DW เทรดสูงสุดในประวัติการณ์ไตรมาส1  บัวหลวง แนะวิธีดูราคาสูงเกินจริง

19 เม.ย. 2560 | 06:47 น.
นายบรรณรงค์ พิชญากร กรรมการผู้จัดการ กิจการค้าหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์(บล.) บัวหลวง   บริษัทที่มีส่วนแบ่งการตลาดอันดับ 1 ในใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์หรือ  DWเปิดเผยว่า ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวผันผวนตลอดทั้งไตรมาส 1/2560  จูงใจให้นักลงทุนเข้าเก็งกำไรใน  DW เป็นจำนวนมากส่งผลให้ปริมาณการซื้อขาย DW  ทุกประเภทสูงขึ้นเป็น 5.6% หรือสูงสุดนับตั้งแต่ไตรมาส 3/2552 ที่สำนักงานก.ล.ต.อนุญาตให้มีการเสนอขาย DW ได้เป็นครั้งแรกในประเทศไทย

“ในไตรมาส 1 มีหลายปัจจัยทำให้นักลงทุนเข้าเก็งกำไร Call DW ที่อ้างอิงหุ้น CK, ITD, STEC, PTT, PTTEP  รวมถึงตลาดมีความกังวลเรื่องความโปร่งใสของบริษัทกรุ๊ปลีส (GL)  มีแรงเก็งกำไร Put DW อ้างอิงหุ้น  GL, MTLS, SAWAD ในช่วงปลายไตรมาส  นอกจากนั้นดัชนีตลาดปรับตัวดีขึ้นภายหลังรัฐบาลเดินหน้าออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่อเนื่องและการกลับมาซื้อหุ้นคืนของกองทุนต่างๆ เพื่อทำราคาปิด ณ สิ้นงวด นักลงทุนจึงกลับเข้ามาเก็งกำไร Call DW บนหุ้นขนาดใหญ่ อย่างเช่น AOT, BANPU, KBANK, SCB อีกครั้ง”นายบรรณรงค์กล่าว

ส่วนกลุ่มหุ้นอ้างอิงที่นักลงทุนซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรกอยู่ในกลุ่มดัชนีหลักทรัพย์ 47.5%, กลุ่มพลังงานและสาธารณูปโภค10.7%, และกลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 8.6% ทั้งนี้ DW ที่ได้รับความนิยมสูงสุด ยังคงเป็น DW ที่อ้างอิงกับดัชนี SET50 ซึ่งมีการซื้อขายสูงถึง 47.5% ของการซื้อขาย DW ทั้งหมด โดยนักลงทุนให้ความสนใจ Call DW  เป็นจำนวนมากเมื่อดัชนี SET50 เคลื่อนไหวใกล้แนวรับสำคัญที่ 970 จุด

อันดับสองเป็น  DW อ้างอิงหุ้น GL มีสัดส่วนการซื้อขายสูงถึง 3.7% โดยนักลงทุนให้ความสนใจ Call DW เป็นจำนวนมากจนกระทั่งทำให้ผู้ออกหลายรายได้กระจายขาย DW ได้ครบจำนวนที่จดทะเบียนกับตลาดหลักทรัพย์ฯ ส่งผลให้ราคาซื้อขายในกระดานสูงเกินจริงมากกว่า 100%  ส่วนอันดับ 3 เป็น DW อ้างอิงหุ้น PTT มีสัดส่วนการซื้อขาย 3.6%  โดยนักลงทุนให้ความสนใจซื้อ Call DW อย่างหนาแน่นภายหลังราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้นแตะจุดสูงสุดในรอบ 18 เดือนที่ระดับ 58 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลช่วงเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา

สำหรับ DW ที่มีการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ ณ สิ้นไตรมาส1/2560  มีทั้งหมด 1,094 รุ่น โดยบล.บัวหลวงยังคงมีจำนวน DW สูงสุดในระบบคิดเป็น 15.90% ของจำนวน DW ที่มีการซื้อขายทั้งหมดในตลาดและมีจำนวนหลักทรัพย์อ้างอิงให้เลือกสูงสุดคิดเป็น 74.29% รวมทั้งยังครองส่วนแบ่งการตลาดอันดับ 1 อยู่ที่ 34% เมื่อคิดจากมูลค่าการซื้อขายสะสมในไตรมาส 1/2560 และหากพิจารณาจากยอดถือครอง DW เฉลี่ยโดยนักลงทุน หลักทรัพย์บัวหลวงก็ยังเป็นผู้ออกที่มีส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับ1 เช่นกัน

นายบรรณรงค์ กล่าวว่า ในไตรมาสแรกที่ผ่านมา พบว่ามี DW บางตัวมีปัญหาเนื่องจากได้กระจายขายได้เกือบครบจำนวนที่จดทะเบียนกับตลาดหลักทรัพย์ และไม่สามารถปรับราคาในกระดานให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมได้ ซึ่งได้สร้างความเสียหายให้กับนักลงทุนที่ไม่ได้ติดตามข่าวสาร หลักทรัพย์บัวหลวงในฐานะผู้ออก DW01 จึงขอแนะนำว่า นักลงทุนควรติดตามข่าวสารการลงทุนจากผู้ออก DW อย่างสม่ำเสมอจากเว็บไซต์ตลาดหลักทรัพย์ (www.set.or.th), เว็บไซต์ผู้ออก DW (เช่น www.blswarrant.com) หรือ Line Application (เช่น @bualuangsec)  เพราะเมื่อผู้ออกฯ ไม่สามารถควบคุมราคาได้ตามปกติ จะมีการแจ้งเตือนให้นักลงทุนหลีกเลี่ยงการลงทุนทันที

นอกจากนี้นักลงทุนควรเลี่ยงการลงทุนใน DW ที่คาดว่ามีปัญหาได้ด้วยตนเอง โดยไม่ต้องรอให้ผู้ออกฯ แจ้งเตือนหากเกิดกรณีอย่างใดอย่างหนึ่งดังต่อไปนี้  1) DW มีราคาซื้อขายในปัจจุบันสูงกว่าราคาที่เหมาะสมมากๆ โดยนักลงทุนสามารถตรวจสอบได้ที่ www.blswarrant.com  2) DW ที่หุ้นอ้างอิงถูกขึ้นเครื่องหมาย T1 โดยตลาดหลักทรัพย์ฯ เพื่อให้ซื้อขายด้วยบัญชีที่ต้องวางเงินสดเต็มจำนวน (Cash Balance) 3)  DW ที่เคลื่อนไหวไม่สอดคล้องกับราคาหลักทรัพย์อ้างอิง เช่นราคาหลักทรัพย์อ้างอิงปรับตัวลงมากๆ ในระหว่างวัน แต่ราคา Call DW ไม่ได้รับผลกระทบหรือปรับตัวสูงขึ้น 4) DW มีปริมาณ Bid หรือ Offer Volume น้อยกว่าปกติมากๆ และมีความไม่สม่ำเสมอในแต่ช่วงเวลา สะท้อนภาวะการซื้อขายที่อาจไม่อยู่ในการควบคุมของผู้ดูแลสภาพคล่อง