เอาจริง! ครม.เท 300 ล้าน ซื้อลิขสิทธิ์ “โมโตจีพี” 3 ปี

21 มี.ค. 2560 | 09:13 น.
วันที่ 21 มี.ค.60- นางกอบกาญจน์ วัฒวรางกูร  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณธรัฐมนตรี(ครม.)ว่า ที่ประชุมครม.มีมติอนุมัติงบประมาณในการขอเป็นเจ้าภาพการจัดการแข่งขันจักรยานยนต์ชิงแชมป์โลก (โมโตจีพี ) โดยรัฐบาลจะจ่ายค่าลิขสิทธิ์ในการขอเป็นเจ้าภาพปีละ 100 ล้านบาท ระยะเวลา 3 ปี (300 ล้านบาท) ระหว่างปี 2561-2563 ในส่วนค่าใช้จ่ายในการจัดการแข่งขันทั้งหมดรัฐบาลจะหารือกับภาคเอกชน เพื่อระดมทุนในการดำเนินการทั้งหมด

กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา รายงานว่า  1. ปัจจุบันการแข่งขันรถจักรยานยนต์ชิงแชมป์โลก รายการ โมโต จีพี (World Series) ได้รับความนิยมอย่างมาก มีการแข่งขันเพื่อชิงแชมป์โลก 18 สนามต่อปี โดยในปี  2560 ดอร์น่า สปอร์ต กรุ๊ป เจ้าของลิขสิทธิ์การจัดการแข่งขันฯ ได้ประกาศรายชื่อสนามที่จะดำเนินการจัดการแข่งขันฯ และในปี 2561 มีแผนเพิ่มเติมจำนวนสนามที่จะจัดการแข่งขันไม่เกิน 21 สนามต่อปี ซึ่งในขณะนี้ประเทศฟินแลนด์ได้ลงนามในสัญญาเพื่อจัดการแข่งขันเป็นที่เรียบร้อยแล้วจึงเหลือเพียง 2 สนาม ที่กำลังดำเนินการสรรหาประเทศเจ้าภาพที่มีความเหมาะสมและความพร้อมในองค์ประกอบอื่น ๆ และได้มีประเทศต่าง ๆ ที่เสนอตัวเพื่อขอรับการเป็นเจ้าภาพในการจัดการแข่งขันฯ จำนวน 4 ประเทศ ประกอบด้วย คาซัคสถาน อินโดนีเซีย ฮังการี และประเทศไทย (อย่างไม่เป็นทางการ) ซึ่งการเสนอตัวจะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในเดือนเมษายน 2560

2. การจัดการแข่งขันฯ จะเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศไทยสู่สายตาประชาคมโลกจากการถ่ายทอดสดมากกว่า 200 ประเทศ ผ่านสายตาผู้ชมกว่า 600 ล้านคน จะเป็นการแสดงให้เห็นถึงศักยภาพความพร้อมของประเทศไทยในหลาย ๆ ด้าน เช่น ด้านกีฬา ด้านการท่องเที่ยว ด้านเศรษฐกิจ และด้านสังคม ซึ่งจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นต่อประเทศไทยให้กับนักท่องเที่ยว และนักลงทุนต่างชาติ รวมถึงช่วยสร้างรายได้ให้กับประเทศอีกทางหนึ่ง เกิดการกระจายรายได้ลงสู่พื้นที่โดยเฉพาะในจังหวัดบุรีรัมย์ และจังหวัดใกล้เคียง เกิดอุตสาหกรรมต่อเนื่อง จากการที่ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตอุตสาหกรรมรถจักรยานยนต์ อันดับที่ 1 ของอาเซียน

ทั้งนี้ การได้รับสิทธิ์การเป็นเจ้าภาพการจัดการแข่งขันฯ จะเพิ่มโอกาส เพิ่มรายได้ให้กับอุตสาหกรรมเหล่านี้อย่างมหาศาล และจะตอกย้ำความเป็นผู้นำของประเทศไทย รวมถึงจะส่งผลให้เกิดการตื่นตัวของวงการกีฬามอเตอร์สปอร์ตมากขึ้น เนื่องจากการแข่งขันครั้งนี้จะมีการนำเทคโนโลยี องค์ความรู้เกี่ยวกับวงการอุตสาหกรรมรถจักรยานยนต์เข้ามา และยังเป็นการยกระดับการจัดการแข่งขันในประเทศให้ได้มาตรฐานระดับสากล สร้างความนิยมในกีฬามอเตอร์สปอร์ตให้มีความตื่นตัวแบบก้าวกระโดด สร้างความเชื่อมั่น ความภาคภูมิใจให้กับคนไทยในการเป็นเจ้าภาพการจัดการแข่งขันกีฬามอเตอร์สปอร์ต (รถจักรยานยนต์) ระดับโลก

อนึ่ง สนามแข่งขันที่มีความพร้อมในการแข่งขันในประเทศไทยนั้น  มีเพียงสนามบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์

ก่อนหน้านี้นายเนวิน ชิดชอบ ประธานที่ปรึกษาสนามช้าง อินเตอร์เนชันแนล เซอร์กิต กล่าวถึงความคืบหน้าในการยื่นเรื่องขอจัดโมโตจีพี ไว้ว่า ในวันที่ 21 มี.ค.น่าจะมีการบรรจุเรื่องโมโตจีพี อยู่ในวาระประชุมครม. เชื่อว่าถ้าได้จัดแล้ว จะสามารถทำรายได้ให้มหาศาลกับประเทศไทยได้อย่างแน่นอน

นายเนวิน กล่าวว่า เรื่องที่มีคนคัดค้านไม่ให้จัดการแข่งขันมอเตอร์สปอร์ตรายการระดับโลกนี้นั้น

“สำหรับคนที่ค้านว่าการแข่งขันมอเตอร์ไซค์จะเป็นตัวอย่างที่ไม่ดี คนพูดต้องไปดูวิธีที่จะทำให้เด็กเคารพกติกา นั่นคือการนำเด็กเข้าสู่สนามแข่งขัน ไม่ใช่ไปปิดกั้นตามกฎกติกา การเรียนรู้และให้โอกาสเด็กได้แสดงออกจะนำไปสู่การพัฒนา ในระดับมืออาชีพ จะเห็นได้ว่า เรานำเด็กให้เป็นจ้าวเอเชียได้ภายใน 3 ปี พัฒนาจนเด็กไทยไปอยู่สโมสรระดับโลก ฉะนั้นมันเป็นกีฬาประเภทหนึ่งมันเป็นอุตสาหกรรมต่อเนื่อง ซึ่งมีผลต่อสภาพธุรกิจและการจ้างงานในประเทศไทยสูงมากอีกด้วย”นายเนวินกล่าว