แม่ทัพใหม่‘แอตต้า’ ลุ้นจีนเที่ยวไทยทะลุ10ล้านคน

12 เม.ย. 2560 | 06:00 น.
ได้รับความไว้วางใจจากสมาชิกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยวหรือแอตต้าโหวตให้ขึ้นรั้งเก้าอี้ นายกคนใหม่“วิชิต ประกอบโกศล” ชนะคู่แข่งถล่มทลายถึง 395 คะแนน สูงสุดเป็นประวัติการณ์ ในฐานะผู้นำสมาคมท่องเที่ยวทัวร์อินบาวด์คนใหม่ เจ้าตัวเผยว่าจะเน้นทำงานเป็นทีมเวิร์ก แต่ละตลาดท่องเที่ยวสำ คัญมีการตั้งคณะอนุกรรมการที่มีความเชี่ยวชาญในตลาดนั้นๆ เข้ามาดูแล แบ่งออกเป็น 4 สายงานหลักคือกลุ่มอาเซียน กลุ่มจีน ไต้หวัน ฮ่องกงกลุ่มยุโรป อเมริกา ออสเตรเลียกลุ่มรัสเซีย เกาหลี ญี่ปุ่น อินเดียตะวันออกกลาง เพื่อให้เจาะถึงความต้องการของนักท่องเที่ยวและทำงานประสานกับหน่วยงานรัฐอย่างใกล้ชิด

 เร่งแก้ปัญหาไกด์ขาดแคลน
เขายํ้าว่า เรื่องเร่งด่วนจะมีการแก้ปัญหาเรื่องมัคคุเทศก์ขาดแคลน ซึ่งจะดูเป็นรายตลาดที่พบว่าขาดแคลนหนักไม่ว่าจะเป็นตลาดเกาหลี รัสเซีย และตลาดใหญ่อย่างจีน โดยจะหารือร่วมกับสมาคมมัคคุเทศก์แห่งประเทศไทย หาแนวทางแก้ปัญหาโดยพบกันครึ่งทางหาความร่วมมือร่วมกัน ซึ่งต้องมีความไว้วางใจกันก่อน และดำเนินการภายใต้เงื่อนไขเดียวกันถึงจะแก้ปัญหานี้ได้ เบื้องต้นอาจจะเป็นการเทรนนิ่ง เพื่อให้เกิดการเรียนรู้อย่างรวดเร็วในสิ่งที่ถูกต้อง ที่ผ่านมาตัวเลขนักท่องเที่ยวโตแบบก้าวกระโดดทำให้ผลิตบุคลากรไกด์มารองรับไม่ทัน

สำหรับแนวทางในการทำการตลาดนั้นจะร่วมมือกับหน่วยงานรัฐ มุ่งเป้าตลาดที่มีศักยภาพทั้งในอาเซียนที่มีประชากรอยู่ถึง 600 ล้านคนและมีอัตราการเติบโตของจีดีพีขยายตัวอย่างต่อเนื่องไม่ว่าจะเป็นเมียนมา เวียดนาม ฟิลิปปินส์กัมพูชา มีโอกาสสูง ที่เราไม่ควรมองข้าม

วิชิต ยังกล่าวอีกว่า ในฐานะที่นั่งเป็นประธานบริหารบริษัทในเครือ ซี.ซี.ที. เอ็กซ์เพรสและบริษัทลูกอีก 4 บริษัท ซึ่งทำตลาดทัวร์จีนรายใหญ่ และยังเป็นประธานของ 2 โรงแรมคือเวสทิน สิเหร่ เบย์ รีสอร์ท แอนด์สปา ภูเก็ตและโรงแรม การ์เด้นคลิฟ รีสอร์ท แอนด์สปา พัทยาเขาฉายภาพตลาดทัวร์จีนปีนี้ว่าจากปีที่แล้วได้รับผลกระทบจากมาตรฐานปราบปรามทัวร์ศูนย์เหรียญ ขณะนี้สถานการณ์เริ่มกลับสู่ภาวะปกติ จากแรกๆ ที่ตลาด “ช็อก” เพราะราคาปรับขึ้นเป็นเท่าตัว นักท่องเที่ยวตกใจจึงชะลอการซื้อ ขณะนี้ราคาเริ่มลด แต่ก็ไม่ให้ถูกเกินไป ต้องหาจุดเหมาะสม ทุกอย่างอยู่ที่ความเหมาะสม คุณจะขายราคาดีๆคุณภาพ ดีตามราคาเหมือนไหมทุกอย่างมีการเปรียบเทียบ แต่ก็คาดว่าอย่างไรเสีย ปีนี้น่าจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวจีนมาไทยแน่9.5 ล้านคน ส่วนจะถึง 10 ล้านคนหรือไม่ยังพอมีสิทธิ์ลุ้น

