บีโอไอไฟเขียวการลงทุน4กิจการด้านพลังงานมูลค่ากว่า1.6แสนล้าน

24 มี.ค. 2560 | 09:18 น.
บอร์ดบีโอไออนุมัติส่งเสริมการลงทุน 4 กิจการ รวมเงินทุนกว่า 1.6 แสนล้าน กลุ่ม ปตท.ลงทุนทั้งกิจการวางท่อ-ขนถ่ายแอลเอ็นจี ด้านกัลฟ์ ลุย กิจการผลิตไฟฟ้า 2 กิจการ เงินลงทุนรวมกว่าแสนล้านบาท พร้อมส่งเสริมกิจการบริการทางการแพทย์

นางหิรัญญา สุจินัย เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บอร์ดบีโอไอ) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน มีมติเห็นชอบให้การส่งเสริมการลงทุนในกิจการด้านพลังงานรวม 4 โครงการ เงินลงทุนทั้งสิ้น161,300 ล้านบาท ประกอบด้วย
1..บริษัท กัลฟ์ เอสอาร์ซี ได้รับส่งเสริมการลงทุนในกิจการผลิตไฟฟ้าจากก๊าชธรรมชาติ กำลังการผลิต 2,500 เมกะวัตต์ เงินลงทุนทั้งสิ้น 59,000 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่นิคมอุตสาหกรรมเหมราช อีสเทิร์นซีบอร์ด จังหวัดชลบุรี
2.บริษัท กัลฟ์ พีดี จำกัด ได้รับส่งเสริมการลงทุนในกิจการผลิตไฟฟ้าจากก๊าชธรรมชาติ กำลังการผลิต 2,500 เมกะวัตต์ เงินลงทุนทั้งสิ้น 58,800 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่ สวนอุตสาหกรรมโรจนะ จังหวัดระยอง
3. บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) ได้รับส่งเสริมการลงทุนขยายกิจการขนส่งก๊าชธรรมชาติทางท่อ ระยะทางรวม 59 กิโลเมตร ผ่านจังหวัด สระบุรี ชลบุรี และระยอง ปริมาณการขนส่งก๊าชธรรมชาติรวม 109,500 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อปี โดยเป็นการลงทุนเพื่อขยายอายุการใช้งานระบบขนส่งทางท่อเดิม (ท่อก๊าชธรรมชาติบนบกเส้นที่ 1) เพื่อให้สามารถขนส่งก๊าชให้ลูกค้าโรงไฟฟ้า อุตสาหกรรม และภาคขนส่ง ได้ต่อเนื่องและได้มาตรฐาน เงินลงทุนทั้งสิ้น 5,000 ล้านบาท
4.บริษัท พีทีที แอลเอ็นจี จำกัด ได้รับส่งเสริมการลงทุนขยายกิจการขนถ่ายสินค้าสำหรับเรือบรรทุกสินค้า โดยโครงการจะให้บริการขนถ่ายก๊าชธรรมชาติเหลว(LNG) ปีละประมาณ 9,000,000 ตัน เงินลงทุนทั้งสิ้น 38,500 ล้านบาท ตั้งโครงการที่ จังหวัดระยอง

ที่ประชุมยังเห็นชอบให้เปิดส่งเสริมกิจการบริการทางการแพทย์ เพื่อกระตุ้นให้เกิดการลงทุน ผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางทางการบริการทางการแพทย์ครบวงจร โดยจะเปิดประเภทให้ส่งเสริม 4 กิจการ ได้แก่ 1. กิจการบริการสาธารณสุขด้านแพทย์แผนไทย เพื่อเป็นทางเลือกสำหรับการบริการในอนาคต โดยจะได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 5 ปี 2. กิจการศูนย์การแพทย์เฉพาะทาง ด้านหัวใจ (โรคหลอดเลือดหัวใจ ผ่าตัดหัวใจ และหัวใจล้มเหลว) ด้านมะเร็ง (เคมีบำบัด และรังสีวิทยา) และด้านไต (ศูนย์ไตเทียม) ซึ่งเป็นโรคที่เป็นสาเหตุของการเสียชีวิตในลำดับต้นๆของคนไทย ซึ่งจะได้รับสิทธิยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลเป็นเวลา 8 ปี
3. กิจการสถานพยาบาล ให้การส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่เฉพาะเพื่อเป็นการกระจายการให้บริการไปอย่างทั่วถึงสำหรับประชาชนในพื้นที่ห่างไกล โดยให้การส่งเสริมกิจการสถานพยาบาลเฉพาะใน 20 จังหวัดที่มีรายได้ต่อหัวต่ำ หรือใน 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษบริเวณชายแดน ซึ่งจะได้รับสิทธิยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลเป็นเวลา 8 ปี
4. กิจการบริการขนส่งผู้ป่วย แพทย์ หรืออุปกรณ์การแพทย์ ทั้งทางอากาศ ทางบก ทางเรือ เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงสถานพยาบาลได้รวดเร็ว โดยจะให้ได้รับสิทธิยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 5 ปี