ความเชื่อมั่นครัวเรือนคาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้าปรับตัวดีขึ้น

04 เม.ย. 2560 | 04:30 น.
ความเชื่อมั่นครัวเรือนคาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้าปรับตัวดีขึ้น แม้ว่าปัจจุบันยังมีความกังวลเรื่องรายได้และการมีงานทำ

ดัชนีสะท้อนมุมมองคาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้า (3-month Expected KR-ECI) ปรับตัวดีขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 มาอยู่ที่ระดับ 46.2 ในเดือนมี.ค. 2560 จากเดิมที่ระดับ 45.3 ในเดือนก.พ. 2560 สะท้อนถึงความกังวลที่ลดลงของครัวเรือนต่อเศรษฐกิจไทยในอนาคต แม้ว่าในปัจจุบัน ครัวเรือนยังมีความกังวลในเรื่องรายได้และการมีงานทำ โดยสะท้อนจากดัชนีภาวะเศรษฐกิจของครัวเรือน (KR-ECI) ที่ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ระดับ 45.0 ในเดือนมี.ค. จากเดิมที่ระดับ 45.3 ในเดือนก.พ. 2560

• ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่า ในระยะ 1-2 เดือนข้างหน้า ยังต้องติดตามในประเด็นเรื่องค่าใช้จ่ายที่จะเพิ่มขึ้นในช่วงเดือนแห่งเทศกาล สถานการณ์ทางด้านราคาสินค้า โดยเฉพาะราคาสินค้าสาธารณูปโภค รวมถึงสถานการณ์ตลาดแรงงานในประเทศซึ่งอาจจะส่งผลต่อความเชื่อมั่นครัวเรือนได้

ดัชนีสะท้อนมุมมองคาดการณ์ในช่วง 3 เดือนข้างหน้า (3-month Expected KR-ECI) ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 สู่ระดับสูงสุดในรอบ 14 เดือน สะท้อนถึงความกังวลที่ลดลงของครัวเรือนต่อภาวะการครองชีพในอนาคต โดยเฉพาะในประเด็นเรื่องค่าใช้จ่ายและภาระหนี้สิน แต่อย่างไรก็ดี ยังคงต้องติดตามสถานการณ์ทางด้านราคาสินค้า โดยเฉพาะราคาสินค้าสาธารณูปโภคที่อาจจะมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นในระยะข้างหน้า

kb04041a ในขณะที่ความเชื่อมั่นของครัวเรือนประจำเดือนมี.ค. 2560 ปรับตัวลดลงจากเดือนก่อนหน้า จากความกังวลต่อประเด็นเรื่องรายได้และภาวะการมีงานทำ ประเด็นเรื่องเงินออม รวมถึงประเด็นเรื่องสถานการณ์ทางด้านราคาสินค้า อย่างไรก็ตาม ครัวเรือนมีความกังวลลดลงในประเด็นเรื่องค่าใช้จ่ายและภาระหนี้สิน ซึ่งเป็นผลจากการปลดภาระหนี้สินในหลายส่วนของครัวเรือน ทั้งในส่วนของสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์จากนโยบายรถยนต์คันแรก สินเชื่ออุปโภคบริโภค (หนี้บัตรเครดิต) จากการเร่งซื้อไปในช่วงปลายปีก่อน รวมถึงสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยจากการนำเงินตอบแทนพิเศษ (Bonus) มาชำระคืนหนี้

•ครัวเรือนเป็นกังวลในเรื่องรายได้และภาวะการมีงานทำมากขึ้น สะท้อนให้เห็นจากดัชนีองค์ประกอบที่แสดงมุมมองต่อรายได้และภาวะการมีงานทำปรับตัวลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 มาอยู่ที่ระดับ 48.1 ในเดือนมี.ค. 2560 จากเดิมที่ระดับ 49.6 ในเดือนก.พ. 2560 โดยในประเด็นเรื่องภาวะการมีงานทำนั้น ผลสำรวจชี้ให้เห็นว่า ภาวะการมีงานทำของครัวเรือนช่วงสิ้นไตรมาสแรกของปี 2560 กลับมามีความเปราะบางและไม่แน่นอนมากขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงต้นปี เนื่องด้วยธุรกิจ/องค์กร/หน่วยงานที่ครัวเรือนสังกัดมีการปรับตัวทางธุรกิจในด้านการจ้างงานโดย ‘การปรับลดคนงานหรือการเลิกจ้าง’ เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 9.2 ของครัวเรือนที่ทำการสำรวจในเดือนม.ค. 2560 มาอยู่ที่ร้อยละ 11.7 ในเดือนมี.ค. 2560 สอดรับกับผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมที่ปรับตัวลดลงในเดือนก.พ. 2560 จากการชะลอตัวของอุปสงค์และกำลังซื้อ kb04042-b

ในส่วนของประเด็นเรื่องค่าจ้างของครัวเรือนนั้น ผลการสำรวจภาวะการครองชีพชี้ให้เห็นว่า มากกว่าครึ่งของครัวเรือนที่ทำการสำรวจ (ร้อยละ 57.5) ไม่ได้รับการปรับขึ้นค่าจ้างประจำปีในปี 2560 โดยมีเพียงร้อยละ 41.4 ของครัวเรือนได้รับการปรับขึ้นค่าจ้าง ซึ่งครัวเรือนส่วนใหญ่ที่ได้รับการปรับขึ้นค่าจ้างนั้นเป็นไปในอัตราที่น้อยกว่าหรือเท่ากับอัตราการปรับขึ้นค่าจ้างในปีก่อนหน้า

kb04043-c โดยสรุป  ความเชื่อมั่นของครัวเรือนต่อภาวะการครองชีพในอนาคตปรับตัวดีขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 จากความกังวลที่ลดลงในประเด็นเรื่องค่าใช้จ่าย ภาระหนี้ รวมถึงสถานการณ์ทางด้านราคาสินค้า หลังราคาน้ำมันเชื้อเพลิงขายปลีกในประเทศเริ่มปรับตัวลดลง ในขณะที่ความเชื่อมั่นของครัวเรือนต่อภาวะการครองชีพในปัจจุบันปรับตัวลดลงจากเดือนก่อน จากความกังวลที่เพิ่มขึ้นในประเด็นเรื่องภาวะการมีงานทำและรายได้ ทั้งนี้ ในระยะข้างหน้า ยังต้องติดตามในประเด็นเรื่องค่าใช้จ่ายที่จะเพิ่มขึ้นในช่วงเดือนแห่งเทศกาล สถานการณ์ทางด้านราคาสินค้า โดยเฉพาะราคาสินค้าสาธารณูปโภค รวมถึงสถานการณ์ตลาดแรงงานในประเทศซึ่งอาจจะส่งผลต่อความเชื่อมั่นครัวเรือนได้

kb04044-d ที่มา : ศูนย์วิจัยกสิกรไทย