KGI เตรียมรุกธุรกิจ “Wealth Management”

17 เม.ย. 2560 | 05:17 น.
ผู้ถือหุ้น KGI อนุมัติ จ่ายเงินปันผล 0.38 บาท คิดเป็น 78% ของกำไรสุทธิ พร้อมขอขยายวงเงินออกหุ้นกู้หรือหุ้นกู้อนุพันธ์ จากเดิมไม่เกิน 1,000 ล้านบาท เป็นไม่เกิน 4,000 ล้านบาท ทั้งยังเตรียมเสริมทัพด้วยธุรกิจใหม่ “Wealth Management”

นาย จื้อ-หง หลิน กรรมการอำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ KGI เปิดเผยถึงผลประชุมสามัญประจำปี 2560 ว่า ผู้ถือหุ้นมีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลจากการดำเนินงานประจำปี 2559 ในอัตราหุ้นละ 0.38 บาท รวมเป็นเงินประมาณ 757 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราการจ่ายเงินปันผล 78% ของกำไรสุทธิสำหรับปีจากงบการเงินเฉพาะกิจการ ทั้งนี้ กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผล (Record Date) ในวันที่ 20 เมษายน 2560  กำหนดปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้น ในวันที่ 21 เมษายน 2560 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 9 พฤษภาคม 2560

"ผลประกอบการของบริษัทในปี 2559 ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ หรือมีกำไรสุทธิ 1,022 ล้านบาท พร้อมพิจารณาจ่ายเงินปันผลในอัตรา 78% ของกำไรสุทธิ เนื่องจากบริษัทฯ เห็นโอกาสจากการลงทุน ที่คาดว่าจะสามารถสร้างผลตอบแทนให้แก่บริษัทฯ และผู้ถือหุ้นได้ในอนาคต และปัจจุบันอยู่ระหว่างพิจารณาขยายเข้าสู่ธุรกิจ “Wealth Management" กรรมการอำนวยการ กล่าว

พร้อมกันนี้ ที่ประชุมผู้ถือหุ้นมีมติอนุมัติเพิ่มวงเงินในการออกและเสนอขายหุ้นกู้ หรือหุ้นกู้อนุพันธ์ของบริษัทฯ จากเดิมไม่เกิน 1,000 ล้านบาท เป็นไม่เกิน 4,000 ล้านบาท ก่อนหน้านี้ทางทริสเรทติ้ง ได้เพิ่มอันดับเครดิตของบริษัท จาก BBB+ เป็น A- สะท้อนความแข็งแกร่งและฐานะการเงินของบริษัท

ปัจจุบันบริษัทมีฐานะการเงินแข็งแกร่ง โดยมีสินทรัพย์ 1.4  หมื่นล้านบาท ส่วนของผู้ถือหุ้น 5,481 ล้านบาท อัตราการดำรงเงินกองทุนสภาพคล่องสุทธิ(NCR) อยู่ที่ 59%

ในปี 2559 บริษัทมีรายได้รวม 3,246 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโต  31% จากปีก่อนหน้า เนื่องจากการดำเนินธุรกิจมีความหลากหลาย โดยมีสัดส่วนรายได้จากธุรกิจนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ 33% ของรายได้รวม กำไรจากเงินลงทุนและตราสารอนุพันธ์ 36% และอีก 19% รายได้จากค่าธรรมเนียม

ด้วยเหตุนี้ทำให้บริษัทมีความพร้อมรับมือกับภาวะแข่งขันรุนแรงในธุรกิจหลักทรัพย์ภายหลังเปิดเสรีค่าธรรมเนียมซื้อขายหลักทรัพย์ ปัจจุบันมีส่วนแบ่งการตลาดในธุรกิจนายหน้าค้าหลักทรัพย์ 3.76% ส่วนแบ่งการตลาดนายหน้าตลาดอนุพันธ์(TFEX) อันดับ 1 ด้วยสัดส่วน 12.59%