ปรับผังกทม.เมืองอนาคต รองรับโครงการยักษ์มิ๊กซ์ยูส

18 เม.ย. 2560 | 13:00 น.
กทม.พลิกโฉมเมืองปรับใช้ประโยชน์ที่ดิน รอบิ๊กโปรเจ็กต์มิกซ์ยูส สร้างตึกสูงระฟ้าไว้แล้ว สถานทูตอังกฤษ- โรงแรมดุสิต ย่านซีบีดี พัฒนาได้10 เท่าของแปลงที่ดิน "วันแบงคอก" ของเจ้าสัวเจริญย่านพระราม4 –วิทยุ ไม่น้อยหน้าผุดได้ 8 เท่า

แหล่งข่าวจากกรุงเทพมหานคร (กทม.)เปิดเผย"ฐานเศรษฐกิจ"ถึงความคืบหน้าการปรับปรุงผังเมืองรวมกรุงเทพมหานครรองรับโครงการอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ โครงการมิกซ์ยูสของรัฐและเอกชนว่า ที่ผ่านมาได้ปรับการใช้ประโยชน์ที่ดินรอไว้แล้วในผังที่บังคับใช้ปัจจุบัน (2555-2559) ซึ่งจะเอื้อต่อการพัฒนาอาคารสูงอาคารขนาดใหญ่สำหรับที่ดินของรัฐที่เปิดให้เอกชนเช่า หรือแม้แต่ที่ดินหน่วยงานราชการและเอกชนที่อยู่ในย่านซีบีดีอยู่แล้วจะพัฒนาได้สูงสุด ดังนั้นจึงไม่ต้องเพิ่มการใช้ประโยชน์ทีดินในผังเมืองใหม่อีกต่อไป

เริ่มตั้งแต่ที่ดินสถานทูตอังกฤษ เพลินจิตเนื้อที่ 23ไร่ และที่ดินหัวมุมถนนสีลม ตัดถนนพระราม 4 ล่าสุดโรงแรมดุสิต ได้ต่อสัญญาเช่าที่ดินกับสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ พร้อมเตรียมพัฒนาโครงการมิกซ์ยูสร่วมกับกลุ่มเซ็นทรัล ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในย่านซีบีดี เป็นพื้นที่สีแดง พ.5 หรือที่ดินประเภทพาณิชยกรรมพัฒนาได้ 10 เท่าของแปลงที่ดิน

ส่วนที่ดินภาครัฐที่เปิด ให้เอกชนเช่าพัฒนาเชิงพาณิชย์ กทม. ได้แก่ ที่ดินหัวมุมถนนพระราม4 ตัดถนนวิทยุ สำนักทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ เนื้อที่ 104 ไร่ ที่นายเจริญ สิริวัฒนภักดี ประธานกรรมการ กลุ่มบริษัททีซีซีกรุ๊ป เตรียมพัฒนาโครงการ"วันแบงก์คอก" เป็นพื้นที่สีแดง พ.3 ที่ดินประเภทพาณิชยกรรม3 บริเวณติดถนนพระราม4และถนนวิทยุ เป็นพ.3 สร้างได้ 7เท่าของแปลงที่ดิน ถัดจากนั้นจะเป็น ย.10 ที่ดินประเภทอยู่อาศัยหนาแน่นมากสีน้ำตาล สร้างได้ 8 เท่าของแปลงที่ดิน ที่ อนาคตจะเป็นแหล่งรวมที่อยู่อาศัย แหล่งช็อปปิ้ง แหล่งงานขนาดใหญ่ ซึ่งกทม.มองว่าปัจจุบัน พัฒนาได้มากแล้ว แต่เกรงว่า โครงการขนาดใหญ่ นับแสนตารางเมตร เมื่อมีคนเข้าใช้เต็มพื้นที่ จะกระทบด้านจราจรตามมา

แม้จะมีรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินผ่าน เส้นทางพระราม4 แต่ตั้งข้อสังเกตว่าจะรองรับเพียงพอหรือไม่ และควรมีรถไฟฟ้าเสริมอีกเส้นทางหรือไม่ หากเทียบกับทำเลสีลม และสุขุมวิท ที่มีทั้งบีทีเอส และ เอ็มอาร์ที ส่วนไฟฟ้า ประปา สามารถรองรับได้เพียงพอ ดังนั้น จึงไม่ส่งเสริมให้พัฒนามากกว่านี้นอกจากนี้ ยังมีที่ดิน ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ของกรมธนารักษ์ ที่ นายเจริญ ต่อสัญญา เนื้อที่ 53ไร่สามารถพัฒนาได้มากเช่นเดียวกันคือ 7 เท่าของแปลงที่ดิน

แหล่งข่าวกล่าวอีกว่าที่ดินทำเลดินแดงซึ่งเป็นที่ตั้งของศาลาว่าการหลังใหม่ผังเมืองปัจจุบัน เปิดให้พัฒนาได้ไม่จำกัดทั้งความสูงและขนาด ส่วนที่ดิน มักกะสัน 497ไร่ สำหรับ ย่านซีบีดีรอง ที่ดินศูนย์กลางคมนาคม พลโยธิน-บางซื่อ 2,300 ไร่ ที่ดินกม.11 395ไร่ ของการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) ที่ดินหมอชิต ของกรมธนารักษ์ ที่บริษัทบางกอกเทอร์มินัลเตรียมปักหมุด 62ไร่ ฯลฯ ผังเมืองกำหนดเป็น พ.4 ทั้งหมดพัฒนาได้ 8 เท่าของแปลงที่ดิน

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,253 วันที่ 16 - 19 เมษายน พ.ศ. 2560