MMชูเกรฮาวด์แกร่งลดกังวลเกณฑ์มาเก็ตแคป-เพิ่มทุนปลดภาระหนี้

03 เม.ย. 2560 | 06:41 น.
“มัดแมน” มัดใจนักลงทุน โชว์เกรฮาวด์ ตัวเอกในการขยายธุรกิจ-สร้างรายได้ มั่นใจการขายแฟรนไชส์สร้างรายได้ปีละ 45 ล้านบาท สร้างจุดแตกต่างสร้างความน่าสนใจหุ้น ปีนี้รายจ่ายดอกเบี้ยลดฮวบ หุ้นไตรมาสแรกแจกกำไร 2.3%

นายนาดิม ซาเวียร์ ซาลฮานี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มัดแมน ( MM ) เปิดเผยว่า หุ้น MM เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ MAI ซึ่งใช้เกณฑ์มูลค่าตลาดรวม หรือเกณฑ์มาร์เก็ตแคป โดยหุ้น MM มีความแตกต่างจากหุ้นใช้เกณฑ์มาร์เก็ตแคปทั่วไป คือ การมีแบรนด์เกรฮาวด์ คาเฟ่ ซึ่งเป็นแบรนด์โดดเด่น เป็นแบรนด์ของบริษัท ถือเป็นพระเอกหลักของการเติบโตสูงทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ ปีที่ผ่านมาการขายแฟรนไชส์ในเอเซีย ประกอบ ด้วย สิงคโปร์ ฮ่องกง เซี่ยงไฮ้ ปักกิ่ง และเซ็นสัญญาปีนี้อีก 2 ประเทศคือ ที่สิงคโปร์ และมาแลเซีย นอกจากนี้ บริษัทจะขยายเกรฮาวด์ คาเฟ่ เข้าไปในตลาดยุโรป เริ่มที่ลอนดอนประเทศสหราชอังกฤษไตรมาส 4 ปีนี้

รายได้จากการขายลิขสิทธิ์เกรฮาวด์ ประกอบด้วย 3 ส่วนคือ ส่วนแรก ค่าลิขสิทธิ์ครั้งแรก 250,000 เหรียญสหรัฐ , มี 5 สาขาภายใน 5 ปี ทุกสาขาเปิดลิขสิทธิ์ และการเก็บ 5 % ของรายได้ ปีที่ผ่านมา MM มีรายได้จากการขายแฟรนไชส์ 48 ล้านบาท

“ทุกปีมัดแมน จะต้องเปิด 2 ตลาดใหม่ลิขสิทธิ์ต่างประเทศ ในเอเซียไม่มีปัญหามีแล้ว 6 ประเทศ ซึ่งรู้จักเกรฮาวด์อย่างดี ในเอเซีย รวมทั้งเพื่อนบ้านใกล้ ๆCIMC ที่มีแผนไปในธุรกิจเครื่องดื่ม โอ ปองแปง มี 70 สาขามากสุดในโลก มีแผนโตในเวียดนาม หรือในกัมพูชา ในรูปการร่วมทุน มีรายได้จากการขายขนมปัง สำหรับในยุโรป ที่ยังไม่รู้จักเรา เกรฮาวด์ จะไปปักธงที่ลอนดอน ประเทศอังกฤษก่อนไตรมาส 4 ปีนี้ เป็นการลงทุนสร้างตลาดและขายแฟรนไชส์เอง ส่วนเกรฮาวด์ ไลฟ์สไตล์ ซึ่งเป็นธุรกิจเสื้อผ้าแฟชั่น 14 สาขา มีแผนปรับเปลี่ยนบางสาขา และคงสาขาที่ทำรายได้ไว้ รวมทั้งการรับออกแบบไลฟสไตล์ ให้กับลูกค้า ซึ่งโอกาสการเติบโตของธุรกิจมีสูงจากการขยายสาขา ขายแฟรนไชส์ธุรกิจอาหาร

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวว่า เงินจากการเพิ่มทุนนำไปขยายธุรกิจ และบางส่วนนำไปคืนหนี้สถาบันการเงิน 1,700 ล้านบาท ให้หมด เพื่อลดภาระดอกเบี้ยปีละ 65-70 ล้านบาท อย่างมีนัยสำคัญ เชื่อว่านักลงทุนไม่ผิดหวัง
ทั้งนี้ หุ้น MM เปิดให้นักลงทุนทั่วไปจองซื้อ 3-5 เม.ย.นี้ ราคาขายสูงสุดของช่วงราคา 5.25 บาท จำนวน 210.98 ล้านหุ้น เข้าซื้อขายในตลาด MAI 11 เมษายนนี้

สำหรับหุ้น IPO ที่เสนอขายก่อนหน้า คือ หุ้น เดนทัล คอร์ปอเรชั่น (D) ผู้ประกอบธุรกิจให้บริการทางทันตกรรมแบบครบวงจรด้วยเทคโนโลยีและวัสดุอุปกรณ์ที่ทันสมัย โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ มาตรฐานการรักษาในระดับสากล ซื้อขายใน Mai วันที่ 3 เมษายนนี้ , บริษัท ทีพีไอพาวเวอร์ ( TPIPP ) ขายราคาสูงสุด 7 บาท ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ 5 เม.ย.นี้ และ บริษัท ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ (WHAUP ) เสนอขายสูงสุด 26.25 บาท ซื้อขาย 10 เมษายนนี้

นางศิริพร เหล่ารัตนกุล ผู้อำนวยการอาวุโส บริษัท ที่ปรึกษา เอเซีย พลัส จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน D เชื่อมั่นว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าในการเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ เป็นวันแรก D จะสามารถยืนเหนือราคาจองซื้อที่ 6 บาทได้

สำหรับภาวะตลาดหุ้นไตรมาสแรกสิ้นสุด 30 มีนาคม 2560 ดัชนีหุ้นไทยให้ผลตอบแทนป 2.39 % หรือเพิ่มขึ้น 36.94 จุด ขณะที่นักลงทุนต่างชาติมีมูลค่าซื้อสุทธิเล็กน้อย

นายวรุตม์ ศิวะศริยานนท์ กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เอเชีย เวลท์ จำกัด กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นในไตรมาส 2 โดยเฉพาะเดือนเมษายน ดัชนีหุ้นน่าจะไซเวย์ จากวันหยุดสงกรานต์ ยังมีการขึ้นเครื่องหมาย XD ให้สิทธิในรับเงินปันผลด้วย จึงเป็นจังหวะในการทยอยซื้อหุ้นเก็บไว้ โดยแนะนำหุ้นรับเหมาก่อสร้าง เช่น UNIQ ,TRC กลุ่มวัสดุก่อสร้าง อาทิ SCC,WICK และธนาคารพาณิชย์ เช่น BBL ,SCB เนื่องจากจะปล่อยสินเชื่อได้มากขึ้น จากการลงทุนของเอกชนและโครงสร้างพื้นฐานของรัฐบาล รวมถึงความต้องการสินเขื่อจะเพิ่มขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจที่ดีขึ้น คาดผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ(จีดีพี) ปีนี้จะเติบโต 3.5% ขณะที่ธนาคารแห่งประเทศไทย ได้ปรับประมาณการจาก 3.2% เป็น 3.4%

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,249 วันที่ 2 - 5 เมษายน พ.ศ. 2560