ไทยออยล์คาดราคาน้ำมันดิบสัปดาห์นี้(27 - 31 มี.ค. 60)จะทรงตัว

27 มี.ค. 2560 | 04:23 น.
ราคาน้ำมันดิบคาดจะทรงตัว หลังการปรับลดการผลิตโอเปกถูกชดเชยด้วยการปรับเพิ่มการผลิตของสหรัฐฯ

บทวิเคราะห์สถานการณ์น้ำมันประจำสัปดาห์ โดย บมจ. ไทยออยล์: ฉบับวันที่ 27 มีนาคม 2560

ไทยออยล์คาดราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์นี้จะเคลื่อนไหวที่กรอบ 47-52 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล

ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวที่กรอบ 49-54 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล

แนวโน้มสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบ ( 27 - 31 มี.ค. 60)

ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้คาดว่าจะทรงตัว หลังข่าวการปรับลดกำลังผลิตของผู้ผลิตทั้งในและนอกกลุ่มโอเปกถูกชดเชยด้วยปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ที่แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ประกอบกับปริมาณการผลิตน้ำมันในสหรัฐฯ ที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบลิเบียยังเป็นอีกปัจจัยที่ต้องจับตามอง หลังการผลิตในประเทศกลับมาปรับเพิ่มขึ้นอีกครั้ง เนื่องจากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ฝั่งตะวันออกคลี่คลายลง ซึ่งส่งผลกระทบต่อท่าขนส่งน้ำมันดิบ Ras Lanuf และ Es Sider

ปัจจัยสำคัญที่คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อสถานการณ์ราคาน้ำมันในสัปดาห์นี้:

ติดตามการปรับลดกำลังการผลิตของผู้ผลิตทั้งในและนอกกลุ่มโอเปก โดยคาดการณ์ว่าผู้ผลิตในกลุ่มจะปรับลดปริมาณการผลิตอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ยังมีความเป็นไปได้สูงที่ผู้ผลิตกลุ่มโอเปกจะขยายระยะเวลาการปรับลดกำลังการผลิตหลังจากเดือน มิ.ย. 60 หลังนาย Khalid al-Falih รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานซาอุดิอาระเบีย เผยว่า อาจมีการขยายระยะเวลาในการปรับลดกำลังการผลิต หากปริมาณน้ำมันดิบคงคลังโลกยังอยู่สูงกว่าระดับเฉลี่ย 5 ปี อย่างไรก็ตาม กลุ่มโอเปกจะต้องได้รับความร่วมมือจากผู้ผลิตนอกกลุ่มโอเปกด้วยเช่นกัน

ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ คาดว่าจะกดดันราคาน้ำมันดิบต่อเนื่อง หลังปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ยังอยู่ในระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์อย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ รายงานโดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) ประจำสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 17 มี.ค. 60 ปรับเพิ่มขึ้น 5.0 ล้านบาร์เรล มาสู่ระดับ 533.1 ล้านบาร์เรล เนื่องจากปริมาณการนำเข้าน้ำมันดิบยังอยู่ในระดับสูง ประกอบกับปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ที่ปรับเพิ่มขึ้นราว 0.02 ล้านบาร์เรลต่อวัน มาสู่ระดับ 9.13 ล้านบาร์เรลต่อวัน

การผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง หลัง 5 สัปดาห์ที่ผ่านมา ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ปรับเพิ่มขึ้นราว 150,000 บาร์เรลต่อวัน นอกจากนี้ ปริมาณแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบก็ปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเช่นกัน และล่าสุด Baker Hughes รายงานปริมาณแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบสหรัฐฯ ปรับเพิ่มขึ้น 21 แท่น มาอยู่ที่ 652 แท่น ณ วันที่ 24 มีค. 60 ซึ่งเป็นการปรับเพิ่มขึ้น 10 สัปดาห์ติดต่อกัน

ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของลิเบียมีแนวโน้มฟื้นตัว  หลังจากสถานการณ์ความไม่สงบภายในประเทศที่พื้นที่ฝั่งตะวันออกเริ่มคลี่คลายลง ส่งผลให้กำลังการผลิตของลิเบียปรับเพิ่มขึ้นแตะระดับ 700,000 บาร์เรลต่อวัน นอกจากนี้  บริษัทน้ำมันแห่งชาติของลิเบีย (NOC)  ตั้งเป้าหมายที่จะเพิ่มปริมาณการผลิตของลิเบียไปสู่ระดับ 800,000 บาร์เรลต่อวัน ภายในเดือนเม.ษ. 60 ขณะที่ ในช่วงระยะสั้นนี้คาดว่าปริมาณการผลิตจะเพิ่มขึ้นราว 125,000 บาร์เรลต่อวัน จากแหล่งน้ำมันดิบ Abu Attifel และ Rimal ซึ่งจะกลับมาดำเนินการผลิตอีกครั้ง หลังการปิดซ่อมบำรุง และ จากแหล่งน้ำมันดิบ El Sharara ซึ่งกลับมาผลิตอีกครั้ง หลังผ่านช่วงสงคราม

ตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าติดตามในสัปดาห์นี้ ได้แก่ จีดีพีไตรมาส 4/59 สหรัฐฯ ดัชนีราคาผู้บริโภคยูโรโซน รายได้ส่วนบุคคลสหรัฐฯ และดัชนีภาคการผลิตจีน

สรุปสถานการณ์ราคาน้ำมันในสัปดาห์ที่ผ่านมา (20 - 24 มี.ค. 60)

ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับลดลง 0.81 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล มาอยู่ที่ 47.97  เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ในขณะที่ ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ปรับลดลง 0.96 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล มาอยู่ที่ 50.80 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบดูไบ ปิดเฉลี่ยอยู่ที่ 49 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล หลังได้รับแรงกดดันจากปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ นอกจากนี้ ราคายังได้รับแรงกดดันจากปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 9.13 ล้านบาร์เรลต่อวัน หลังผู้ผลิตน้ำมันดิบในสหรัฐฯ เพิ่มการขุดเจาะขึ้นต่อเนื่องมาสู่ระดับสูงสุดในรอบ 2 ปี อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันดิบยังได้รับแรงหนุนจากการปรับลดกำลังการผลิตของผู้ผลิตในกลุ่มโอเปกที่มีแนวโน้มยืดระยะเวลาของข้อตกลงการปรับลดกำลังการผลิตเกินกว่ากำหนดการสิ้นสุดในเดือน มิ.ย. 60 แต่กลุ่มโอเปกจะต้องได้รับความร่วมมือจากผู้ผลิตนอกกลุ่มโอเปกด้วยเช่นกัน

ที่มา : บมจ. ไทยออยล์