ออดี้ยุคใหม่ลุยเต็มสูบ จัดซูเปอร์คาร์เฉียด 20 ล้าน-เอสยูวียัดเบนซินเทอร์โบ
ลั่นกลองพร้อมรบ สำหรับค่ายรถยนต์ “ออดี้”ภายใต้ผู้ดูแลตลาดในไทยรายใหม่ “ไมซ์สเตอร์เทคนิค” ที่นำโดย “กฤษฎา ลํ่าซำ” เตรียมจัดงานแถลงเปิดตัวธุรกิจในไทยอย่างเป็นทางการในวันที่ 22 มีนาคมนี้ ณ โชว์รูม-ศูนย์บริการแห่งแรกบนถนนเพชรบุรีตัดใหม่
แม้ก่อนหน้านั้น “ไมซ์สเตอร์ เทคนิค” จะส่ง “กฤษณะกร เศวตนันทน์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ออกมาให้ข่าวถึงความพร้อมและนโยบายการดำเนินธุรกิจ แต่ก็ยังไม่ถึงกับลงในรายละเอียดมากนัก
สำหรับบริษัท ไมซ์สเตอร์ เทคนิค จำกัด ที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายรถยนต์ออดี้อย่างเป็นทางการในประเทศไทย (อิมพอร์ตเตอร์และดิสทริบิวเตอร์) จากออดี้ เอจี ประเทศเยอรมนี ตั้งแต่เดือนตุลาคมปีที่แล้ว ประเดิมสร้างโชว์รูมศูนย์บริการมาตรฐานแห่งแรก บนถนนเพชรบุรีตัดใหม่ ด้วยเงินลงทุนกว่า 40 ล้านบาท จากนั้นจะไปเปิดตัวแบรนด์รถยนต์ออดี้ให้กระหึ่มต่อสาธารณะชน พร้อมรถยนต์รุ่นใหม่ในงานบางกอก มอเตอร์โชว์ 2017
ส่วนรถยนต์รุ่นใหม่ “ไมซ์สเตอร์ เทคนิค” ตั้งใจนำเข้ามาตอบสนองครบทุกไลน์อัพหลัก แต่ช่วงแรกของการเปิดตัวธุรกิจจะเน้นไปที่รถยนต์ 3 รุ่น 3 สไตล์เพื่อสร้างภาพลักษณ์พร้อมแสดงให้เห็นถึง คุณภาพ สมรรถนะ และเทคโนโลยียานยนต์ระดับสุดยอดของออดี้ ทั้ง เอสยูวี “คิว2” (Q2) สปอร์ตคูเป้ “เอ5” (A5) และซูเปอร์คาร์ “อาร์8” (R8)
เริ่มจาก “คิว2” (Q2) ที่เปิดตัวครั้งแรกในงานเจนีวา มอเตอร์โชว์ 2016 ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เดือนมีนาคมปีที่แล้ว ถือเป็นเอสยูวี หรือ ครอสโอเวอร์รุ่นเล็กสุด ที่ออดี้เพิ่งเพิ่มเข้ามาในตระกูล “คิว”
โดยครอสโอเวอร์ระดับเริ่มต้นรุ่นนี้ จะเข้ามาท้าชนกับพวก เมอร์เซเดส-เบนซ์ จีแอลอี, บีเอ็มดับเบิลยู เอ็กซ์1 รวมถึง มินิ คันทรีแมน ขณะที่มิติตัวถังยาว 4,191 มม. กว้าง 1,794 มม. สูง 1,508 ระยะฐานล้อ 2,601 มม. รองรับเบาะนั่ง 2 แถว 5 ที่นั่ง มีพื้นที่เก็บสัมภาระด้านหลัง 405 ลิตร หากพับเบาะแถวสองลงจะเพิ่มเป็น 1,050 ลิตร
ในตลาดโลกมีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์เบนซิน TFSI ไดเร็กต์อินเจ็กชัน เทอร์โบ แบบ 3 สูบ 1.0 ลิตร 116 แรงม้า และ 4 สูบ ขนาด 1.4 ลิตร 150 แรงม้า รวมถึง 2.0 ลิตร 190 แรงม้า ขณะที่รุ่นเทอร์โบ ดีเซล TDI มี 2 ขนาดคือ 1.6 ลิตร 116 แรงม้า ขนาด 2.0 ลิตร 150 แรงม้า และ 190 แรงม้า
ทั้งนี้ การทำตลาดในเมืองไทยมีแนวโน้มมุ่งไปทางเครื่องยนต์เบนซิน TFSI ซึ่งถือเป็นเทคโนโลยีที่ออดี้มีชื่อเสียงมานาน ขณะที่ราคาขายน่าจะอยู่ในช่วง 2.2-2.6 ล้านบาท
เช่นเดียวกับสปอร์ตคูเป้ “เอ5 โฉมใหม่” ที่เพิ่งเปิดตัวในตลาดโลกเมื่อปีที่แล้ว การขายในไทยอาจจะวางเครื่องยนต์เบนซิน TFSI ขนาด 2.0 ลิตร ซึ่งถือเป็นบล็อกพิมพ์นิยมของรถยนต์ในกลุ่มนี้
