ธปท.มีมติคงดอกเบี้ยอาร์พี 1.5% ชี้เศรษฐกิจฟื้นตัวกว่าคาด ปรับประมาณจีดีพีเพิ่มเป็น 3.4% จากเดิมที่ 3.2% เผยส่งออกขยับโต ด้านภาครัฐ-ท่องเที่ยวแรงหนุนสำคัญ ลั่นต่างประเทศยังเสี่ยง เหตุนโยบายการเงิน-การค้ายังมีความไม่แน่นอน
นายจาตุรงค์ จันทรังษ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และเลขานุการ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เปิดเผยว่า คณะกรรมการฯ มีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 1.5% ต่อปี เนื่องจากแนวโน้มเศรษฐกิจขยายตัวดีกว่าคาดไว้เดิม เป็นผลมาจากภาคการส่งออกที่ขยายตัวดีขึ้น จึงมีการปรับประมาณการเศรษฐกิจไทย (จีดีพี) จากเดิมอยู่ที่ 3.2% ปรับเพิ่มเป็น 3.4% และประเมินจีดีพีในปี 2561 อยู่ที่ 3.6% ขณะที่ภาคการส่งออกปรับประมาณจากเดิมอยู่ที่ 0% เป็นขยายตัวที่ 2.2%
ทั้งนี้ ปัจจัยหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยยังมาจากการใช้จ่ายภาครัฐที่คาดว่าจะขยายตัวได้ 11.8% และภาคการท่องเที่ยวยังขยายตัวได้ดี โดยจำนวนนักท่องเที่ยวปรับขึ้นจาก 34.1 ล้านคน มาอยู่ที่ 34.5 ล้านคน หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 4 แสนคน ซึ่งประมาณ 50% มาจากนักท่องเที่ยวจีนที่หันมาเที่ยวในไทยแทนการเที่ยวเกาหลี ส่วนการบริโภคภาคเอกชนและการลงทุนภาคเอกชนมีแนวโน้มฟื้นตัวแบบค่อยเป็นค่อยไป โดยปีนี้คาดว่าการลงทุนภาคเอกชนขยายตัวได้ 2.4% จากคาดการณ์เดิมอยู่ที่ 1.6% และการบริโภคภาคเอกชนอยู่ที่ 2.7% ซึ่งจะขยายตัวดีขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ตามภาคการส่งออกที่ปรับตัวดีขึ้น
ส่วนปัจจัยเสี่ยงในด้านต่ำมีมากขึ้น โดยมาจากปัจจัยต่างประเทศที่ยังมีความไม่แน่นอนสูง ทั้งในเรื่องของนโยบายการค้าของสหรัฐฯ และนโยบายการเงินที่แตกต่างกันในกลุ่มประเทศอุสาหกรรมหลัก อย่างไรก็ดี เสถียรภาพทางการเงินของไทยยังคงแข็งแกร่ง แต่ในระยะข้างหน้ายังเผชิญความผันผวนได้ เนื่องจากไทยอยู่ในโลกที่มีความเสี่ยงและผันผวนมากขึ้น
“แม้ว่าแนวโน้มเศรษฐกิจไทยขยายตัวดีกว่าคาดการณ์ แต่ความเสี่ยงต่างประเทศยังคงมีอยู่ ซึ่งการคงอัตราดอกเบี้ย 1.5% เพื่อให้ภาวะทางการเงินผ่อนคลาย และเอื้อต่อการเติบโตของเศรษฐกิจ ควบคู่กับการรักษาเสถียรภาพการเงินของประเทศ”