จับตา! "กทม." ส่อ ล็อคสเปค! ประมูลป้ายอัจฉริยะ 

11 เม.ย. 2560 | 10:53 น.
กรุงเทพมหานคร เตรียมเปิดประมูลโครงการป้ายจราจรอัจฉริยะจำนวน 50 ป้าย เนื่องจากสัญญาเดิมกำลังจะสิ้นสุดสิ้นเดือนพฤษภาคมนี้ และมีการจับตาว่าจะมีการล็อคสเปคโครงการหรือไม่

โครงการป้ายจราจรอัจฉริยะของกรุงเทพมหานคร เริ่มก่อสร้างเมื่อปี 2548 มีบริษัท จีเนียส ทราฟฟิค ซิสเต็ม ได้รับสิทธิ์เป็นผู้ลงทุนก่อสร้างและบริหารจัดการดูแลรักษาป้ายจำนวน 40 จุด ทั่วพื้นที่ กทม. และสัญญากำลังจะสิ้นสุดสิ้นเดือนพฤษภาคมนี้ จึงทำให้กรุงเทพมหานครจัดทำทีโออาร์เพื่อเปิดประมูลใหม่

สปริงนิวส์ ได้ตรวจสอบ ร่างทีโออาร์โครงการป้ายจราจรอัจฉริยะโครงการใหม่ พบว่า กทม. ตั้งราคาต่ำสุดของการประมูลเริ่มต้นที่ 15.3 ล้านบาท รูปแบบสัญญาจะให้เอกชนเป็นผู้ลงทุน ปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของป้ายจราจรอัจฉริยะจำนวน 50 ป้าย คือ ปรับปรุงป้ายเดิม 40 ป้าย และติดตั้งป้ายใหม่ 10 ป้าย ให้มีความทันสมัยมากขึ้น

โดยเอกชนที่ชนะการประมูลจะได้สิทธิ์ในการหาผลประโยชน์จากการโฆษณาบนป้ายจราจรอัจฉริยะเป็นเวลา 3 ปี โดยเอกชนต้องชำระค่าตอบแทนรายปีจำนวนปีละไม่น้อยกว่า 3.5 ล้านบาท และชำระค่าใช้สิทธิรายเดือนต่อจุดติดตั้งเป็นเงินไม่น้อยกว่า 1 หมื่น 9 พันบาทต่อจุด รวม 50 จุด คิดเป็นเงินไม่น้อยกว่า 9 แสน 8 หมื่นบาท และกทม.จะพิจารณาต่ออายุสัญญาอีก 2 ครั้ง ครั้งละ 3 ปี รวมแล้วเป็นเวลา 9 ปี

75524

อย่างไรก็ตามมีการตั้งข้อสังเกตุว่าในร่างทีโออาร์ที่กทม.กำลังจัดทำอยู่ อาจล็อคสเปคให้กับเอกชนรายหนึ่งรายใดเป็นพิเศษหรือไม่ โดยเฉพาะการกำหนดคุณสมบัติของบริษัทที่จะเข้าร่วมประมูล ที่ระบุว่า ต้องเป็นนิติบุคคล หรือกลุ่มนิติบุคคล ที่จดทะเบียนในประเทศไทย ที่มีประสบการณ์ มีผลงานทางด้านงานติดตั้งป้ายปรับเปลี่ยนข้อความ หรืองานติดตั้งป้ายรายงานสภาพจราจร และงานศูนย์ควบคุมระบบป้ายในสัญญาเดียวกัน วงเงินไม่น้อยกว่า 15 ล้านบาท และเป็นผลงานที่เป็นคู่สัญญาโดยตรงกับกรุงเทพมหานคร ส่วนราชการ หน่วยงานตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารราชการส่วนท้องถิ่น รัฐวิสาหกิจหรือหน่วยงานเอกชนที่กรุงเทพมหานครเชื่อถือ

นอกจากนี้ยังกำหนดว่าต้องเป็นนิติบุคคลหรือกลุ่มนิติบุคคลที่มีบุคลากรที่มีประสบการณ์ทางด้านงานติดตั้งป้ายปรับเปลี่ยนข้อความ หรืองานติดตั้งป้ายรายงานสภาพจราจร และงานควบคุมระบบป้ายในสัญญาเดียวกัน และมีผลงานย้อนหลังไม่เกิน 15 ปี ณ วันยื่นซองและมีทุนจดทะเบียนซึ่งชำระครบถ้วนแล้วไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท พร้อมทั้งต้องแสดงประวัติการทำงานของบุคลากรนั้นด้วยผลงานที่จะนำเข้ามาพิจารณาในโครงการนี้ย้อนหลังไม่เกิน 3 ปี

ล่าสุด นายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ อดีตประธานคณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร บอกกับสปริงนิวส์ว่า โครงการนี้เกิดขึ้นในสมัยที่นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่ากทม.เป็นโครงการที่ดีโครงการหนึ่ง เท่าที่ได้อ่านร่างทีโออาร์โครงการใหม่ในเบื้องต้นยังไม่พบความผิดสังเกตว่าจะมีการล็อคสเปคหรือไม่ แต่ก็จะจับตาโครงการนี้เป็นพิเศษ

ด้าน นายสุธน อาณากุล ผู้อำนวยการสำนักการจราจรและขนส่ง กรุงเทพมหานคร บอกกับสปริงนิวส์ว่า โครงการนี้เป็นโครงการที่ประชาชนได้ประโยชน์ ยอมรับว่าสัญญาเดิมจะหมดในเดือนพฤษภาคมนี้ กทม.อยู่ระหว่างการจัดทำทีโออาร์ใหม่ เพื่อเปิดประมูลต่อไป