เอ5 คูเป้ โดดเด่นด้วยรูปทรงสปอร์ตโฉบเฉี่ยว ตั้งแต่ฝากระโปรงหน้า กระจังหน้าโครเมี่ยมทรง 6 เหลี่ยม และเส้นสายด้านข้าง ตัวถังใช้วัสดุอะลูมิเนียมและไทเทเนียมเป็นส่วนผสม ส่งผลให้น้ำหนักลดลงไป 60 กิโลกรัมเมื่อเทียบกับรุ่นเดิม ตลอดจนความหรูหราภายในห้องโดยสาร ที่ใส่ Audi Virtual Cockpit หรือระบบจอ LED แสดงมาตรวัดและข้อมูลสำคัญของรถในรูปแบบดิจิตอล
ปิดท้ายด้วยซูเปอร์คาร์รุ่นดัง “อาร์ 8” ที่แม้รุ่นใหม่จะเปิดตัวในตลาดโลกมาสักระยะแล้ว แต่การบุกเบิกธุรกิจและการสร้างแบรนด์ในไทย ย่อมขาดรถยนต์รุ่นท็อปเพื่อสร้างภาพลักษณ์ไม่ได้เด็ดขาด “อาร์ 8” ไม่ถูกนำมาขายโดยผู้แทนจำหน่ายรายเดิม (เยอรมัน มอเตอร์เวิร์ค) เพราะประเมินราคาไว้สูงถึง 17-18 ล้านบาท จึงมีแต่ทางเลือกจากเกรย์มาร์เก็ตนำเข้ามาขายในราคา 10 ล้านบาทกลางๆ
สำหรับ “อาร์ 8 ใหม่” มากับเครื่องยนต์เบนซิน วี10 ขนาด 5.2 ลิตร วางกลางลำ โดยรุ่นพื้นฐานให้กำลัง 540 แรงม้า ส่วนรุ่นพลัสโดดไป 610 แรงม้า เมื่อส่งกำลังด้วยเกียร์ เอส ทรอนิก 7 สปีด อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ 3.2 วินาที ความเร็วสูงสุด 330 กม./ชม. พร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อควอตโทร ซึ่งสมรรถนะอันยอดเยี่ยม ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากโครงสร้างแบบสเปซเฟรม ตัวถังใช้วัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ผสมอลูมิเนียม ดังนั้น “อาร์8 ใหม่” จึงมีน้ำหนักตัวเพียง 1,454 กิโลกรัม หรือลดลงจากรุ่นเดิม 50 กิโลกรัม
…นั่นเป็นสามโมเดลประเดิมธุรกิจของออดี้ ประเทศไทย ในยุคเปลี่ยนมือบริหารใหม่ โดยเน้นทั้งครอสโอเวอร์รุ่นเล็กหวังขาย ด้วยราคากว่าสองล้านบาท ไปจนถึงรถยนต์เพื่อภาพลักษณ์ค่าตัวเกือบ 20 ล้านบาท ทว่าตามแผนธุรกิจยังเตรียมนำเข้ามาขายอีกหลายรุ่นตามการเปิดตัวโปรดักต์ใหม่ของบริษัทแม่ ไม่ว่าจะเป็นเอสยูวี “คิว3” และ “คิว7” ซีดานพรีเมี่ยม “เอ6” และสปอร์ตคาร์อย่าง “ทีที”
อย่างไรก็ตามในการเปลี่ยนผ่านนี้ ออดี้ เอจี ประเทศเยอรมนี ยังเปิดโอกาสให้ผู้จำหน่ายรายเดิม “เยอรมัน มอเตอร์เวิร์ค” มีสิทธิ์ขายรถยนต์ใหม่ ควบคู่ไปกับ “ไมซ์สเตอร์ เทคนิค” ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง จากนั้นถึงจะผันตัวไปเป็นดีลเลอร์
…นับเป็นอีกทางเลือกในตลาดรถยนต์ระดับหรู ซึ่งการจัดทัพใหม่ของออดี้ครั้งนี้ เมอร์เซเดส-เบนซ์ อาจจะไม่สะท้าน บีเอ็มดับเบิลยูคงไม่ถึงกับสะเทือน แต่ถือเป็นโอกาสของผู้บริโภคชาวไทยที่จะได้ใช้รถสมรรถนะดี เทคโนโลยียานยนต์ขั้นสูงตามที่คนทั่วโลกนิยม บนความมุ่งมั่นตั้งใจของผู้ดูแลตลาดรายใหม่
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,246 วันที่ 23 - 25 มีนาคม พ.ศ. 2560
แม้ก่อนหน้านั้น “ไมซ์สเตอร์ เทคนิค” จะส่ง “กฤษณะกร เศวตนันทน์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ออกมาให้ข่าวถึงความพร้อมและนโยบายการดำเนินธุรกิจ แต่ก็ยังไม่ถึงกับลงในรายละเอียดมากนัก
