กรมบัญชีกลางเผยผลเบิกจ่ายสิ้นไตรมาสที่ 2 ทะลุเป้าหมาย

04 เม.ย. 2560 | 12:32 น.
กรมบัญชีกลางรายงานผลการเบิกจ่ายเงินในช่วงสิ้นไตรมาสที่ 2 ภาพรวมเบิกจ่ายได้ถึง 53.15% สูงกว่าเป้าหมาย 1.15% ส่วนรายจ่ายลงทุนเบิกได้ถึง 41.13% และสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน 5.55% โดยก่อหนี้รายจ่ายลงทุนแล้วสูงถึง 75.24%

นางสาวอรนุช ไวนุสิทธิ์ ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบการเงินการคลัง ในฐานะโฆษกกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า ผลการเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2560 ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2559 ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2560 (สิ้นไตรมาสที่ 2) เบิกจ่ายงบประมาณภาพรวมได้จำนวน 1,452,660 ล้านบาทของวงเงินงบประมาณ 2,733,000 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 53.15 ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายร้อยละ 1.15 (เป้าหมายร้อยละ 52) และสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 1.24 (ปีก่อนเบิกจ่ายได้ร้อยละ 51.91) โดยเป็นการเบิกจ่ายรายจ่ายประจำ จำนวน 1,261,670 ล้านบาท ของวงเงินงบประมาณ 2,184,128 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 57.77 ขณะที่เบิกจ่ายรายจ่ายลงทุน (กรณีไม่รวมงบกลาง)

ได้จำนวน 190,990 ล้านบาท ของวงเงินงบประมาณ 548,872 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 41.13 และสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 5.55 (ปีก่อนเบิกจ่ายได้ร้อยละ 35.58) ทั้งนี้ ส่วนราชการได้ก่อหนี้รายจ่ายลงทุนจำนวน 349,420 ล้านบาท ของวงเงินงบประมาณ 548,872 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 75.24

สำหรับผลการเบิกจ่ายเงินงบประมาณที่กันไว้เบิกเหลื่อมปี เบิกจ่ายแล้ว จำนวน 152,902 ล้านบาท ของวงเงินงบประมาณ 276,008 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 55.40 มีการก่อหนี้แล้วจำนวนทั้งสิ้น 233,100 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 84.45

โฆษกกรมบัญชีกลาง กล่าวต่อว่า ผลการเบิกจ่ายมาตรการกระตุ้นการลงทุนขนาดเล็กทั่วประเทศ เบิกจ่ายแล้วจำนวน 42,711 ล้านบาท ของวงเงิน 56,866 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 75.08 แบ่งเป็น มาตรการกระตุ้นการลงทุนขนาดเล็กทั่วประเทศ จากงบกลาง ปี 2559 วงเงิน 23,000 ล้านบาท เบิกจ่ายแล้วจำนวน 19,592 ล้านบาท ของวงเงินที่ได้รับจัดสรร 21,711 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 90.24 โดยมีการก่อหนี้แล้วจำนวนทั้งสิ้น 20,680 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 95.25  และโครงการลงทุนที่มีวงเงินไม่เกิน 2 ล้านบาท ของงบประมาณประจำปี 2560 เบิกจ่ายแล้วจำนวน 23,119 ล้านบาท ของวงเงินที่ได้รับจัดสรร 35,175 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 65.73

กรมบัญชีกลางได้ติดตามผลการเบิกจ่ายเงินของส่วนราชการอย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งให้คำปรึกษาและแก้ไขปัญหาอุปสรรคอย่างต่อเนื่อง โดยมีทีมเจ้าหน้าที่เฉพาะลงพื้นที่ติดตาม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเบิกจ่ายเงินให้ดียิ่งขึ้น