“นาโอส” ปักหมุดไทยเดินหน้าสร้างแบรนด์ “ไบโอเดอร์มา” ส่งผลราคาลด 5-20%พร้อมขยายช่องทางจำหน่ายผ่านโมเดิร์นเทรด ร้านยา โรงพยาบาลคาดสิ้นปีเติบโต 2 หลัก
นางสาววัลภา รัตนชัยพิพัฒน์ ผู้อำนวยการ บริษัทนาโอส (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายเวชสำอางภายใต้แบรนด์ “ไบโอเดอร์มา”เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่านาโอส (ประเทศไทย) เริ่มจดทะเบียนในเดือนมีนาคมปีที่ผ่านมา โดยเป็นการขยายการลงทุนของบริษัทแม่ นาโอส อินเตอร์เนชั่นแนล ผู้ผลิตแบรนด์เวชสำอางชั้นนำจากประเทศฝรั่งเศสเพื่อรุกทำตลาดแบรนด์ไบโอเดอร์มาเต็มรูปแบบ หลังจากที่ให้ไลเซนส์บริษัทยารายหนึ่งเป็นผู้จัดจำหน่ายตลอด 10 ปีที่ผ่านมา
โดยการเข้ามารุกทำตลาดครั้งนี้ เพราะมองว่าตลาดเวชสำอางในไทยเป็นตลาดที่มีศักยภาพ มีการเติบโตได้ดี เป็นไปในทิศทางเดียวกับภูมิภาคเอเชีย ขณะที่แบรนด์ไบโอเดอร์มาเองมีการเติบโตทั่วโลก ทำให้บริษัทมีแผนเข้ามาบริหารจัดการ และทำกิจกรรมการตลาดเต็มรูปแบบซึ่งนอกจากไบโอเดอร์มาแล้วบริษัทแม่ยังเป็นผู้ผลิตพรีเมี ยมคอสเมติกอีก 2 แบรนด์ แต่ยังไม่นำเข้ามาจำหน่ายในเมืองไทย
ด้านกลยุทธ์การทำตลาดบริษัทมีแผนสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น โดยสื่อสารถึงความเป็นเวชสำอางด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยี พร้อมกับนำเข้าผลิตภัณฑ์ใหม่มาวางจำหน่ายจากปัจจุบันที่มีอยู่ 37 รายการใน 6 กลุ่มอาทิ ผลิตภัณฑ์สำหรับผิวบอบบาง ผิวขาดความชุ่มชื้นผิวแห้งมาก เป็นต้น โดยล่าสุดบริษัทเปิดตัวผลิตภัณฑ์กันแดด“ไบโอเดอร์มา โฟโตเดิร์ม อะควาฟลูอิด นิวทรอล” (BIODERMA Photoderm Aquafluide Neutral) เมื่อต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมาและมีแผนจะนำเข้าอีก 4-5 รายการต่อปี เพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภคที่ปัจจุบันให้ความนิยมไบโอเดอร์มามากขึ้น
ส่วนสินค้าที่วางจำหน่ายจะมีราคาลดลง 5-20% พร้อมกับเพิ่มช่องทางการจำหน่ายไปยังโมเดิร์นเทรด ร้านขายยาโรงพยาบาล คลินิก ร้านสุขภาพและความงาม และช่องทางขายผ่านออนไลน์ รวมถึงการจัดโปรโมชันเพื่อเป็นการกระตุ้นยอดขายและคืนกำไรให้กับผู้บริโภคโดยในปีนี้บริษัทตั้งเป้าหมายที่จะเติบโตเป็นตัวเลข 2 หลักด้วย
ในช่วงที่ผ่านมาพบว่าไบโอเดอร์มาได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย โดยมีวางจำหน่ายในกว่า 90 ประเทศทั่วโลก ทั้งในจีน ญี่ปุ่น เกาหลี สิงคโปร์ และอินโดนีเซีย ฯลฯ ในปีนี้บริษัทแม่ยังมีแผนขยายการลงทุนไปยังประเทศไต้หวันด้วย โดยในปีที่ผ่านมาบริษัทมียอดขายทั่วโลกเติบโต 50-60%
ไบโอเดอร์มาเป็นที่นิยมอย่างมากในยุโรป ขณะที่ในเอเชียถือเป็นตลาดใหม่ ซึ่งมีแบรนด์ดังๆ เริ่มเข้ามาทำตลาดมากขึ้นเพราะยังมองเห็นโอกาสในการเติบโต และมีกำลังซื้อสูง
สำหรับตลาดเวชสำอางในไทยโดยรวมมีวางจำหน่ายราว50 แบรนด์ ทั้งระดับแมสและพรีเมียม โดยในปีที่ผ่านมามีการเติบโตราว 60% (ข้อมูลจากเอซีนีลเส็น ณ ส.ค.59) และคาดว่าในปีนี้จะมีการเติบโตราว 50%
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,248
วันที่ 30 มีนาคม - 1 เมษายน พ.ศ. 2560