นเซอร์และทดสอบแล้วเตรียมที่จะนำไปติดตั้งรถยนต์จริง ๆ และเริ่มทดสอบวิ่งบนท้องถนน
นิกเกอิเอเชียนรีวิว ระบุว่า เอฟพีที กำลังทำงานร่วมกับผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติอเมริกัน ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ เพี่อขายระบบสำหรับติดตั้งให้แก่รถรุ่นใหม่ที่ผลิตและขายในตลาดเอเชีย โดยผู้บริหารคนหนึ่งของบริษัทเปิดเผยว่า เทคโนโลยีรถไร้คนขับ เป็นหัวใจสำคัญในการพัฒนาเทคโนโลยี อินเตอร์เน็ตออฟธิงค์ ของบริษัท
นอกจาก อินเตอร์เน็ตออฟธิงค์ แล้ว บริษัทเอฟพีที ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่นครฮานอย ยังได้ทำการวิจัยและพัฒนาในเทคโนโลยีแห่งอนาคตที่หลากหลายทั้งหุ่นยนต์ เวชระเบียนอิเล็กทรอนิกส์และโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ
นักวิเคราะห์ในตลาดหุ้นเวียดนามระบุว่า การรุกเข้าสู่ธุรกิจเทคโนโลยีรถไร้คนขับของเอฟพีที เป็นการแข่งขันกับยักษ์ใหญ่ของโลก ทั้งกูเกิ้ล แอปเปิ้ลและเทสล่า แต่ก็เชื่อว่าเอฟพีที อาจจะมีโอกาสได้ครองตลาดบางส่วนในอาเซียน เนื่องจากกลุ่มคนมีรายได้ระดับปานกลางและสูงมีจำนวนเพิ่มขึ้น ซึ่งคาดว่าคนกลุ่มนี้จะเป็นตลาดสำคัญของรถไร้คนขับ
กลุ่มบริษัท เอฟพีที ในปีที่แล้วมียอดขายรวม 1,760 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 61,600 ล้านบาท) เพิ่มขึ้น 14 % เมื่อเทียบกับปี 2558 และปีนี้คาดว่าจะมีรายได้เพิ่มขึ้น 17.5 %
[caption id="attachment_142669" align="aligncenter" width="503"]
เจือง ยา บิ่ง[/caption]
เส้นทาง เอฟพีที
เอฟพีที กรุ๊ป (FPT Group) เป็นกลุ่มธุรกิจทางด้านไอทีและโทรคมนาคมใหญ่สุดของประเทศเวียดนาม มีสาขาใน 14 ประเทศ สำนักงานอยู่ที่ฮานอย โฮจิมินห์และดานัง มีกิจการทางด้านจัดหาซอฟต์แวร์ สื่อสารโทรคมนาคม พัฒนาที่ดิน สถาบันการศึกษา ธนาคารและบริการทางการเงิน
ผู้ก่อตั้ง เอฟพีทีกรุ๊ป คือนาย เจือง ยา บิ่ง (Truong Gia Bingh) นักธุรกิจรุ่นใหม่ชาวเวียดนาม ซึ่งเคยขึ้นชั้น เป็นมหาเศรษฐีอันดับ 1 ของประเทศ เป็นผู้นำที่ได้ประกาศวิสัยทัศน์ผลักดันให้กลุ่มบริษัท เอฟพีที ที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นเวียดนาม ให้ขึ้นชั้นเป็นบริษัทชั้นนำของโลก ตั้งเป้าติดอันดับ 1 ใน 500 บริษัทต้น ๆ ของฟอร์จูนโกลเบิ้ล 2000 ภายใน 10 ปี
นาย เจือง ยา บิ่ง เกิดปีพ.ศ. 2499 พ่อของเขาคือ เจือง ยา โท (Troung Gia Tho) นายแพทย์ที่กรุงฮานอย ผู้มองการณ์ไกล ด้วยการส่งลูกชายไปเรียนปริญญาตรีต่อที่ มหาวิทยาลัย Lomonosov Moscow State University ในรัสเซีย คณะกลศาสตร์วิศวกรรมและคณิตศาสตร์ และเรียนจนจบปริญญาเอกในปีพ.ศ. 2525
นายบิ่ง แต่งงานครั้งแรกกับลูกสาวของนายพล โวเหวียนเกี๊ยบ วีรบุรุษนักรบผู้ยิ่งใหญ่ของเวียดนาม มีลูกด้วยกัน 1 คน นับเป็นนักธุรกิจที่มีวิสัยทัศน์น่าสนใจที่สุดคนหนึ่งของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,255 วันที่ 23 - 26 เมษายน พ.ศ. 2560
นิตยสารนิกเกอิเอเชียนรีวิว รายงานว่าบริษัทเอฟพีบีซึ่งตั้งทีมวิศวกรเฉพาะกิจตั้งแต่ปีที่แล้ว ตั้งเป้าผลิตระบบซอฟท์แวร์สำหรับรถไร้คนขับที่มีราคาประหยัดภายใน 2 ปี และจะเปิดตัวระบบต้นแบบในเดือนตุลาคมปีนี้ โดยคาดว่าจะมีรายได้จากการขายระบบซอฟต์แวร์ที่พัฒนาขึ้น 200 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 7,000 ล้านบาท) ตั้งแต่ปีพ.ศ. 2563
