เอ็มบาสซีผุด‘โอเพ่นเฮ้าส์’ ทุ่ม300ล้านเนรมิตพื้นที่ครีเอทีฟตอบโจทย์คนเมือง
“เซ็นทรัล เอ็มบาสซี” ยํ้าผู้นำศูนย์การค้าไลฟ์สไตล์คนเมือง ทุ่มงบ 300 ล้าน พลิกโฉมพื้นที่กว่า 7,000 ตร.ม. เปิดตัว “OPEN HOUSE” พื้นที่ครีเอทีฟคอนเซ็ปต์ใหม่ กับ 8 โซนสุดสร้างสรรค์
ถือเป็นศูนย์การค้าหรูที่มีเอกลักษณ์ และเจาะเข้าถึงไลฟ์สไตล์คนเมืองอย่างแท้จริง สำหรับ "เซ็นทรัลเอ็มบาสซี" ที่วันนี้ยังคงเดินหน้าพลิกโฉมเพื่อให้ตอบโจทย์การใช้ชีวิตที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา และล่าสุดกับการทุ่มงบกว่า 300 ล้านบาท เนรมิตพื้นที่ชั้น 6 กว่า 7,000 ตารางเมตรให้เป็นพื้นที่ครีเอทีฟคอนเซ็ปต์ ภายใต้ชื่อ "โอเพ่นเฮ้าส์" (Open House) ด้วยฝีมือของ Klein Dytham architecture (KDa) บริษัทออกแบบแนวหน้าจากญี่ปุ่นผู้ออกแบบโครงการ Daikanyama T-Site และ Ginza Place
[caption id="attachment_136667" align="aligncenter" width="503"]
บรม พิจารณ์จิตร กรรมการผู้จัดการ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเอ็มบาสซี[/caption]
นายบรม พิจารณ์จิตร กรรมการผู้จัดการ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเอ็มบาสซี เล่าให้ฟังถึงการพลิกโฉมครั้งนี้ว่า เพราะความต้องการของคนเมืองและชาวต่างชาติมีความหลากหลาย และสรรหาประสบการณ์ใหม่ เพื่อให้เข้ากับชีวิตที่มีความร่วมสมัย วันนี้สิ่งที่ศูนย์การค้าจะสามารถเข้าถึงได้จึงต้องนำเสนอสิ่งที่เป็นบ้านหลังที่ 2 และ "โอเพ่นเฮ้าส์" คือคำตอบ
บนพื้นที่ทั้งหมดจะถูกแบ่งออกเป็น 8 โซน ได้แก่ "Eating Deck" โซนกึ่งบริการตนเอง (semi-service) ที่รวบรวมความอร่อยจากร้านอาหารและเครื่องดื่มหลากสไตล์ "Eat by the Park" สวรรค์ของนักชิม ที่จะมาบริการเต็มรูปแบบ (Full Service) กับเมนูอาหารจากทั่วโลก "Open House Bookshop by Hardcover" ร้านหนังสือที่มาพร้อมคอนเซ็ปต์ "Celebration of Print Culture" แลนด์มาร์กแห่งใหม่ของเหล่าคนรักหนังสือ นักสะสม "Co-Thinking Space" ที่นี่มีทั้งห้องประชุมที่สามารถนั่งทำงานร่วมกันได้ ยังมี Open Bar ที่มีอาหาร ขนม เครื่องดื่มค็อกเทลและแอลกอฮอล์ไว้จุดประกายไอเดีย
"Art Tower" กล่องเครื่องมืองานศิลปะขนาดใหญ่ สื่อกลางระหว่างนักสะสม ศิลปิน และผู้สนใจงานศิลปะ "Design Shop" ร้านจำหน่ายสินค้าที่คัดสรรสินค้า Design & Craft ภายใต้คอนเซ็ปต์Thai Region Design Product "Open Playground" สนามเด็กเล่น (สำหรับเด็กสูง 50 - 120 ซม.) กับเครื่องเล่นแทรมโพลีน (Trampoline), ทะเลบอลที่ช่วยพัฒนากล้ามเนื้อ, บล็อกหลากสี ฯลฯ สุดท้ายเป็นโซน Embassy Diplomat Screens by AIS โรงภาพยนตร์ระดับวีไอพี ที่มีโปรแกรม "ภัณฑารักษ์ภาพยนตร์" (Movie Curator) ทำหน้าที่ให้บริการการฉายภาพยนตร์ตามความต้องการเฉพาะบุคคลอีกด้วย
"ความโดดเด่นของโอเพ่นเฮ้าส์คือ การออกแบบได้อย่างลงตัว ทั้งภายในและการใช้กระจกรอบด้านทำให้สามารถชมวิว 360 องศาของใจกลางกรุงเทพฯ ซึ่งพื้นที่แบบมัลติฟังก์ชันที่เปิดกว้างดูคล้ายคลึงกับหมู่บ้านเล็กๆ แห่งนี้ ทำให้ผู้มาใช้สอยรู้สึกโปร่งสบายผ่อนคลาย พร้อมที่จะเสาะหาแรงบันดาลใจและสนุกไปกับโซนต่างๆได้"
นายบรม ยังบอกอีกว่า ศูนย์เตรียมใช้งบประมาณกว่า 30 ล้านบาทในการทำตลาดและโฆษณาเพื่อสร้างการรับรู้และเชิญชวนให้ลูกค้าเข้ามารับบริการ ซึ่งที่นี่สามารถรองรับลูกค้าได้กว่า 500 ที่นั่งและคาดการณ์ว่าจะมีลูกค้าหมุนเวียนมาใช้บริการเฉลี่ยราว 2,000 คนต่อวัน โดยโอเพ่นเฮ้าส์จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 25-26 มีนาคมนี้เป็นต้นไป"
