ไทยท็อปเทนท่องเที่ยวโลก ‘WTTC’จัดอันดับ-สร้างรายได้รวมสูงสุดอาเซียน

18 เม.ย. 2560 | 08:00 น.
การท่องเที่ยวในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สร้างรายได้ 301,064 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ให้กับผลิตภัณฑ์มวลภายในประเทศของประเทศต่างๆในอาเซียน หรือ 11.8% ของจีดีพีรวมปี 2559 โดยการท่องเที่ยวของประเทศไทย สร้างรายได้รวมต่อจีดีพี ปี2559 สูงสุดในอาเซียนทั้งจากรายงานฉบับใหม่ของสภาการเดินทางและท่องเที่ยวโลก (World Travel and Tourism Council : WTTC) ระบุว่าอุตสาหกรรมการเดินทางและท่องเที่ยวของไทยขยายตัวเกือบ11 % ในปี2559 และอยู่ในอันดับที่ 10 ของโลกที่จะมีการเติบโตเร็วที่สุดในช่วงทศวรรษหน้า โดยเติบโตถึง 6.5% ต่อปี

 แชมป์รายได้สูงสุดในอาเซียน
อุตสาหกรรมท่องเที่ยวสร้างรายได้2.9 ล้านล้านบาท (8.25 หมื่นล้านดอลล่าร์สหรัฐ) ให้กับผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศของไทยหรือ 20.6% ของจีดีพีรวมปี 2559ซึ่งเมื่อเทียบกับอีก 9 ประเทศในอาเซียน จะเห็นชัดเจนว่ามีการเติบโตมากที่สุด รองมาเป็นฟิลิปปินส์ และมาเลเซีย (กราฟฟิกประกอบ)นอกจากนี้การขยายตัวด้านการท่องเที่ยวของไทยยังสร้างตำแหน่งงานกว่า 15% ของการจ้างงานทั้งหมด 5.7 ล้านตำแหน่งทั่วประเทศด้วย

ในรายงานยังบอกว่ายอดการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติในประเทศไทยขยายตัว13% คิดเป็นรายได้เข้าประเทศ1.9 ล้านล้านบาท (5.37หมื่นล้านดอลล่าร์สหรัฐ) หรือ 19.2% ของรายได้จากการส่งออกรวมในปี 2559
ในปี 2559 ไทยมีการลงทุนเพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมการเดินทางและท่องเที่ยวรวมมูลค่า 245.5 แสนล้านบาท (7 หมื่นล้านดอลล่าร์สหรัฐ) หรือราว7.1% ของการลงทุนทั้งหมดในประเทศ เม็ดเงินลงทุนก้อนนี้ไม่เพียงกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศมากขึ้นเท่านั้น แต่ในอีกมุมหนึ่งจำนวนคนไทยก็เดินทางไปเที่ยวต่างประเทศมากขึ้นถึง 10 .7%

 10 ปีรายได้5.9 ล้านล.
ขณะที่ในปี 2560 รายงานนี้ ยังได้คาดการณ์ว่าสัดส่วนของรายได้ของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของไทยต่อจีดีพีจะขยายตัว6.9% และขยายตัว 6.5% ต่อปีในช่วง 10 ปีข้างหน้าถึงระดับ 5.9 ล้านล้านบาท (169.9 แสนล้านดอลล่าร์สหรัฐ)เท่ากับ 1 ใน 3 ของจีดีพีรวมของประเทศ ส่วนจำนวนการจ้างงานในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวคาดว่าจะขยายตัว 6.9% ในปี 2560 เป็น6.1 ล้านตำแหน่ง และคาดว่าจะเพิ่มขึ้น4.6%ทุกปีคิดเป็นการจ้างงาน 9.6 ล้านตำแหน่งเมื่อถึงปี 2570 (24.98% ของการจ้างงานทั้งหมดในประเทศ) เท่ากับว่าจะมีตำแหน่งงานใหม่อีก3.9 ล้านอัตราในภาคการท่องเที่ยวของไทยในช่วง10 ปีข้างหน้า

ส่วนการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติระหว่างที่พำนักในประเทศคาดการณ์ว่าจะเติบโตอีก 10.3% ในปี2560 และอีก 7.3%ต่อปีระหว่างปี 2560ถึงปี 2570ที่จะมีมูลค่ารวมถึง 4.2 ล้านล้านบาท (1.19แสนล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ) หรือเท่ากับ 29.7%ของมูลค่าการส่งออกรวมในปีเดียวกัน อัตราการขยายตัวนี้สูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลกที่ 4.3% ซึ่งเป็นการยืนยันว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาไทยยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง อันจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจของประเทศ

 ย้ำบริหารจัดการผลกระทบ
ทั้งสิ่งที่มีความสำคัญของการมีกลยุทธ์ที่เหมาะสมเพื่อให้แน่ใจว่าโครงสร้างพื้นฐานจะสามารถรับมือกับนักท่องเที่ยวและเพื่อสร้างหลักประกันว่าไทยจะต้องมีการบริหารจัดการผลกระทบของการท่องเที่ยวต่อชุมชนสภาพแวดล้อมและมรดกทางวัฒนธรรมอย่างยั่งยืนด้วย

นายเดวิด สโคว์ซิลล์ ประธานบริหารของWTTC กล่าวว่าประเทศไทยอยู่ในกลุ่มประเทศที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจในอันดับต้นๆ รัฐบาลไทยตระหนักถึงความสำคัญของภาคส่วนนี้และการลงทุนจนถึงปัจจุบันก็ให้ผลตอบแทนที่ดีขณะที่อุตสาหกรรมท่องเที่ยวเติบโต จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่รัฐบาลไทยต้องดำเนินโครงการเพื่อความยั่งยืนต่างๆตามที่กำหนดไว้ในแผนพัฒนาการท่องเที่ยว ฉบับที่2 (ปี 2560-2564) เพื่อให้สามารถคุ้มครองและรักษาแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติและวัฒนธรรมของประเทศไว้

จากรายงานดังกล่าวชี้ชัดว่านับจากนี้ไปอีก 10 ปีข้างหน้าอุตสาหกรรมท่องเที่ยวก็ยังคงมีการเติบโตในระดับสูงต่อเนื่อง แต่สิ่งที่ต้องกังวลคือไทยจะบริหารจัดาการผลกระทบของการท่องเที่ยวต่อชุมชนและสภาพแวดล้อมอย่างไร ให้เติบโตอย่างยั่งยืนเป็นสำคัญ

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,253 วันที่ 16 - 19 เมษายน พ.ศ. 2560