KTB ดิ่ง 3% ตกใจเอ็นพีแอลโผล่ 1 หมื่นล้าน

19 เม.ย. 2560 | 05:09 น.
นักลงทุนพร้อมใจกันเทขายหุ้นธนาคารกรุงไทย(KTB) และหุ้นในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ กดดันราคาหุ้นให้ปรับตัวลงมาก KTB ซื้อขายที่ 20 บาท ลดลง 0.80 บาทคิดเป็น 3.85%หลังจากธนาคารกรุงไทยเปิดผลกำไรสุทธิไตรมาส1/2560ดีกว่าที่คาดการณ์ แต่มียอดหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(เอ็นพีแอล)เพิ่มขึ้นถึง 1 หมื่นล้านบาทจากไตรมาส4/2559 ทำให้เกิดความกังวลว่ากรุงไทยจะต้องตั้งสำรองเพิ่มขึ้นในปีนี้

บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ธนาคารกรุงไทย มีกำไรสุทธิ 8,561 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 992 ล้านบาทหรือ13% จากงวดเดียวกันปีก่อนมีกำไรสุทธิ 8,531 ล้านบาท ถือว่าใกล้เคียงกับที่คาดการณ์ กำไรที่ดีขึ้นมาจากการตั้งสำรองลดลง แต่ยอดหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) พุ่งขึ้นแรงราว 1 หมื่นล้านบาทจากไตรมาส 4/2559 ทำให้ NPL ratio ปรับขึ้นเป็น 4.36% จาก 3.97% ในไตรมาสก่อน มาจากกลุ่มลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่ และ SME โดยยังคงราคาพื้นฐาน 24 บาท พร้อมแนะให้"รออ่อนตัวซื้อ"

ด้านนักวิเคราะห์บล.บัวหลวง เปิดเผยว่า กำไรของ KTB ออมาดีกว่าเราและตลาดคาด 4%

ธนาคารระบุว่าในไตรมาส 1/2560 ธนาคาร มีเงินให้สินเชื่อ 1,913,287 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9,198 ล้านบาท จากลูกค้าภาครัฐและธุรกิจขนาดใหญ่ มีเงินฝาก 1,991,444 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19,040 ล้านบาทจากสิ้นปี 2559 โดยได้กันสำรองหนี้สูญ และขาดทุนจากการด้อยค่าจำนวน 7,460 ล้านบาท ลดลง 1,163 ล้านบาท และมีอัตราส่วนเงินสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพ เท่ากับ 112.11% ลดลงจาก 121.57% ณ 31 ธันวาคม 59

ธนาคารและบริษัทย่อยมีสินเชื่อด้อยคุณภาพ (NPL) ณ 31 มีนาคม 2560 จำนวน 100,382 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9,254 ล้านบาท หรือ 10.15% จากลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่และลูกค้าวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมในบางอุตสาหกรรม อัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพ NPL Ratio (Net) เท่ากับ 1.94% และ NPL Ratio (Gross) เท่ากับ 4.36%

ทั้งนี้ธนาคารได้ดูแลคุณภาพสินทรัพย์อย่างใกล้ชิด มีความระมัดระวังในการพิจารณาสินเชื่อ รวมทั้งให้ความสำคัญในการติดตามหนี้อย่างรวดเร็ว และปรับโครงสร้างหนี้ตามความเหมาะสม