พอเพียงอย่างพอใจ
โดย : ฉาย บุนนาค
APX … วันใหม่ที่ไม่เป็นสับปะรด
17 ปี แห่งความหลัง… การกลับมาซื้อขายอีกครั้งของหุ้น APX หรือ บมจ. เอเพ็กซ์ ดีเวลลอปเม้นท์
ซึ่งร่างเดิมของบริษัทนี้คือ ซันเทคกรุ๊ป (SUNTEC) ของคุณสวัสดิ์ หอรุ่งเรือง ซึ่งเคยทำธุรกิจเกษตร (น้ำมะเขือเทศ)… ก่อนจะเปลี่ยนมาทำธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์
วิกฤติปี 2540 ปลิดชีพของ SUNTEC ก่อนสิ้นใจ SUNTEC มีราคาปิดที่ 2.80 บาท Par 10 บาท ก่อนจะเปลี่ยนมาเป็น Par 1 บาท
การกลับมาของ SUNTEC มาในชื่อ APX พร้อมขาใหญ่ตลาดทุนและหมอเทวดาที่รักษาได้แม้บริษัทที่ตายแล้ว…
3 สัปดาห์ก่อนการกลับมาของ APX บริษัท 3 วิญญาณ… ผู้ถือหุ้น 2 ราย โอนขายหุ้นนอกตลาดเพื่อให้ต่ำกว่า 5% (เพื่อเวลาขายจะได้ไม่ต้องทำแบบรายงาน 246-2 กับ ก.ล.ต. ให้คนมาตั้งข้อสงสัย)…
วันแรกของการกลับมา ราคาหุ้นเปิดมาที่ 2 บาทกว่าๆ ต่ำกว่าราคาเดิมคือ 2.80 บาท นักลงทุนมากมายแห่เข้าซื้อคิดว่าราคาถูก หารู้ไม่นี่คือราคา Par ใหม่ โครงสร้างใหม่ วิญญาณใหม่… แรงขายมหาศาลส่งผลให้ราคาหุ้นร่วงลงสู่ 0.80 สตางค์ภายใน 2 วัน หรือ กว่า 50%…
สื่อหลายสำนัก และนักสืบ digital หลายรายพยายามหาความจริงว่าใครนะที่ขายหุ้น ทำให้รายย่อยเสียหาย ร้องโวยวายไปถึง ตลาดหลักทรัพย์และ ก.ล.ต. … และตามสูตรสำเร็จ คือ ผู้ถือหุ้นขาใหญ่ต่างปฏิเสธข้อกล่าวหานี้
จริงๆ แล้วนักลงทุน สื่อ และผู้คุมกฎ ควรปรับทัศนคติตนเองก่อนจะไปเสียเวลาถามหาคนขาย คนทุบ และกล่าวหาเขาเหล่านั้นว่า "โหด" ว่า "เลว" …
คำถามที่ต้องตอบคือ
คนขายมีสิทธิ์ขายมั้ย?! … มันคือหุ้นของเขา …เขามีสิทธิ์โดยชอบ!
คนขายหุ้นเขาไปหลอกหรือชักชวนคุณซื้อหรือเปล่า? หากไม่… คุณไปว่าเขาทำไม ในเมื่อคุณโลภเอง ซื้อเองในราคาที่คุณพอใจ!!
กลับกัน… หากมีคนมาเสนอซื้อของของคุณในราคาสูง และเป็นที่พอใจ คุณจะขายมั้ย? คุณต้องขาย… มันเป็นเรื่องธรรมชาติ!
แล้วหากวันหนึ่ง ไอ้คนซื้อคนเดิมมันมากล่าวหาว่าคุณเอาเปรียบมันว่าคุณโหดร้าย ว่าคุณเอาเปรียบมันเพราะราคาของลดลง คุณคิดว่าเขามีสิทธิ์มั้ย?
ตลาดคือ "ที่แลกเปลี่ยน" และหุ้นคือกระดาษ "เอกสารสิทธิของเจ้าของกิจการและเงิน" คุณซื้อและขายเมื่อคุณพอใจ … เราจึงไม่ควรทำตัวแพ้แล้วพาล ได้แล้วเงียบ อย่าเกเรชี้นิ้วกล่าวโทษใส่คนอื่น
คุณต้องรับกติกาสากลและความเสี่ยงของการลงทุน และหันนิ้วที่ชี้นั้นมาชี้ตนเอง … "ว่าคุณเองที่ผิด… ไปซื้อทำไม หุ้นที่ราคาสูงกว่าความเป็นจริง!"
ตลาดหลักทรัพย์และก.ล.ต. ก็อย่าไปบ้าจี้ เต้นตามพวกที่ไม่เคารพกติกาสากลของตลาดหุ้น … ถ้ารับไม่ได้ในกติกานี้ก็ปิดตลาดหลักทรัพย์ดีกว่า
หน้าที่ของผู้คุมกฎคือดูแลทั้ง ผู้ซื้อและผู้ขาย ทั้งรายใหญ่ รายย่อย กองทุน ไทยหรือเทศ เขาก็มีสิทธิ์ได้รับการคุ้มครองเท่าเทียมกัน
หน้าที่คุณคือให้ความรู้นักลงทุน ไม่ใช่พนักงานเปิดจดหมายสนเท่ห์…
สรุป… เราไม่ควรโทษคนอื่นในความผิดพลาดและความโลภของตนเอง… เพราะคุณจะไม่มีทางเรียนรู้จากประสบการณ์จริงที่มีคุณค่า และเชื่อเถอะครับว่ามันมีค่ากว่าไปนั่งอบรมคอร์สต่างๆ หรืออ่านบทความวาทกรรมเผ็ดร้อนจากพวกหัวโบราณ ที่กักขังพวกคุณในความคิดเดิมๆ
คอลัมน์ : พอเพียงอย่างพอใจ หน้า 18 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3250ระหว่าง 6-8 เม.ย.2560