กรุงศรีส่ง‘คาร์ฟอร์แคช’ เปิดตลาดลาวไตรมาส4

29 มี.ค. 2560 | 05:00 น.
กรุงศรีอยุธยา ส่งโปรดักต์ Car4Cash ชิมลางตลาดลีสซิ่งกัมพูชา-ลาว ไตรมาส 4 พร้อมทดลองผ่อนคลายกฎแอลทีวีปล่อยกู้สูงสุด 90% ดึงลูกค้าใหม่ หลังคุมเอ็นพีแอลอยู่หมัดต่ำกว่า 0.1%

นายแดน ฮาร์โซโน่ ประธานกลุ่มธุรกิจลูกค้ารายย่อยและลูกค้าบุคคล ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าภายในไตรมาสที่ 4 ปีนี้ ธนาคารจะนำโปรดักต์แชมเปียน Car4Cash ของกรุงศรีออโต้ ในไทยเข้าไปทดลองตลาดในสปป.ลาว โดยจะดำเนินการภายใต้บริษัทกรุงศรี บริการเช่าสินเชื่อ จำกัด (KLS)เนื่องจากธุรกิจในลาวมีแนวโน้มขยายตัวได้ค่อนข้างดีและหนี้เสียต่ำ

ปัจจุบันบริษัทกรุงศรีบริการเช่าสินเชื่อ จำกัดถือหุ้นโดยบริษัท อยุธยา แคปปิตอล เซอร์วิสเซส จำกัด จำนวน 35% และบริษัท อยุธยา แคปปิตอล ออโต้ลีส จำกัด (มหาชน) จำนวน 35% จดทะเบียนในสปป.ลาว เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2557ให้บริการสินเชื่อเงินผ่อน ภายใต้แบรนด์กรุงศรี เฟิร์สช้อยส์ และสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ ภายใต้แบรนด์กรุงศรี ออโต้ งบการเงินปี 2559 ระบุว่า มีเงินให้สินเชื่อจำนวน 1,750 ล้านบาทและตั้งเป้าปีนี้ขยายตัว 15%
สินเชื่อที่ใช้รถยนต์เป็นหลักประกัน หรือ Car4Cash เป็นผลิตภัณฑ์สินเชื่อจำนำทะเบียนรถของกรุงศรี ออโต ที่ได้รับความนิยมสูงสุดและเป็นต้นแบบของสินเชื่อจำนำทะเบียนรถในไทย

นอกจากนี้แนวโน้มหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล)จากธุรกิจในสปป.ลาว มีอัตราหนี้เสียค่อนข้างต่ำอยู่ที่ 0.10% เนื่องจากลูกค้าลาวค่อนข้างมีคุณภาพ ส่งผลให้ธุรกิจขยายตัวได้ดี เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ธนาคารเตรียมนำ Car4Cash ไปเปิดตลาด

รวมทั้งธนาคารกำลังอยู่ในช่วงทดลองในการผ่อนคลายหลักเกณฑ์บางอย่างในตลาดสปป.ลาว เพื่อต่อยอดการหาฐานลูกค้าใหม่เข้ามามากขึ้น เช่น การผ่อนคลายหลักเกณฑ์อัตราส่วนการปล่อยกู้ต่อหลักประกัน (Loan to Value: LTV) จากปกติจะปล่อยในอัตรา 80-85% ธนาคารจะทดลองปล่อยให้ในอัตรา 90% เพื่อศึกษาตลาดลูกค้าใหม่ที่จะเข้ามาหลังจากผ่อนคลายเกณฑ์ และคอยดูพฤติกรรมลูกค้าเพื่อปรับใช้หลักเกณฑ์อื่นๆ เพิ่มเติม เป็นต้น

นายฮาร์โซโน่คาดว่าการผ่อนคลายกฎและการเสริมผลิตภัณฑ์ใหม่ จะช่วยให้KLS เพิ่มฐานลูกค้าใหม่เข้ามาได้มากขึ้น จากปัจจุบันมีฐานลูกค้าประมาณ 1,000 รายอย่างไรก็ตามธนาคารงัให้ความสำคัญกับการบริหารความเสี่ยง การผ่อนคลายกฎหรือการนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ จะต้องไม่มากเกินไปจนเกิดการเปลี่ยนพฤติกรรมลูกค้าหรือผู้บริโภคที่มีคุณภาพจนหย่อนคุณภาพ เนื่องจากจะมีผลต่อเอ็นพีแอลที่อยู่ในระดับต่ำสามารถเพิ่มขึ้นได้

“การลดอัตราส่วน LTV ลง เปรียบเหมือนการวางเงินดาวน์น้อยลง และใช้วงเงินกู้เพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นความเสี่ยงได้ ประกอบกับข้อมูลเครดิตในลาวเพิ่งเริ่มต้นจึงยังมีข้อมูลไม่ครบถ้วน ดังนั้น การผ่อนคลายกฎบางอย่างจึงเป็นการทดลองตลาดก่อนเท่านั้น”

ขณะเดียวกันในเดือนพฤษภาคม-มิถุนายนนี้ ธนาคารจะขยายสาขาในสปป.ลาวเพิ่มเติม โดยจะขยายไปพื้นที่ปากเซ เพราะเป็นตลาดที่มีศักยภาพและความต้องการสูง รวมถึงการมองไปยังประเทศเพื่อนบ้านอื่นๆ โดยเฉพาะในประเทศเมียนมาและเวียดนาม โดยทั้ง 2 ตลาดนี้ ถือเป็นตลาดที่มีโอกาสเติบโตสูง แต่ยังคงมีกฎระเบียบทางการค่อนข้างเข้มงวด และมีผู้เล่นรายเดิม ซึ่งเป็นสิ่งที่ธนาคารจะเข้าไปทำธุรกิจต้องศึกษาและวิเคราะห์ตลาดให้ดีก่อน

สำหรับธุรกิจไมโครไฟแนนซ์ในประเทศกัมพูชา ภายใต้บริษัทหัตถากักสิกอร์ ลิมิเต็ดคุณภาพสินเชื่อแตกต่างกับสปป.ลาว เนื่องจากลักษณะการปล่อยสินเชื่อไม่เหมือนกัน ทำให้มีหนี้เอ็นแอลสูงกว่าธุรกิจของ KLS แต่อยู่ในการควบคุม

ธนาคารตั้งเป้าการเติบโตสินเชื่อบริษัทหัตถากักสิกอร์ ลิมิเต็ดอยู่ที่ 32.5% คาดว่าภายในสิ้นปีนี้ยอดสินเชื่อคงค้างจะจบอยู่ที่ 2.1 หมื่นล้านบาท จากยอด 1.59 หมื่นล้านบาท ขณะที่เงินฝากสิ้นปี 2559 อยู่ที่ 1.29 หมื่นล้านบาท เติบโต 51.2% จากปี 2558 อยู่ที่ 8,500 ล้านบาท

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,247 วันที่ 26 - 29 มีนาคม พ.ศ. 2560