ธนชาตกำไรเติบโต 9 ไตรมาสติด เช่าซื้อเริ่มเป็นบวก NPL ลดลงต่อเนื่อง

19 เม.ย. 2560 | 14:47 น.
ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 1 ปี 2560 เติบโตขึ้นอย่างแข็งแกร่งในทุกมิติ พร้อมผลักดันเต็มสูบให้ธนชาตเป็นธนาคารหลัก (Main Bank) ของลูกค้า ด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์ทางการเงินและบริการที่ครบวงจรต่อความต้องการที่หลากหลายในแต่ละกลุ่มลูกค้า รวมทั้งการเปิดประสบการณ์ใหม่สำหรับการบริการแบบธนาคารดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบสอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้บริโภคในยุคนี้ผ่านรูปแบบสาขาใหม่ คือ Thanachart Express และ Thanachart Next

นายสมเจตน์  หมู่ศิริเลิศ    ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่  ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือ TBANK กล่าวว่า “ในไตรมาส 1 ปี 2560 ธนาคารธนชาตและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิจำนวน 3,272 ล้านบาท เติบโตต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 9 ติดต่อกัน โดยเพิ่มขึ้น 1.30% จากไตรมาสก่อน ในขณะที่เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน กำไรสุทธิเติบโตขึ้น 15.05% โดยเป็นผลมาจาก การมุ่งเน้นความแข็งแกร่งของคุณภาพสินทรัพย์อย่างต่อเนื่อง การบริหารค่าใช้จ่ายสำรองอย่างมีประสิทธิภาพ และการเพิ่มขึ้นของรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการ สำหรับสินทรัพย์รวมของธนาคารได้ปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากสิ้นปีก่อน สาเหตุหลักมาจาก สินเชื่อเช่าซื้อและสินเชื่อรายย่อยมีการปรับเพิ่มตัวขึ้น และเงินลงทุนที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น สำหรับ สินเชื่อด้อยคุณภาพของธนาคารธนชาตและบริษัทย่อยปรับตัวลดลงเป็นไตรมาสที่ 11 ติดต่อกัน โดยมี NPL Ratio คงเหลืออยู่ที่ 2.21% และ Coverage Ratio ปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 156.80% ด้านเงินกองทุน ธนาคารมีอัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 19.55%”

นายสมเจตน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ธนชาตมีนโยบายเชิงรุกที่จะทำให้ลูกค้ามาใช้บริการของธนาคารธนชาตให้เป็น “ธนาคารหลัก (Main Bank)”  เพราะได้ทำการศึกษาลูกค้าอย่างลึกซึ้งจึงรู้จักและเข้าใจความต้องการของลูกค้าในแต่ละกลุ่มแต่ละประเภท โดยนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินและมุ่งเน้นให้ได้รับความสะดวกสบายและความเป็นธรรมแก่ลูกค้าในทุกๆ กลุ่ม ให้ได้รับผลประโยชน์ทางการเงินที่ดีที่สุดเท่านั้น ทั้งนี้ ธนาคารได้ลงทุนเพื่อสร้างบุคลากรของธนาคารให้มีความรู้ความเข้าใจในผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินอย่างต่อเนื่อง เพื่อพนักงานสามารถให้คำแนะนำและคำปรึกษาที่ถูกต้องเหมาะสมแก่ลูกค้าได้อย่างตรงจุด รวมทั้งจัดให้มีช่องทางการให้บริการแก่ลูกค้าที่สะดวกและมีความหลากหลายเหมาะแก่ลูกค้าแต่ละกลุ่มด้วยเทคโนโลยีและกระบวนการบริการที่กระชับ เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีแก่ลูกค้าในการใช้บริการของธนาคาร นอกจากนี้ เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ธนชาตได้เข้าร่วมพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงการให้บริการวางอุปกรณ์ชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ ภายใต้แผนยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบการชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์แห่งชาติ (National e-Payment) ร่วมกับอีก 4 ธนาคารในนาม กลุ่มธนาคารพันธมิตร TAPS (Thai Alliance Payment System) เพื่อวางเครือข่ายการติดตั้งเครื่องชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ รองรับการใช้จ่ายได้อย่างทั่วถึง และอำนวยความสะดวกสบายให้แก่ลูกค้ามากยิ่งขึ้น ตอบโจทย์พฤติกรรมของผู้บริโภคในยุคดิจิทัลนี้”

นายปีเตอร์ เบสซี่ รองประธานกรรมการบริหารและรองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) กล่าวเสริมว่า “พฤติกรรมของผู้บริโภคมีแนวโน้มในการทำธุรกรรมทางการเงินด้วยตนเองมากขึ้น ธนชาตจึงได้พัฒนาช่องทางการให้บริการผ่านการเปิดตัวรูปแบบสาขาขึ้นใหม่ 2 รูปแบบ โดย Thanachart Express ที่สาขามันนี่ปาร์ค ศูนย์การค้าเอ็มบีเค เซ็นเตอร์ ชั้น 4 ได้มุ่งเน้นให้ลูกค้าทำธุรกรรมได้อย่างสะดวกรวดเร็วด้วยตนเองผ่านเครื่องอิเล็กทรอนิกส์เป็นหลัก พร้อมให้บริการคำแนะนำปรึกษาผลิตภัณฑ์ทางการเงินต่างๆด้วยบุคลากรที่มีศักยภาพสูงด้านการเงินและการลงทุน ขณะที่ Thanachart Next ที่สาขาสยามพารากอนนั้น ได้ให้บริการธุรกรรมทางการเงินที่ทันสมัยและครบวงจร มีการให้บริการทั้งแบบเคาน์เตอร์และตู้ให้บริการอัติโนมัติ พร้อมผู้เชี่ยวชาญทางด้านการเงินที่จะส่งมอบบริการให้แก่ลูกค้าอย่างมืออาชีพ เพื่อตอกย้ำนโยบายของธนชาตในการมุ่งสู่การเป็นธนาคารหลัก (Main Bank) ของลูกค้าอย่างแท้จริง”