ตอกเสาเข็มลุ้นงานภาครัฐชดเชย

28 มี.ค. 2560 | 07:00 น.
"โตว่องไว" เผยงานตอกเสาเข็มรากหญ้าหด รับอานิสงส์งานภาครัฐ 2 โครงการรับรู้รายได้อีก 2 ปี "ไพลอน" ประเมินภาพอุตสาหกรรมก่อสร้างและงานฐานรากเติบโตต่อเนื่อง ทั้งภาครัฐและเอกชนจ่อลงทุนอีกเพียบ

นายไพศาล ว่องไวกลยุทธ์ ประธานบริษัท โตว่องไว จำกัด ผู้ผลิตรถตอกเสาเข็ม เปิดเผย "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า ปัจจุบันงานตอกเสาเข็มมีปริมาณมาก แต่งานผลิตรถตอกเสาเข็มแทบไม่มีคำสั่งซื้อ เนื่องจากได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจ ประกอบกับงานระดับรากหญ้าขณะนี้หดหายอย่างมากคิดเป็นประมาณ 80%-90% จะเห็นได้จากการปกติช่วงนี้งานรับตอกเสาเข็มเพื่อวางปฐมฤกษ์โครงการต่างๆกลับพบว่าแทบไม่มีเลย แต่สำหรับงานโครงการภาครัฐโตว่องไวได้รับอานิสงส์ โดยรับจากบริษัทรับเหมารายใหญ่ที่รับงานนั้นมา ทำให้รายได้จากงานภาครัฐสามารถทดแทบรายย่อยได้เกือบ 80%-90% ด้วยเช่นกัน

ปัจจุบันโตว่องไวรับตอกเสาเข็ม 2 โครงการคือ งานถนนที่ลาดกระบังและงานรถไฟทางคู่ที่องครักษ์ รวม 6.5 หมื่นต้น โดยทั้ง 2 โครงการนี้สามารถระดมรถจากลูกค้าที่ซื้อไปจากโตว่องไวเพื่อช่วยระดมรับงานดังกล่าว แม้ว่าบางส่วนจะได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจไปบ้างก็ตาม

จากงานภาครัฐ 2 โครงการที่กล่าวมาทำให้บริษัทสามารถรับรู้รายได้ไปอีก 2 ปี แต่ยังมีกำลังการผลิตพอจะหางานอื่นเข้ามาเสริมได้อีก โดยเฉพาะงานตอกเสาเข็มจากกลุ่มประเทศเพื่อนบ้านในสปป.ลาว กัมพูชา เมียนมาและเวียดนามที่ยังมีแนวโน้มความต้องการอีกมาก

ด้านนายชเนศวร์ แสงอารยะกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไพลอน จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าภาพรวมอุตสาหกรรมก่อสร้างและงานฐานรากยังเติบโตต่อเนื่อง ทั้งงานภาครัฐและเอกชนสนใจลงทุนจำนวนมาก บริษัทยังจ่อคิวประมูลงานต่อเนื่อง คาดว่าตั้งแต่ช่วงครึ่งปีหลังนี้เป็นต้นไป ไพลอนน่าจะได้อานิสงส์จากโครงการก่อสร้างของทั้งภาครัฐและเอกชนที่จะเข้ามาพร้อมกันจำนวนมากจากผู้ประกอบการอสังหาฯหลายรายวางแผนที่จะเริ่มเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมใหม่ๆในเชิงรุกมากขึ้นตั้งแต่ Q3/60 เป็นต้นไป

โดยงานก่อสร้างน่าจะเริ่มได้ในครึ่งปีหลัง 2560 รวมทั้งโครงการรถไฟฟ้า 3 สาย ได้แก่สายสีส้ม เหลือง และชมพู คาดว่าน่าจะเซ็นสัญญาได้ภายในครึ่งแรกของปีนี้ และเริ่มงานก่อสร้างได้ตั้งแต่ครึ่งหลังของปีนี้ ทั้งนี้ปัจจุบันสายสีส้มได้มีการเซ็นสัญญาไปแล้วเรียบร้อย และมีแผนที่จะเริ่มลงเสาเข็มในเดือนมิถุนายนนี้ ปัจจุบันบริษัทมีงานในมือที่รอรับรู้รายได้ราว 500 ล้านบาท

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,247 วันที่ 26 - 29 มีนาคม พ.ศ. 2560