เลขาฯ กรศ.แจงกรณีอาลีบาบาลงทุนในมาเลย์และไทย ไม่ใช่แข่งขันแต่เพื่อเชื่อมโยงฐานการค้าในอาเซียน
ย้ำชัดไทยเป็นการฐาน e-commerce และ logistic ไปยังประเทศเพื่อนบ้าน
นายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการสำนักงานระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (กรศ.) ได้ชี้แจงกรณีผู้ดำเนินรายงาน overview ระบุว่า โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก ( EEC) ของประเทศไทยเป็นรองมาเลเซียอยู่มาก พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า การที่ไทยให้ข้อมูลว่า EEC ของไทย เหนือกว่ามาเลเซีย ไม่สะท้อนข้อเท็จจริง เนื่องจากพบว่า บริษัทอาลีบาบามีการตั้งศูนย์ธุรกิจในกัวลาลัมเปอร์ ขณะที่ประเทศไทยมีแค่บริษัทลาซาดานั้น
โดยขอชี้แจงว่า ไทยและมาเลเซียอยู่ในอาเซียนและดำเนินการพัฒนาคู่ขนานกัน เสริมสร้างซึ่งกันและกันและไม่ควรมองในแง่การแข่งขันกัน ในตรงกันข้ามการลงทุนเพื่อสร้างความก้าวหน้าของมาเลเซีย และของประเทศไทย จะเป็นประโยชน์ซึ่งกันและกันในอนาคต และจะช่วยให้ อาเซียนและเอเชียดีขึ้น อีกทั้งเป็นเรื่องปกติที่บริษัทใหญ่ๆ ทั่วโลกจะลงทุนหลายๆประเทศ ตามความเหมาะสมของประเทศนั้น ไม่ใช่ลงทุนประเทศในเดียว จึงไม่น่าแปลกใจสำหรับกรณีนี้จะมีการลงทุนคู่ขนานหลายประเทศ
เลขาธิการสำนักงานระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก ( กรศ.) กล่าวอีกว่า กรณีการลงทุนของ อาลีบาบาและลาซาดานั้นข้อเท็จจริง คือ Alibaba ซื้อ Lazada ไปแล้ว จึงเป็นกลุ่มบริษัทเดียวกัน และใช้ Lazada เป็นบริษัทนำในประเทศไทยเพราะมีธุรกิจเชื่อมโยงมานานแล้ว และใช้เจ้าหน้าที่ Alibaba มาช่วย และได้รับการยืนยันว่า กรณีของไทยเป็นการลงทุน 5th Generation E-commerce Park เน้นการทำธุรกิจe-commerce และ logistic ไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ส่วนการลงทุนของ Alibaba ในมาเลเซีย เน้นด้าน e-commerce เพื่อขยายธุรกิจการค้าภายในมาเลเซียเป็นหลัก