 ไทยสŒมหล‹นเกาหลีมีป˜ญหา
“ถ้าจะประเมินดูตัวเลขนักท่องเที่ยวจีนปีนี้ได้แน่ 9.5ล้านคน เพราะได้อานิสงส์จากกรณีจีนและเกาหลีมีปัญหา แต่ยังไม่รู้ว่าจะมากน้อยแค่ไหน แต่เราไม่อยากหวังเรื่องนี้นัก ต้องทำอย่างไรให้นักท่องเที่ยวอยากมาไทยมากกว่า”

นอกจากนี้ยังปัจจัยช่วงครี่งปีหลังหรือไตรมาส 3 ตลาดจะฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญ เพราะเป็นช่วงโรงเรียนปิดเทอม ซึ่งตอนนี้สถานการณ์กลับเข้าสู่สภาพปกติบริษัททัวร์เริ่มกล้าที่จะเช่าเหมาชาร์เตอร์ไฟลต์เข้ามา รอจังหวะปิดเทอมเป็นช่วงที่เหมาลำมาแล้ไม่ขาดทุน ซึ่งจะอยู่ในช่วงเดือน7 เดือน 8 ทัวร์จีนจะนิยมเดินทางท่องเที่ยวมาไทย พ่อแม่คนมีเงินให้รางวัลเด็กปิดเทอมมาเที่ยว คนระดับกลางนิยมมาเมืองไทย จีนเดี๋ยวนี้มีลูกคนเดียว เอาใจลูกมาก ตามใจลูกจนเหลิง

 หนุนเที่ยวเมืองรอง
อย่างไรก็ดี นายกแอตต้าหวั่นว่า ตลาดทัวร์ศูนย์เหรียญที่ผ่านมาเราผ่าตัดใหญ่ไปแล้ว แต่ให้สูญเปล่า ซึ่งรัฐต้องจับตาให้ดีอย่าให้กลับมาอีก ต้องทำอย่างต่อเนื่อง เพราะจะทำให้เราไม่มีเครดิต ในวันหน้าถ้าจะจัดระเบียบอะไร ทางจีนจะไม่เชื่อ เพราะบริษัทดีๆ ที่เขาให้ความร่วมมือทำให้เขาเสียเปรียบได้ถ้าไม่เข้มงวดก็จะเกิดความเสียหายตามมา

ทั้งยังจะมีการโปรโมตไปยงั เมืองรองที่ไมม่ สี ายการบนิ บนิประจำ ส่งเสริมให้บินเช่าเหมาลำมาเมืองไทย และลงในเมืองรองหรือเมืองใหม่ เช่น จังหวัดระนอง สุโขทัย เพื่อเป็นการกระจายนักท่องเที่ยว ซึ่งการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)ต้องมีอินเซนทีฟให้กับผู้ประกอบการที่ทำตลาดเหล่านี้ โดยสนับสนุนเป็นค่าการตลาดเหมือนกับต่างประเทศ เพื่อสนับสนุนในเรื่องนี้

 ทำงานเป็นทีมเวิร์ก
ดังนั้นจากประสบการณ์การทำงานมากว่า 30 ปี ผมมั่นใจว่าจะขับเคลื่อนนโยบายภายใต้แนวคิด “เราจะก้าวไปข้างหน้าด้วยทีมเวิร์ก” เพื่อเป้าหมาย1.องค์กรมั่นคง คือการสร้างรายได้ คุมรายจ่าย สร้างคนเก่ง ระบบสารสนเทศ สร้างเครือข่าย2.สมาชิกมั่งคั่ง คือการลดต้นทุนเพิ่มโอกาสสร้างความแข็งแกร่งขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีก้าวทันประเทศไทยยุค 4.0 3.การท่องเที่ยวยั่งยืน คือ การร่วมมือกับภาครัฐและเอกชนผลักดันการท่องเที่ยวตามเป้าหมายและอยู่ภายใต้บริบทเดียวกัน

ทั้งยัง มองถึงอนาคตจากจำนวนการท่องเที่ยวในปี 2559ว่ามีนักท่องเที่ยวมากกว่า 32ล้านคน สร้างรายได้ให้ประเทศคิดเป็นสัดส่วน 17.7% ของรายได้ประชากรทั้งหมด แสดงให้เห็นว่าประเทศไทยกำลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจการท่องเที่ยวอย่างเต็มกำลัง กระจายรายได้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวสู่ท้องถิ่นทั่วประเทศ

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,251วันที่ 9 - 12 เมษายน พ.ศ. 2560