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,247 วันที่ 26 - 29 มีนาคม พ.ศ. 2560
ถือเป็นศูนย์การค้าหรูที่มีเอกลักษณ์ และเจาะเข้าถึงไลฟ์สไตล์คนเมืองอย่างแท้จริง สำหรับ "เซ็นทรัลเอ็มบาสซี" ที่วันนี้ยังคงเดินหน้าพลิกโฉมเพื่อให้ตอบโจทย์การใช้ชีวิตที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา และล่าสุดกับการทุ่มงบกว่า 300 ล้านบาท เนรมิตพื้นที่ชั้น 6 กว่า 7,000 ตารางเมตรให้เป็นพื้นที่ครีเอทีฟคอนเซ็ปต์ ภายใต้ชื่อ "โอเพ่นเฮ้าส์" (Open House) ด้วยฝีมือของ Klein Dytham architecture (KDa) บริษัทออกแบบแนวหน้าจากญี่ปุ่นผู้ออกแบบโครงการ Daikanyama T-Site และ Ginza Place
[caption id="attachment_136667" align="aligncenter" width="503"]
นายบรม พิจารณ์จิตร กรรมการผู้จัดการ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเอ็มบาสซี เล่าให้ฟังถึงการพลิกโฉมครั้งนี้ว่า เพราะความต้องการของคนเมืองและชาวต่างชาติมีความหลากหลาย และสรรหาประสบการณ์ใหม่ เพื่อให้เข้ากับชีวิตที่มีความร่วมสมัย วันนี้สิ่งที่ศูนย์การค้าจะสามารถเข้าถึงได้จึงต้องนำเสนอสิ่งที่เป็นบ้านหลังที่ 2 และ "โอเพ่นเฮ้าส์" คือคำตอบ
บนพื้นที่ทั้งหมดจะถูกแบ่งออกเป็น 8 โซน ได้แก่ "Eating Deck" โซนกึ่งบริการตนเอง (semi-service) ที่รวบรวมความอร่อยจากร้านอาหารและเครื่องดื่มหลากสไตล์ "Eat by the Park" สวรรค์ของนักชิม ที่จะมาบริการเต็มรูปแบบ (Full Service) กับเมนูอาหารจากทั่วโลก "Open House Bookshop by Hardcover" ร้านหนังสือที่มาพร้อมคอนเซ็ปต์ "Celebration of Print Culture" แลนด์มาร์กแห่งใหม่ของเหล่าคนรักหนังสือ นักสะสม "Co-Thinking Space" ที่นี่มีทั้งห้องประชุมที่สามารถนั่งทำงานร่วมกันได้ ยังมี Open Bar ที่มีอาหาร ขนม เครื่องดื่มค็อกเทลและแอลกอฮอล์ไว้จุดประกายไอเดีย
"Art Tower" กล่องเครื่องมืองานศิลปะขนาดใหญ่ สื่อกลางระหว่างนักสะสม ศิลปิน และผู้สนใจงานศิลปะ "Design Shop" ร้านจำหน่ายสินค้าที่คัดสรรสินค้า Design & Craft ภายใต้คอนเซ็ปต์Thai Region Design Product "Open Playground" สนามเด็กเล่น (สำหรับเด็กสูง 50 - 120 ซม.) กับเครื่องเล่นแทรมโพลีน (Trampoline), ทะเลบอลที่ช่วยพัฒนากล้ามเนื้อ, บล็อกหลากสี ฯลฯ สุดท้ายเป็นโซน Embassy Diplomat Screens by AIS โรงภาพยนตร์ระดับวีไอพี ที่มีโปรแกรม "ภัณฑารักษ์ภาพยนตร์" (Movie Curator) ทำหน้าที่ให้บริการการฉายภาพยนตร์ตามความต้องการเฉพาะบุคคลอีกด้วย
"ความโดดเด่นของโอเพ่นเฮ้าส์คือ การออกแบบได้อย่างลงตัว ทั้งภายในและการใช้กระจกรอบด้านทำให้สามารถชมวิว 360 องศาของใจกลางกรุงเทพฯ ซึ่งพื้นที่แบบมัลติฟังก์ชันที่เปิดกว้างดูคล้ายคลึงกับหมู่บ้านเล็กๆ แห่งนี้ ทำให้ผู้มาใช้สอยรู้สึกโปร่งสบายผ่อนคลาย พร้อมที่จะเสาะหาแรงบันดาลใจและสนุกไปกับโซนต่างๆได้"
นายบรม ยังบอกอีกว่า ศูนย์เตรียมใช้งบประมาณกว่า 30 ล้านบาทในการทำตลาดและโฆษณาเพื่อสร้างการรับรู้และเชิญชวนให้ลูกค้าเข้ามารับบริการ ซึ่งที่นี่สามารถรองรับลูกค้าได้กว่า 500 ที่นั่งและคาดการณ์ว่าจะมีลูกค้าหมุนเวียนมาใช้บริการเฉลี่ยราว 2,000 คนต่อวัน โดยโอเพ่นเฮ้าส์จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 25-26 มีนาคมนี้เป็นต้นไป"
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,247 วันที่ 26 - 29 มีนาคม พ.ศ. 2560