ปั้นเกาะเจจูธุรกิจพลังงาน

08 เม.ย. 2560 | 14:00 น.
เกาหลีใต้ปั้น “เจจูโมเดล” สร้างเศรษฐกิจแบบยั่งยืนบนเกาะเจจู โดยลดการพึ่งพารายได้จากอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและการเกษตร มาสู่อุตสาหกรรมอิงนวัตกรรมพลังงานหมุนเวียน

หลังจากที่จำนวนนักท่องเที่ยวจากประเทศจีนลดลงอย่างมากโดยเป็นผลพวงมาจากความบาดหมางระหว่างรัฐบาลจีนและรัฐบาลเกาหลีใต้เกี่ยวกับกรณีการที่ฝ่ายหลังนำระบบต่อต้านอากาศยานของสหรัฐอเมริกามาใช้ ทำให้จีนมองว่าระบบดังกล่าวเป็นภัยคุกคามจีน ส่งผลให้รัฐบาลจีนสั่งห้ามบริษัทตัวแทนการท่องเที่ยวหลายราย ขายทัวร์ที่จะนำนักท่องเที่ยวจีนมายังเกาหลีใต้ สถานการณ์ดังกล่าวเป็นอีกแรงกระตุ้นที่ทำให้รัฐบาลท้องถิ่นของจังหวัดเจจูบนเกาะเจจู เร่งเดินหน้าโครงการพัฒนาการใช้พลังงานหมุนเวียนและรถยนต์ไฟฟ้าบนเกาะ เพื่อสามารถพึ่งพาตัวเองได้ในด้านพลังงานและเป็นอนุรักษ์ความบริสุทธิ์ของธรรมชาติบนเกาะเจจู อีกทั้งยังเป็นการลดการพึ่งพารายได้จากอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่ไม่มีความแน่นอนและมักจะเปลี่ยนแปลงไปตามสถานการณ์บ้านเมือง

นอกจากนี้เมื่อพิจารณาอุตสาหกรรมการเกษตรที่เคยเป็นแหล่งรายได้สำคัญ ก็พบว่าสวนส้มเจจูที่มีชื่อเสียง ปัจจุบันได้รับผลกระทบจากข้อตกลงการค้าเสรีเกาหลีใต้-สหรัฐฯที่มีผลบังคับใช้มาตั้งแต่ปี 2555 ทำให้ส้มสหรัฐฯบุกเข้ามาตีตลาด ทำให้เกษตรกรเจ้าของสวนส้มหลายรายตัดสินใจเข้าร่วมโครงการโซลาร์ฟาร์มที่รัฐบาลท้องถิ่นให้การสนับสนุน โดยเกษตรกรให้เช่าพื้นที่สวนส้มทำโซลาร์ฟาร์มแก่บริษัทเอกชนเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าจำหน่ายแก่บริษัท โคเรีย อิเล็กทริก พาวเวอร์ ทำให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น โดยคาดว่าจะสูงถึง 18 ล้านวอนต่อปี หรือกว่า 555,000 บาท ในปีที่ผ่านมา มีเกษตรกรบนเกาะเจจูเข้าร่วมโครงการมากกว่า 100 ราย โครงการดังกล่าวเป็นแนวคิดริเริ่มของนายวอน ฮี-ยง ผู้ว่าราชการจังหวัดเจจู ที่ต้องการสร้างธุรกิจรูปใหม่ให้แก่ประชากรคนรุ่นใหม่ของเกาะ นอกจากนี้ เพื่อรักษาอากาศและธรรมชาติที่บริสุทธิ์อันเป็นจุดขายด้านการท่องเที่ยวของเกาะเจจู ทางจังหวัดได้ตั้งเป้าใช้พลังงานหมุนเวียน เช่น แสงอาทิตย์และลม ผลิตกระแสไฟฟ้าป้อนความต้องการใช้ของทั้งเกาะ 100% ภายในปี พ.ศ. 2573 รวมทั้งให้รถยนต์บนเกาะทุกคันเป็นรถยนต์ไฟฟ้าภายในปีเดียวกันนั้น

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,250 วันที่ 6 - 8 เมษายน พ.ศ. 2560