เอฟพีทีได้พัฒนารถต้นแบบขนาดเล็กที่ติดตั้งอุปกรณ์กล้อง 360 องศาและเซ็นเซอร์และทดสอบแล้วเตรียมที่จะนำไปติดตั้งรถยนต์จริง ๆ และเริ่มทดสอบวิ่งบนท้องถนน
นิกเกอิเอเชียนรีวิว ระบุว่า เอฟพีที กำลังทำงานร่วมกับผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติอเมริกัน ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ เพี่อขายระบบสำหรับติดตั้งให้แก่รถรุ่นใหม่ที่ผลิตและขายในตลาดเอเชีย โดยผู้บริหารคนหนึ่งของบริษัทเปิดเผยว่า เทคโนโลยีรถไร้คนขับ เป็นหัวใจสำคัญในการพัฒนาเทคโนโลยี อินเตอร์เน็ตออฟธิงค์ ของบริษัท
นอกจาก อินเตอร์เน็ตออฟธิงค์ แล้ว บริษัทเอฟพีที ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่นครฮานอย ยังได้ทำการวิจัยและพัฒนาในเทคโนโลยีแห่งอนาคตที่หลากหลายทั้งหุ่นยนต์ เวชระเบียนอิเล็กทรอนิกส์และโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ
นักวิเคราะห์ในตลาดหุ้นเวียดนามระบุว่า การรุกเข้าสู่ธุรกิจเทคโนโลยีรถไร้คนขับของเอฟพีที เป็นการแข่งขันกับยักษ์ใหญ่ของโลก ทั้งกูเกิ้ล แอปเปิ้ลและเทสล่า แต่ก็เชื่อว่าเอฟพีที อาจจะมีโอกาสได้ครองตลาดบางส่วนในอาเซียน เนื่องจากกลุ่มคนมีรายได้ระดับปานกลางและสูงมีจำนวนเพิ่มขึ้น ซึ่งคาดว่าคนกลุ่มนี้จะเป็นตลาดสำคัญของรถไร้คนขับ
กลุ่มบริษัท เอฟพีที ในปีที่แล้วมียอดขายรวม 1,760 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 61,600 ล้านบาท) เพิ่มขึ้น 14 % เมื่อเทียบกับปี 2558 และปีนี้คาดว่าจะมีรายได้เพิ่มขึ้น 17.5 %
[caption id="attachment_142669" align="aligncenter" width="503"]
เส้นทาง เอฟพีที
เอฟพีที กรุ๊ป (FPT Group) เป็นกลุ่มธุรกิจทางด้านไอทีและโทรคมนาคมใหญ่สุดของประเทศเวียดนาม มีสาขาใน 14 ประเทศ สำนักงานอยู่ที่ฮานอย โฮจิมินห์และดานัง มีกิจการทางด้านจัดหาซอฟต์แวร์ สื่อสารโทรคมนาคม พัฒนาที่ดิน สถาบันการศึกษา ธนาคารและบริการทางการเงิน
ผู้ก่อตั้ง เอฟพีทีกรุ๊ป คือนาย เจือง ยา บิ่ง (Truong Gia Bingh) นักธุรกิจรุ่นใหม่ชาวเวียดนาม ซึ่งเคยขึ้นชั้น เป็นมหาเศรษฐีอันดับ 1 ของประเทศ เป็นผู้นำที่ได้ประกาศวิสัยทัศน์ผลักดันให้กลุ่มบริษัท เอฟพีที ที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นเวียดนาม ให้ขึ้นชั้นเป็นบริษัทชั้นนำของโลก ตั้งเป้าติดอันดับ 1 ใน 500 บริษัทต้น ๆ ของฟอร์จูนโกลเบิ้ล 2000 ภายใน 10 ปี
นาย เจือง ยา บิ่ง เกิดปีพ.ศ. 2499 พ่อของเขาคือ เจือง ยา โท (Troung Gia Tho) นายแพทย์ที่กรุงฮานอย ผู้มองการณ์ไกล ด้วยการส่งลูกชายไปเรียนปริญญาตรีต่อที่ มหาวิทยาลัย Lomonosov Moscow State University ในรัสเซีย คณะกลศาสตร์วิศวกรรมและคณิตศาสตร์ และเรียนจนจบปริญญาเอกในปีพ.ศ. 2525
นายบิ่ง แต่งงานครั้งแรกกับลูกสาวของนายพล โวเหวียนเกี๊ยบ วีรบุรุษนักรบผู้ยิ่งใหญ่ของเวียดนาม มีลูกด้วยกัน 1 คน นับเป็นนักธุรกิจที่มีวิสัยทัศน์น่าสนใจที่สุดคนหนึ่งของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,255 วันที่ 23 - 26 เมษายน พ.ศ. 2560