แนวโน้มราคาทองคำวันพรุ่งนี้(30 มี.ค.60)
สรุปสภาวะตลาดทองคำแท่ง วันที่ 29 มีนาคม 2560
สภาวะตลาดวันที่ 29 มีนาคม 2560 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,246.75-1,253.38 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 20,450 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาไม่เปลี่ยนแปลงจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 20,450 บาทต่อบาททองคำ
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.19 น.ของวันที่ 28/03/2560)
แนวโน้มวันที่ 30 มีนาคม 2560
อังกฤษเตรียมที่จะเริ่มกระบวนการ Brexit เพื่อออกจากสหภาพยุโรปอย่างเป็นทางการแล้ว ประเด็นดังกล่าว สร้างแรงซื้อเข้าสู้ตลาดทองคำในฐานสินทรัพย์ปลอดภัย แต่ราคาทองคำดีดตัวขึ้นค่อนข้างจำกัดและเคลื่อนไหวในกรอบ เพราะ ถูกกดดันจากดัชนีดอลลาร์เมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินปรับตัวขึ้นจากระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือนครึ่ง เมื่อตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่อยู่ในระดับแข็งแกร่งช่วยหนุนการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงต่อไป ซึ่งตัวเลขของ Conference Board มีส่วนช่วยหนุนการคาดการณ์ดังกล่าว และหนุนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐประเภทอายุ 10 ปี ให้ปรับขึ้น ทั้งนี้ แนะนำติดตามกระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งสุดท้ายของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ที่แท้จริงประจำไตรมาส 4/2016 ในวันพฤหัสบดีนี้ เพื่อประเมินราคาทองคำในระยะสั้น ประกอบกับ แนะนำติดตามดูรายละเอียดท่าทีการเจรจาของอังกฤษและอียู ว่าจะส่งผลกระทบรุนแรงต่อระบบเศรษฐกิจ มากน้อยเพียงใด ขณะที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ระบุ การที่เงินบาทแข็งค่ามากกว่าสกุลเงินภูมิภาค โดยตั้งแต่ต้นปีนี้ บาทแข็งค่าขึ้นมากว่า 3.8% แต่ยังอยู่ในระดับกลาง เมื่อเทียบกับภูมิภาค อย่างไรก็ตาม หลังจากคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ประกาศ คงดอกเบี้ยนโยบายที่ 1.50% ตามคาด กนง.มีความเห็นว่า การแข็งค่าของเงินบาทในขณะนี้ ไม่เป็นผลดีต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย มุมมองดังกล่าวอาจทำให้ค่าเงินบาทกลับมาอ่อนค่าได้บ้าง ซึ่งส่งผลบวกต่อราคาทองคำในประเทศ ขณะนี้ราคาทองคำอาจมีโอกาสปรับตัวขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 1,263-1,272 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ แต่หากราคายังไม่สามารถผ่านแนวต้านดังกล่าวไปได้ ก็จะเห็นการย่อตัวของราคากลับลงมาบริเวณแนวรับ 1,247-1,239 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ยังคงแนะนำการลงทุนในลักษณะรอจังหวะซื้อเก็งกำไรระยะสั้น
กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีมีมุมมองว่า หากราคาทองคำยืนเหนือบริเวณแนวรับ 1,247 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ในระยะสั้นราคาทองคำยังมีโอกาสขยับขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,263-1,272 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยบริเวณนี้นักลงทุนที่สะสมทองคำไว้อาจมีการขายทำกำไรเพียงบางส่วน โดยให้ดูว่าราคาจะผ่านแนวต้านได้หรือไม่ ซึ่งหากไม่ผ่านราคาอาจจะมีการอ่อนตัวลงอีกครั้ง โดยนักลงทุนที่รอซื้อทองคำอาจรอดูการตั้งฐานของราคาโดยประเมินแนวรับไว้ที่ 1,247-1,239 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนะนำนักลงทุนในระยะสั้น หากราคาการย่อตัวลงมาและสามารถตั้งฐานบริเวณแนวรับดังกล่าวได้แข็งแกร่งสามารถเข้าสะสมทองคำเพิ่มเติมบางส่วน
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,247 (20,300บาท) 1,239 (20,200บาท) 1,230 (20,050บาท)
แนวต้าน 1,263 (20,600บาท) 1,272 (20,750บาท) 1,280 (20,950บาท)
