ทิศทางการเติบโตของธุรกิจครอบครัวในสหรัฐอเมริกา

26 มี.ค. 2560 | 01:00 น.
ในสหรัฐอเมริกาธุรกิจครอบครัวยังคงเป็นส่วนสำคัญของเศรษฐกิจในประเทศ และดูเหมือนว่าทุกบริษัทที่มีการเปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์ทางธุรกิจอย่างต่อเนื่องจำเป็นต้องมีความระมัดระวังในการดำเนินการ โดยมีการนำเอานวัตกรรมใหม่ๆเข้ามาใช้แทนที่จะทำแต่สิ่งเดิมที่เคยทำมาแล้ว และสำหรับในระยะสั้นก็จำเป็นต้องมีแผนกลยุทธ์ที่ถูกต้องเป็นเครื่องนำทาง โดยเมื่อ PwC ได้ทำการสัมภาษณ์ผู้มีอำนาจตัดสินใจในธุรกิจครอบครัว จำนวน 160 รายในสหรัฐอเมริกาโดยการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์และออนไลน์ ในช่วงเดือนพฤษภาคมถึงเดือนสิงหาคม 2016 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการสำรวจธุรกิจครอบครัวทั่วโลก 2,800 ราย จาก 50 ประเทศ พบว่า ธุรกิจครอบครัวเกือบทั้งหมดที่ได้พูดคุยกันในการสำรวจครั้งนี้บอกว่าพวกเขาคาดหวังการเติบโตของยอดขายมากขึ้นในอีก 5 ปีข้างหน้า แต่พวกเขาจะทำสำเร็จได้อย่างไรนั้น พบว่าธุรกิจครอบครัวส่วนใหญ่ (87%) วางแผนที่จะสิ่งที่พวกเขาทำได้ดีอยู่แล้วในปัจจุบันต่อไป ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีหากพวกเขาวางแผนที่จะขยายธุรกิจไปด้วย แต่ไม่เป็นเช่นนั้น ทั้งนี้มีเพียง 11% ที่บอกว่าการขยายธุรกิจเป็นเป้าหมายสำคัญในระยะกลาง และแม้ว่า 29% จะคิดว่าพวกเขาน่าจะขายสินค้าและบริการในประเทศใหม่ได้ภายในอีก 5 ปีข้างหน้า แต่มีผู้บริหารเพียง 4% เท่านั้นที่บอกว่าเรื่องนี้มีความสำคัญมาก นอกจากนี้ยังมีอีก 42% ที่คิดว่าพวกเขาจะร่วมทุนกับผู้ประกอบการรายใหม่ในอีก 5 ปีข้างหน้า ซึ่งจะทำให้พวกเขามีดุลยภาพที่ดีต่อการเติบโตอย่างยั่งยืนมากกว่าบริษัทที่วางแผนเพียงแค่จะยึดติดแต่ในสิ่งที่พวกเขารู้ดีที่สุด

[caption id="attachment_136662" align="aligncenter" width="503"] ทิศทางการเติบโตของธุรกิจครอบครัวในสหรัฐอเมริกา ทิศทางการเติบโตของธุรกิจครอบครัวในสหรัฐอเมริกา[/caption]

ธุรกิจครอบครัวที่คาดว่าจะมีการเติบโตเป็นตัวเลขสองหลักในห้าปีต่อจากนี้มีความกระหายอย่างมากในการขยายธุรกิจ โดยธุรกิจครอบครัว 41% บอกว่าพวกเขาจะเติบโตโดยการขยายธุรกิจเข้าไปในกลุ่มอุตสาหกรรมใหม่ๆ ขณะที่ 1 ใน 4 ของธุรกิจครอบครัว (26%) วางแผนที่จะขยายกิจการไปในประเทศใหม่ๆ และ43% กำลังเล็งที่จะทำการเข้าซื้อกิจการ(ภาพที่ 1) อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่าธุรกิจครอบครัวส่วนใหญ่ที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็วเหล่านี้กำลังวางเดิมพันกับธุรกิจหลักและตลาดในปัจจุบันมากที่สุด ซึ่งอาจทำให้พวกเขาต้องเสี่ยงต่ออุปสรรคจากการแข่งขันกันนั่นเอง

สำหรับอีก 1 ใน 3 ของธุรกิจครอบครัวที่ยังไม่ได้ขยายธุรกิจไปไหน และมีเพียงแผนการขยายธุรกิจในอนาคต คำถามที่ถามตัวเองอาจไม่ใช่ว่าพวกเขาต้องการเติบโตอย่างอย่างต่อเนื่องและอย่างสะดวกสบายหรือไม่ แต่อาจเป็นคำถามว่าพวกเขาต้องการที่จะอยู่อีก 5 ปี หรือ 10 ปี ต่อจากนี้หรือไม่ ซึ่งในโลกปัจจุบันที่การหยุดชะงักของอุตสาหกรรมเป็นเรื่องปกติ คำถามนี้ถือเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง เพราะมีผลต่อการอยู่รอดในอนาคตของธุรกิจ ดังนั้นผู้มีอำนาจตัดสินใจในธุรกิจจึงจำเป็นต้องมีการวางแผนและทำการตัดสินใจอย่างรอบคอบเพื่อให้ธุรกิจสามารถฝ่าฟันสภาวะการแข่งขันทางการตลาดที่ดุเดือดและสามารถอยู่ได้อย่างยั่งยืนต่อไป

ที่มา: PwC. 2016. The Missing Middle: Bridging The Strategy gap in US Family Firms . US Family Business Survey. www.pwc.com/pcs.

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,247 วันที่ 26 - 29 มีนาคม พ.ศ. 2560