ASEFA ต่อยอดวิศกรรมไฟฟ้า ขยายธุรกิจดันรายได้ เล็งซื้อกิจการเจาะกลุ่มลูกค้าเฉพาะ

25 เม.ย. 2560 | 03:00 น.
อาซีฟา เบอร์ 1 ตู้สวิตช์บอร์ด ลุยขยายงานวิศวกรรมระบบงานไฟฟ้า ดันรายได้ปีนี้โต 15% หรือ 3.2 พันล้านบาท เล็งซื้อกิจการนอกตลาดเจาะกลุ่มลูกค้าเฉพาะกลุ่ม เผยงานในมือปัจจุบันกว่า 500 ล้านบาท

นายไพบูลย์ อังคณากรกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท อาซีฟา ( ASEFA ) ผู้ผลิตและจำหน่ายตู้สวิตช์บอร์ดรายใหญ่ของไทย เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า แผนงานปีนี้บริษัทเน้นการเติบโตของงานวิศวกรรมระบบงานไฟฟ้ามากขึ้น จากเดิมปีก่อนที่มีรายได้งานวิศวกรรม 296 ล้านบาท หรือคิดเป็น 11 % ของรายได้ ปีนี้มีเป้าหมายเพิ่มขึ้นเป็น 15 % จากปีที่ผ่านมา ซึ่งงานวิศวกรรมที่เพิ่มขึ้น เป็นงานที่บริษัทรับงานโดยตรงจากลูกค้า เช่น การประมูลสายไฟฟ้าลงใต้ดิน มูลค่า 110 ล้านบาท , งานวางสายไฟใต้ดิน สนามบินเบตงฯ

สำหรับงานสวิตช์บอร์ด ยังเป็นงานหลักที่มีรายได้ 1,986 ล้านบาท หรือสัดส่วน 71 % ของรายได้ปีที่ผ่านมา ซึ่งปีนี้การทำรายได้จะลงมาเหลือ 65 % ขณะที่รายได้จากการเทรดดิ้ง ซื้อมา-ขายไป อุปกรณ์ไฟฟ้า สัไม่เปลี่ยนแปลง หรือประมาณ 15-16 % และรายได้ค่าบำรุง ดูแล ยังมีสัดส่วนน้อย 3-4%

ทั้งนี้ อาซีฟา ประกอบธุรกิจ 4 ประเภท คือ 1.งานผลิตและจำหน่าย ตู้สวิทบอร์ดสำหรับงาน ที่ได้รับลิขสิทธิ์แบรนด์ Schneider เพียงรายเดียวในประเทศไทย จากบริษัท Schneider ประเทศเยอรมัน ในลิขสิทธิ์ตู้สวิตช์บอร์ด NEX , BLOKSET และ BIOSCO ปัจจุบันมีสัดส่วนการผลิตและขายตู้ลิขสิทธิ์ ของ Schneiderคิดเป็น 40 % ที่เหลือ 60 % เป็นตู้สวิตช์บรอดแบรนด์ASEFA นอกจากนี้ยังได้ลิขสิทธิ์บริษัท Socomecด้วย แต่มีสัดส่วนการผลิตไม่มาก
2. งานวิศวกรรมเกี่ยวกับระบบงานไฟฟ้า ,งานดาต้าเซ็นเตอร์ทั้งระบบ , ระบบส่องสว่าง , ปรับปรุงคุณภาพงานไฟฟ้า , ระบบควบคุมสั่งการอัตโนมัติ 3. ธุรกิจเทรดดิ้งอุปกรณ์ไฟฟ้า และ งานบำรุงรักษา รื้อถอน

“ อาซีฟา เป็นผู้นำระบบงานไฟฟ้า เป็นทั้งผู้ผลิตและจำหน่าย นำเข้า อุปกรณ์ไฟฟ้า ลิขสิทธิ์ Schneider จากเยอรมันเพียงรายเดียวการเติบโตของอาซีฟาจะเกาะไปกับการใช้ไฟฟ้าและพลังงานไฟฟ้า ตามความต้องการใช้ไฟฟ้าของลูกค้า ซึ่งต้องมีสวิทบอร์ดควบคุมระบบไฟ ทำให้บริษัทมีลูกค้าหลากหลาย ก่อสร้างขนาดใหญ่ โรงแรม ห้างสรรพสินค้า โรงพยาบาล , โรงงาน , ดาต้าเซ็นเตอร์ของเทเลคอม , ระบบขนส่ง ”

ปัจจุบัน อาซีฟา มีพนักงานทั้งหมด 1,200 คน โดย 200 คน เป็นวิศวกรรมไฟฟ้า ซึ่งบริษัทให้ความสำคัญกับการอบรมของพนักงาน เนื่องจากเป็นธุรกิจที่ต้องใช้ความชำนาญวิศกรรมไฟฟ้า

กรรมการผู้จัดการ กล่าวถึง การผลิตแบตเตอรี่สำหรับไฟฟ้าว่า หากเป็นการลงทุนไม่มาก 200 ล้านบาท ก็สนใจ ตามศักยภาพของบริษัทที่ระมัดระวังการลงทุน และโฟกัสกับธุรกิจหลักที่มีความชำนาญ 4 ประเภท มากกว่า แต่ยอมรับว่า มีความสนใจซื้อกิจการบริษัทผู้ประกอบการตู้สวิตช์บอร์ด ขนาดเล็ก นอกตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งมีกระจัดกระจายกว่า 100 บริษัท เพื่อให้อาซีฟา เสริมจุดที่ยังมีส่วนแบ่งตลาดมากขึ้นในแต่ละจุด

“ อาซีฟา เป็นเบอร์ 1 ของตลาดสวิตช์บอร์ดและอุปกรณ์ประกอบ มีส่วนแบ่งตลาดหรือมาร์เก็ตแชร์ 10 % ของมูลค่าตลาด 25,000- 30,000 ล้านบาท ซึ่งมาร์เก็ตแชร์ไม่ได้มาก เพราะมีผู้เล่นในตลาดเป็น 100 ราย จึงต้องการทะลุทะลวงบางจุด จากการซื้อกิจการนอกตลาดเข้ามาเสริมจุดที่มาร์เก็ตแชร์ต่ำ รวมถึงการต่อยอดงานวิศวกรรมไปยังงานระบบดาต้า เซ็นเตอร์ ด้วย ขณะที่เบอร์ 2 มีมาร์เก็ตแชร์ 1 ใน 3 ของ อาซีฟา โดยบริษัทมีรายได้จากการผลิตและขายตู้สวิตช์บอร์ดและอุปกรณ์ประกอบ 70 % ของรายได้รวมบริษัท” นายไพบูลย์ กล่าว

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,254 วันที่ 20 - 22 เมษายน พ.ศ. 2560