ประมงเตรียมแผนลดความเสี่ยงภัยแล้ง ปี 60

11 เม.ย. 2560 | 08:27 น.
กรมประมงเตรียมแผนลดความเสี่ยงจากภัยแล้งด้านการประมง ปี 60  หวั่นสภาพอากาศร้อนจัดอาจทำให้สัตว์น้ำที่เกษตรกรเลี้ยงไว้ได้รับความเสียหาย  แนะควรเฝ้าระวัง หมั่นดูแลสัตว์น้ำอย่างใกล้ชิด และปฏิบัติตามคำแนะนำของกรมประมงอย่างเคร่งครัด

นายอดิศร  พร้อมเทพ อธิบดีกรมประมง เปิดเผยว่า  ขณะนี้หลายพื้นที่ของประเทศไทยได้เข้าสู่ฤดูร้อนแล้ว
ซึ่งอุณหภูมิจะสูงขึ้นและอากาศจะร้อนจัดในตอนกลางวัน โดยอาจต่อเนื่องยาวนานไปจนถึงกลางเดือนพฤษภาคม 2560 ซึ่งจะทำให้ปริมาณน้ำทั้งในแหล่งน้ำธรรมชาติและแหล่งน้ำชลประทานลดน้อยลงและอาจไม่เพียงพอต่อการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ นอกจากนี้ จากสภาวะดังกล่าวอาจทำให้อุณหภูมิน้ำเปลี่ยนแปลงสูงขึ้นด้วย ซึ่งเป็นสาเหตุให้สัตว์น้ำที่เกษตรกรเลี้ยงไว้เกิดความเครียด อ่อนแอ และตายได้

ดังนั้น เพื่อเป็นการป้องกันและบรรเทาความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น กรมประมงจึงได้จัดทำแผนเตรียมรับสถานการณ์ในช่วงฤดูแล้ง ประจำปี 2560 ที่จะมาถึงโดยได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ของกรมประมงทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาคเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมดำเนินการประชาสัมพันธ์เพื่อแจ้งเตือนภัยแก่เกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำให้ได้รับทราบถึงช่วงระยะเวลาที่ภาวะภัยแล้งจะมาถึง  พร้อมทั้งแนะวิธีการป้องกัน แก้ไข และหลีกเลี่ยงความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นให้มากที่สุด นอกจากนี้ ยังได้ดำเนินการมาตรการส่งเสริมความรู้เพื่อลดความเสี่ยงจากภัยแล้ง ภายใต้แผนเตรียมพร้อมเพื่อลดความเสี่ยงจากภัยแล้งด้านการเกษตร ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยมุ่งเน้นการส่งเสริมและสร้างความตระหนักรู้ให้เกษตรกรสามารถประเมินความเสี่ยง และปรับตัวเพื่อลดความเสี่ยงในการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำในช่วงฤดูแล้งได้  และหากในกรณีที่เกิดผลกระทบทางด้านประมง ได้กำชับให้หน่วยงานในสังกัดเร่งดำเนินการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน โดยประสานงานร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อให้สามารถช่วยเหลือเกษตรกรได้อย่างทันท่วงทีและเกิดประสิทธิภาพสูงสุด อธิบดีกรมประมง กล่าวต่อไปว่า สำหรับเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำควรปฏิบัติตามคำแนะนำ ดังนี้

1. ควบคุมการใช้น้ำและรักษาปริมาณน้ำในบ่อเลี้ยงให้สูญเสียน้อยที่สุด

2. เตรียมหาแหล่งน้ำสำรองไว้ใช้เพิ่มเติม

3. จับสัตว์น้ำที่ได้ขนาดออกจำหน่ายหรือบริโภคก่อน เพื่อลดปริมาณสัตว์น้ำในบ่อหรือกระชัง

4. ลดปริมาณการให้อาหารสัตว์น้ำลง โดยเฉพาะอาหารสดเพื่อป้องกันน้ำเน่าเสีย

5. ถ้าจำเป็นต้องปล่อยสัตว์น้ำลงเลี้ยง ให้ปล่อยในปริมาณที่มีความหนาแน่นน้อยกว่าปกติ หรือปล่อย
สัตว์น้ำที่มีขนาดใหญ่ขึ้น เพื่อลดช่วงระยะเวลาการเลี้ยงให้น้อยลง

6. ควรงดเว้นการขนถ่ายสัตว์น้ำ ถ้าจำเป็นต้องระมัดระวังให้มากเนื่องจากจะมีผลกระทบกับการกินอาหารและการเจริญเติบโตของสัตว์น้ำโดยตรง

7. หมั่นสังเกตอาการต่างๆ ของสัตว์น้ำที่เกิดขึ้นอย่างใกล้ชิด หากมีอาการผิดปกติ จะได้แก้ไขได้ทันที

8. ควรวางแผนการเลี้ยง หรืองดเว้นการเลี้ยงในช่วงดังกล่าว โดยทำการตากบ่อและตกแต่งบ่อเลี้ยงในช่วงดังกล่าวแทน เพื่อเตรียมไว้เลี้ยงสัตว์น้ำในรอบต่อไป

ทั้งนี้  เกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำควรติดตามข่าวสารการพยากรณ์อากาศจากทางราชการอย่างใกล้ชิด และหากมีปัญหาในการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ  สามารถขอรับคำปรึกษาและคำแนะนำจากนักวิชาการประมง ได้ที่ ศูนย์/ สถานี และสำนักงานประมงจังหวัดทั่วประเทศ