เปิดแล้ว!รถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีเขียวช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ

03 เม.ย. 2560 | 03:49 น.
นายกรัฐมนตรีตัดริบบิ้นเปิดเดินรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีเขียวช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ  พร้อมให้บริการฟรีจากสถานีแบริ่ง-สำโรง ตลอดเดือนเมษายน 60

วันนี้ (3 เม.ย.60) เวลา 09.00 น. ณ สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีสำโรง (E15) จังหวัดสมุทรปราการ: พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานพิธีเปิดการเดินรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง – สำโรง โดยมี พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมพลตำรวจเอก อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ร้อยตำรวจตรี เกรียงศักดิ์  โลหะชาละ ประธานสภากรุงเทพมหานคร  พลเอกยอดยุทธ บุญญาธิการ ประธานกรรมการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย นายพีระยุทธ สิงห์พัฒนากุล ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย นายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) นายสุรพงศ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) นายบัณฑิต ศิริตันหยง ประธานกรรมการบริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด นายชาติชาย อุทัยพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ พลตำรวจตรี ธรรมนูญ ไตรทิพยพงศ์  ผู้บังคับการภูธรจังหวัดสมุทรปราการ พันตำรวจเอกนเรวิช สุคนธวิท   ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรสำโรงเหนือ พร้อมด้วย คณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร คณะผู้บริหารการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.)  ผู้บริหารบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BTSC)  ผู้บริหารบริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด ประชาชนจังหวัดสมุทรปราการ และสื่อมวลชน ให้การต้อนรับและร่วมในพิธีเปิด

จากนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยคณะรัฐมนตรี และคณะฯ ได้ตรวจเยี่ยมพื้นที่บริเวณชั้นจำหน่ายตั๋ว (ชั้น 2) สถานีสำโรง (E15) และชมนิทรรศการแสดงความเป็นมาของโครงการรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีเขียว  ช่วงแบริ่ง – สมุทรปราการ  รวมถึงผลดำเนินการและความคืบหน้าการก่อสร้างตลอดโครงการฯ การติดตั้งระบบเดินรถไฟฟ้าบีทีเอส และสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับผู้พิการและผู้สูงอายุ จากนั้นขึ้นไปยังชานชาลา (ชั้น 3) เพื่อทำพิธีเปิด อีกทั้งชมวิธีการควบคุมการเดินรถภายในห้องควบคุม โดย นายกรัฐมนตรีและคณะ   ได้โดยสารรถไฟฟ้าบีทีเอส จากสถานีสำโรง (E15) ไปยังสถานีแบริ่ง (E14) จำนวน 1 สถานี ด้วย

ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย กล่าวรายงานผลการดำเนินงานว่า  รฟม. ในฐานะหน่วยงานที่รับผิดชอบโครงการ ได้ดำเนินการตามแผนแม่บทระบบขนส่งมวลชนทางราง  ในการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง – สมุทรปราการ ตั้งแต่ปี 2555    เพื่อเชื่อมโยงการเดินทางของประชาชน ระหว่างกรุงเทพมหานครและจังหวัดสมุทรปราการ ระยะทาง 13 กิโลเมตร รวมจำนวน 9 สถานี ซึ่งแล้วเสร็จสมบูรณ์ตามแผนงานตั้งแต่ปลายปี 2559 ในส่วนของการเดินรถนั้น คณะกรรมการจัดระบบการจราจร (คจร.) ได้มีมติเมื่อวันที่ 10 มิ.ย.58 เห็นชอบให้ กทม.เป็นผู้เดินรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต และช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ โดยเมื่อวันที่ 28 มี.ค.59 กทม. รฟม. และกระทรวงคมนาคม ได้ร่วมกันลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) มอบหมายให้ กทม.เป็นผู้บริหารจัดการเดินรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีเขียว ตามมติ คจร. ต่อไป

กทม.ได้มอบหมายให้ บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด เข้ามาดำเนินงานติดตั้งระบบการเดินรถไฟฟ้า ประกอบด้วย ระบบอาณัติสัญญาณ ระบบไฟฟ้าและเครื่องกล รวมถึงระบบการสื่อสาร โดยได้เปิดทดลองเดินรถไฟฟ้าเสมือนจริง จำนวน 1 สถานี จากสถานีแบริ่ง - สถานีสำโรง เมื่อวันที่ 15 มี.ค.60 รวมถึงซักซ้อมการแก้ไขปัญหาต่างๆ ในสถานการณ์ฉุกเฉิน เพื่อให้เกิดความพร้อมในการดูแลความปลอดภัยและให้บริการประชาชน ซึ่งในวันนี้ กทม. มีความพร้อมที่จะเปิดให้ประชาชนใช้บริการ โดยไม่เก็บค่าโดยสาร ไปจนถึงวันที่ 30 เม.ย.60 เพื่อให้ประชาชนเดินทางได้อย่างสะดวก รวดเร็ว บรรเทาปัญหาการจราจร   ในเขตบางนาและสมุทรปราการ ที่มีโรงงานอุตสาหกรรมและแหล่งชุมชนที่พักอาศัยจำนวนมาก ทั้งนี้ กทม.  จะสามารถเปิดให้บริการสถานีต่างๆ ตลอดเส้นทางเต็มระบบภายในปี พ.ศ. 2561

สำหรับเส้นทางเดินรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง–สมุทรปราการ ได้เชื่อมต่อจาก สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสที่สถานีแบริ่ง ไปตามแนวเกาะกลางถนนสุขุมวิ ท จนถึงจุดสิ้นสุดโครงการฯ บริเวณ       หน้าสถานีไฟฟ้าย่อยบางปิ้ง โดยครอบคลุมพื้นที่ 3 เทศบาล ของจังหวัดสมุทรปราการ ได้แก่ เทศบาลสำโรงเหนือ เทศบาลนครสมุทรปราการและเทศบาลบางปู ระยะทางรวม 13 กิโลเมตร มีจำนวน 9 สถานี ได้แก่ 1.สถานีสำโรง (E15) 2.สถานีปู่เจ้า (E16) 3.สถานีช้างเอราวัณ (E17) 4.สถานีโรงเรียนนายเรือ (E18) 5.สถานีปากน้ำ (E19)   6.สถานีศรีนครินทร์ (E20) 7.สถานีแพรกษา (E21) 8.สถานีสายลวด (E22) และ 9.สถานีเคหะฯ (E23) โดยมีอาคารจอดแล้วจร (park & ride) บริเวณสถานีปลายทางสถานีเคหะฯ ริมถนนสุขุมวิท เนื้อที่ประมาณ 18 ไร่ สามารถจอดรถได้ 1,200 คัน และมีศูนย์ซ่อมบำรุงตั้งอยู่บริเวณหลังสถานีไฟฟ้าย่อยบางปิ้ง รวมพื้นที่ประมาณ 123 ไร่ มูลค่าการลงทุนทั้งโครงการฯ รวม 27,673 ล้านบาท แบ่งเป็นงานด้านงานโยธา โครงสร้างและงานระบบราง 21,085 ล้านบาท และงานด้านติดตั้งระบบเดินรถ 6,588 ล้านบาท