ครม.ไฟเขียว ชง“โขน-นวดไทย”ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ต่อยูเนสโก

28 มี.ค. 2560 | 08:30 น.
นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม(วธ.) เปิดเผยภายหลังประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ว่า ที่ประชุม ครม. มีมติเห็นชอบให้นำเสนอโขนและนวดไทย ภายใต้ชื่อ KHON และ NUAD THAI เพื่อเสนอขึ้นทะเบียนเป็นรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติต่อยูเนสโก ตามที่กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) เสนอ และเห็นชอบให้กรมส่งเสริมวัฒนธรรม (สวธ.) ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการส่งเสริมและรักษามรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม ผู้ลงนามในเอกสารนำเสนอโขนและนวดไทย ในฐานะตัวแทนของประเทศไทย เพื่อเสนอต่อยูเนสโก

ขั้นตอนหลังจากนี้จะนำเสนอเอกสารโขนและนวดไทยไปยังยูเนสโกกรุงปารีส สาธารณรัฐฝรั่งเศส ภายในวันที่ 31 มีนาคมนี้ ตามข้อกำหนดของอนุสัญญาว่าด้วยการสงวนรักษามรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ กำหนดให้รัฐภาคีเสนอรายการมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ ภายในเดือนมีนาคมของทุกปี และใช้เวลาในการพิจารณาอีกอย่างน้อย 1 ปี เพื่อเสนอต่อคณะกรรมการระหว่างรัฐบาลในการประชุมสมัชชาสมัยสามัญ ซึ่งในปี 2560 จะประชุมสมัชชาสมัยสามัญครั้งที่ 12 วันที่ 4-8 ธันวาคม 2560  ณ กรุงโซล สาธารณรัฐเกาหลี

นายวีระ กล่าวอีกว่า การจัดทำเอกสารเพื่อเสนอโขนและนวดไทยขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก เนื่องจากประเทศไทยเข้าเป็นภาคีอนุสัญญาว่าด้วยการสงวนรักษามรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ (Convention for the Safeguarding of the Intangible Cultural Heritage) ตามมติเห็นชอบของ ครม.เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2558 ส่งผลให้ไทยได้เข้าร่วมเป็นภาคีอนุสัญญาฯ สมบูรณ์เมื่อ10 มิถุนายน 2559 ซึ่งความมุ่งหมายของอนุสัญญาดังกล่าว เพื่อสงวนรักษามรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ และเพื่อเพิ่มความตระหนักในระดับท้องถิ่น ระดับชาติและระดับนานาชาติ ถึงความสำคัญของมรดกทางวัฒนธรรมและให้เกิดความชื่นชมร่วมกัน รวมทั้งเพื่อให้ความร่วมมือและความช่วยเหลือระหว่างประเทศ เป็นต้น

ดังนั้น จากความมุ่งหมายของอนุสัญญาดังกล่าว ตั้งแต่ปี 2542-2558 วธ.ได้คัดเลือกมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม เพื่อประกาศขึ้นทะเบียนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของประเทศไทยไว้ทั้งหมด 318 รายการ ใน 6 ประเภท ได้แก่ 1.วรรณกรรมพื้นบ้านและภาษา 2.ศิลปะการแสดง 3.แนวปฏิบัติทางสังคม พิธีกรรม ประเพณีและเทศกาล 4.ความรู้และการปฏิบัติเกี่ยวกับธรรมชาติและจักรวาล 5.งานช่างฝีมือดั้งเดิม และ 6.การเล่นพื้นบ้าน กีฬาพื้นบ้านและศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัว

ในปี 2560 ที่ประชุมคณะกรรมการส่งเสริมและรักษามรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม ประกอบด้วย ผู้แทนกระทรวงต่างๆ ภาคเอกชนและผู้เกี่ยวข้อง อาทิ กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กรมทรัพย์สินทางปัญญา ศิลปินแห่งชาติ เห็นชอบให้จัดทำข้อมูลและเอกสารเกี่ยวกับโขนและนวดไทยเพื่อเสนอให้ยูเนสโกประกาศขึ้นทะเบียน

จากการศึกษาข้อมูลทางวิชาการเกี่ยวกับโขน ได้รับการประกาศขึ้นทะเบียนมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของไทย ประเภทศิลปะการแสดง เมื่อปี 2552 ซึ่งการเสนอโขนขึ้นทะเบียนครั้งนี้ ตรงตามเกณฑ์ตามที่ยูเนสโกกำหนดในมาตรา 2 ของภาคีอนุสัญญาฯ โดยโขนมีคุณสมบัติตรงตามหลักเกณฑ์ใน 3 ประเภท ได้แก่ 1. ศิลปะการแสดง  2. การปฏิบัติทางสังคม พิธีกรรม งานเทศกาล  และ 3. งานช่างฝีมือดั้งเดิม

เนื่องจากโขนเป็นศิลปะการแสดงที่ทุกเพศ ทุกวัย สามารถฝึกทักษะได้ โดยมีการไหว้ครู เป็นขนบจารีตที่สำคัญยิ่ง ส่งเสริมการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ อันแสดงถึงความหลากหลายทางวัฒนธรรมอย่างกว้างขวางทั่วโลก จะทำให้คนรุ่นใหม่สนใจมีส่วนร่วมกับกิจกรรมต่างๆที่เกี่ยวข้องกับโขน เป็นต้น

ส่วนนวดไทย ได้รับการประกาศขึ้นทะเบียนมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของไทย สาขาความรู้เกี่ยวกับธรรมชาติและจักรวาล เมื่อปี 2554 ถือว่าเป็นศาสตร์และศิลป์ทางการแพทย์ดั้งเดิมเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพที่มีความสัมพันธ์กับวัฒนธรรมท้องถิ่น และการรักษาทางเลือกควบคู่ไปกับการดูแลสุขภาพตามแบบแผนตะวันตกสมัยใหม่ โดยจารึกวัดโพธิ์ที่ปรากฏความรู้เกี่ยวกับตำรานวดแผนโบราณวัดโพธิ์

และได้รับการประกาศเป็นมรดกความทรงจำแห่งโลก เมื่อปี 2554 สำหรับการนำเสนอขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโกครั้งนี้ นวดไทยตรงตามคุณสมบัติและหลักเกณฑ์ที่ยูเนสโกกำหนดไว้ในมาตรา 2 ของภาคีอนุสัญญาฯ ในประเภทของความรู้และการปฏิบัติเกี่ยวกับธรรมชาติและจักรวาล