อันตวน บาร์เตส ผู้กอบกู้ ‘นิสสัน’

24 มี.ค. 2560 | 14:00 น.
ถือเป็นสัญญาณในทางลับ หากนิสสัน ประเทศไทย เลือกใช้ประธานใหญ่เป็นชาวฝรั่งเศส แทนที่นายญี่ปุ่น ด้วยต้องการความเปลี่ยนแปลงในธุรกิจแบบเฉียบพลันฟันธง หรืออาจหมายถึงการผ่าตัดใหญ่

สำหรับ “อันตวน บาร์เตส” เข้ามารับตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัดแทน “คะซูทากะ นัมบุ” เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ในยุคที่ภายในองค์กรนิสสันมีการเปลี่ยนแปลง และยอดขายซบซึมตามสภาพตลาด นายใหญ่ชาวฝรั่งเศสมีมีดผ่าตัดในมือจริงหรือไม่ หรือมีแผนห้ามเลือดและฟื้นฟูสถานการณ์นิสสันในไทยอย่างไร "ฐานฯยานยนต์"ร่วมสัมภาษณ์

 การดำเนินงานของนิสสัน
ปีที่แล้วช่วงเดือนกรกฎาคม-พฤศจิกายน ผลการดำเนินธุรกิจของนิสสันตกลงไปมาก ปัจจุบันอยู่ระหว่างกอบกู้นิสสันให้กลับมาอยู่ในเส้นทางที่ควรจะเป็น ถึงวันนี้เริ่มมีสัญญาณดีขึ้นเรื่อยๆ อย่างเดือนมกราคมที่ผ่านมา นิสสันมีส่วนแบ่งตลาด 6.2% และเพิ่มเป็น 6.5% ในเดือนกุมภาพันธ์

“ตอนนี้เราเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นของนิสสันในประเทศไทย แต่ยังไม่สามารถชดเชยกับช่วงที่ขาดหายไปได้ คงต้องทำงานหนักกันต่อไป ขณะที่การเข้ามาของโน๊ต ใหม่ จะสร้างความแข็งแกร่งให้นิสสัน และช่วยให้กลับมามีส่วนแบ่งในตลาดรวมปีนี้ถึง 7% แน่นอน”

  ประเมินยอดขายปีนี้
ผมเพิ่งเข้ามาทำงานที่นิสสัน มอเตอร์ ประเทศไทยได้เพียง 2 เดือนกว่าๆ (เข้ามาทำงานจริงๆ ปลายเดือนธันวาคม 2559) อาจจะกู้สถานการณ์ไม่ทัน ดังนั้นยอดขายของเราคงโตแต่ไม่มากเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว แม้ว่าตอนนี้จะเห็นการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น แต่ยังไปไม่ถึงในระดับที่อยากให้เป็น

ขณะเดียวกันการขยายโรงงานและเพิ่มกำลังผลิตในช่วงหลัง ที่ไม่สอดคล้องกับยอดขายนั้น ปกติมีวิธีแก้อยู่สามทาง คือ 1. เพิ่มยอดขายในประเทศ 2.ขยายการส่งออก 3.ลดกำลังการผลิต ซึ่งนิสสันกำลังทำอยู่ใน 2 ข้อแรก พยายามรักษาสมดุลให้ดีที่สุด ปัจจุบันกำลังผลิต 2 ใน 3 ของนิสสันเป็นการผลิตเพื่อส่งออก

  มองอุตฯยานยนตไทย
ไทยเป็นตลาดที่ท้าทาย และมีการแข่งขันสูง ขณะเดียวกันพฤติกรรมผู้บริโภคสามารถเปลี่ยนได้อย่างรวดเร็วตามเทรนด์ของรถยนต์รุ่นใหม่ซึ่งเป็นตัวขับเคลื่อนตลาด เรียกว่าใครมีโปรดักต์ใหม่ก็ขายได้ เช่นเดียวกับนิสสัน โน็ต เชื่อว่าเปิดมาตอนแรกก็ฮิต แต่ประเด็นสำคัญคือทำอย่างไรให้สามารถรักษายอดขายได้นานๆเหมือนมาร์ช

  ผลตอบรับนิสสัน โน๊ต
ต้องรออีก 10 วันถึงจะให้ตัวเลขที่แน่นอนได้ เพราะรถเพิ่งลงโชว์รูม 17 มีนาคมที่ผ่านมา แต่เชื่อว่ายอดขายเป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ โดยโน๊ตจะเปลี่ยนการรับรู้ในมิติใหม่ๆของนิสสัน ทั้งเทคโนโลยีอัจฉริยะต่างๆ (Around View Monitor กล้องอัจฉริยะมองภาพรอบทิศทาง Forward Collision Warning ระบบช่วยเตือนก่อนการชนด้านหน้า เสริมด้วย Emergency Braking) สมรรถนะ อรรถประโยชน์เช่นเดียวกับ บี-เซกเมนต์ แต่ได้สิทธิ์ประโยชน์ของอีโคคาร์ ทำให้ราคาเข้าถึงได้ง่าย

  ถือเป็นความผิดพลาดหรือไม่ที่จัดงานแนะนำรถโดยไม่มีรถเข้าโชว์รูม
ตอนแรกของการใช้แผนนี้ผมไม่แน่ใจว่าผลจะออกมาอย่างไร แต่เมื่อถูกผลักดันให้ พรี-ลอนซ์ ก็ต้องทำให้ดีที่สุด ซึ่งตอนนี้รู้แล้วว่า ลูกค้าชาวไทยต้องได้เห็นรถตัวจริง ได้ลองขับก่อนตัดสินใจซื้อ แต่ข้อดีของแผนงานนี้ทำให้ได้เรียนรู้ วิธีการที่จะใช้กับดีลเลอร์ แผนงานออนไลน์ และผลพลอยได้จากการปรับกำลังผลิตให้ทันและตรงกับความต้องการของลูกค้า

กล่าวคือช่วงแรกคิดว่ารุ่นท็อป VL กับ V จะขายเป็นสัดส่วน 60/40 แต่เอาเข้าจริงรุ่น VL กลับมียอดจองถึง 85% นั่นทำให้เราเข้าใจออเดอร์และปรับกำลังการผลิตได้ทัน ส่งผลดีคือเมื่อรถลงโชว์รูมไปแล้ว ปล่อยได้หมดแน่นอน

  นโยบายสู่ความสำเร็จ
1.ต้องทำโปรดักต์ให้แข็งแกร่ง ซึ่งปีนี้โน๊ตจะเป็นอาวุธหลักของเรา 2.เน้นพัฒนาบริการ-บริการหลังการขายให้ผู้บริโภคพอใจ 3.สนับสนุนดีลเลอร์ให้มีผลกำไร บนแผนงานที่จะต้องทำร่วมกันอย่างเข้มข้นมากขึ้น

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,246 วันที่ 23 - 25 มีนาคม พ.ศ. 2560