กราฟราคาทองคำ
ที่มา:บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด
สภาวะตลาดวันที่ 29 มีนาคม 2560 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,246.75-1,253.38 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 20,450 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาไม่เปลี่ยนแปลงจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 20,450 บาทต่อบาททองคำ
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.19 น.ของวันที่ 28/03/2560)
แนวโน้มวันที่ 30 มีนาคม 2560
อังกฤษเตรียมที่จะเริ่มกระบวนการ Brexit เพื่อออกจากสหภาพยุโรปอย่างเป็นทางการแล้ว ประเด็นดังกล่าว สร้างแรงซื้อเข้าสู้ตลาดทองคำในฐานสินทรัพย์ปลอดภัย แต่ราคาทองคำดีดตัวขึ้นค่อนข้างจำกัดและเคลื่อนไหวในกรอบ เพราะ ถูกกดดันจากดัชนีดอลลาร์เมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินปรับตัวขึ้นจากระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือนครึ่ง เมื่อตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่อยู่ในระดับแข็งแกร่งช่วยหนุนการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงต่อไป ซึ่งตัวเลขของ Conference Board มีส่วนช่วยหนุนการคาดการณ์ดังกล่าว และหนุนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐประเภทอายุ 10 ปี ให้ปรับขึ้น ทั้งนี้ แนะนำติดตามกระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งสุดท้ายของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ที่แท้จริงประจำไตรมาส 4/2016 ในวันพฤหัสบดีนี้ เพื่อประเมินราคาทองคำในระยะสั้น ประกอบกับ แนะนำติดตามดูรายละเอียดท่าทีการเจรจาของอังกฤษและอียู ว่าจะส่งผลกระทบรุนแรงต่อระบบเศรษฐกิจ มากน้อยเพียงใด ขณะที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ระบุ การที่เงินบาทแข็งค่ามากกว่าสกุลเงินภูมิภาค โดยตั้งแต่ต้นปีนี้ บาทแข็งค่าขึ้นมากว่า 3.8% แต่ยังอยู่ในระดับกลาง เมื่อเทียบกับภูมิภาค อย่างไรก็ตาม หลังจากคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ประกาศ คงดอกเบี้ยนโยบายที่ 1.50% ตามคาด กนง.มีความเห็นว่า การแข็งค่าของเงินบาทในขณะนี้ ไม่เป็นผลดีต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย มุมมองดังกล่าวอาจทำให้ค่าเงินบาทกลับมาอ่อนค่าได้บ้าง ซึ่งส่งผลบวกต่อราคาทองคำในประเทศ ขณะนี้ราคาทองคำอาจมีโอกาสปรับตัวขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 1,263-1,272 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ แต่หากราคายังไม่สามารถผ่านแนวต้านดังกล่าวไปได้ ก็จะเห็นการย่อตัวของราคากลับลงมาบริเวณแนวรับ 1,247-1,239 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ยังคงแนะนำการลงทุนในลักษณะรอจังหวะซื้อเก็งกำไรระยะสั้น
กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีมีมุมมองว่า หากราคาทองคำยืนเหนือบริเวณแนวรับ 1,247 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ในระยะสั้นราคาทองคำยังมีโอกาสขยับขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,263-1,272 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยบริเวณนี้นักลงทุนที่สะสมทองคำไว้อาจมีการขายทำกำไรเพียงบางส่วน โดยให้ดูว่าราคาจะผ่านแนวต้านได้หรือไม่ ซึ่งหากไม่ผ่านราคาอาจจะมีการอ่อนตัวลงอีกครั้ง โดยนักลงทุนที่รอซื้อทองคำอาจรอดูการตั้งฐานของราคาโดยประเมินแนวรับไว้ที่ 1,247-1,239 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนะนำนักลงทุนในระยะสั้น หากราคาการย่อตัวลงมาและสามารถตั้งฐานบริเวณแนวรับดังกล่าวได้แข็งแกร่งสามารถเข้าสะสมทองคำเพิ่มเติมบางส่วน
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,247 (20,300บาท) 1,239 (20,200บาท) 1,230 (20,050บาท)
แนวต้าน 1,263 (20,600บาท) 1,272 (20,750บาท) 1,280 (20,950บาท)
กราฟราคาทองคำ