สำหรับบริษัท ไมซ์สเตอร์ เทคนิค จำกัด ที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายรถยนต์ออดี้อย่างเป็นทางการในประเทศไทย (อิมพอร์ตเตอร์และดิสทริบิวเตอร์) จากออดี้ เอจี ประเทศเยอรมนี ตั้งแต่เดือนตุลาคมปีที่แล้ว ประเดิมสร้างโชว์รูมศูนย์บริการมาตรฐานแห่งแรก บนถนนเพชรบุรีตัดใหม่ ด้วยเงินลงทุนกว่า 40 ล้านบาท จากนั้นจะไปเปิดตัวแบรนด์รถยนต์ออดี้ให้กระหึ่มต่อสาธารณะชน พร้อมรถยนต์รุ่นใหม่ในงานบางกอก มอเตอร์โชว์ 2017
ส่วนรถยนต์รุ่นใหม่ “ไมซ์สเตอร์ เทคนิค” ตั้งใจนำเข้ามาตอบสนองครบทุกไลน์อัพหลัก แต่ช่วงแรกของการเปิดตัวธุรกิจจะเน้นไปที่รถยนต์ 3 รุ่น 3 สไตล์เพื่อสร้างภาพลักษณ์พร้อมแสดงให้เห็นถึง คุณภาพ สมรรถนะ และเทคโนโลยียานยนต์ระดับสุดยอดของออดี้ ทั้ง เอสยูวี “คิว2” (Q2) สปอร์ตคูเป้ “เอ5” (A5) และซูเปอร์คาร์ “อาร์8” (R8)
เริ่มจาก “คิว2” (Q2) ที่เปิดตัวครั้งแรกในงานเจนีวา มอเตอร์โชว์ 2016 ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เดือนมีนาคมปีที่แล้ว ถือเป็นเอสยูวี หรือ ครอสโอเวอร์รุ่นเล็กสุด ที่ออดี้เพิ่งเพิ่มเข้ามาในตระกูล “คิว”
โดยครอสโอเวอร์ระดับเริ่มต้นรุ่นนี้ จะเข้ามาท้าชนกับพวก เมอร์เซเดส-เบนซ์ จีแอลอี, บีเอ็มดับเบิลยู เอ็กซ์1 รวมถึง มินิ คันทรีแมน ขณะที่มิติตัวถังยาว 4,191 มม. กว้าง 1,794 มม. สูง 1,508 ระยะฐานล้อ 2,601 มม. รองรับเบาะนั่ง 2 แถว 5 ที่นั่ง มีพื้นที่เก็บสัมภาระด้านหลัง 405 ลิตร หากพับเบาะแถวสองลงจะเพิ่มเป็น 1,050 ลิตร
ในตลาดโลกมีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์เบนซิน TFSI ไดเร็กต์อินเจ็กชัน เทอร์โบ แบบ 3 สูบ 1.0 ลิตร 116 แรงม้า และ 4 สูบ ขนาด 1.4 ลิตร 150 แรงม้า รวมถึง 2.0 ลิตร 190 แรงม้า ขณะที่รุ่นเทอร์โบ ดีเซล TDI มี 2 ขนาดคือ 1.6 ลิตร 116 แรงม้า ขนาด 2.0 ลิตร 150 แรงม้า และ 190 แรงม้า
เช่นเดียวกับสปอร์ตคูเป้ “เอ5 โฉมใหม่” ที่เพิ่งเปิดตัวในตลาดโลกเมื่อปีที่แล้ว การขายในไทยอาจจะวางเครื่องยนต์เบนซิน TFSI ขนาด 2.0 ลิตร ซึ่งถือเป็นบล็อกพิมพ์นิยมของรถยนต์ในกลุ่มนี้
เอ5 คูเป้ โดดเด่นด้วยรูปทรงสปอร์ตโฉบเฉี่ยว ตั้งแต่ฝากระโปรงหน้า กระจังหน้าโครเมี่ยมทรง 6 เหลี่ยม และเส้นสายด้านข้าง ตัวถังใช้วัสดุอะลูมิเนียมและไทเทเนียมเป็นส่วนผสม ส่งผลให้น้ำหนักลดลงไป 60 กิโลกรัมเมื่อเทียบกับรุ่นเดิม ตลอดจนความหรูหราภายในห้องโดยสาร ที่ใส่ Audi Virtual Cockpit หรือระบบจอ LED แสดงมาตรวัดและข้อมูลสำคัญของรถในรูปแบบดิจิตอล
สำหรับ “อาร์ 8 ใหม่” มากับเครื่องยนต์เบนซิน วี10 ขนาด 5.2 ลิตร วางกลางลำ โดยรุ่นพื้นฐานให้กำลัง 540 แรงม้า ส่วนรุ่นพลัสโดดไป 610 แรงม้า เมื่อส่งกำลังด้วยเกียร์ เอส ทรอนิก 7 สปีด อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ 3.2 วินาที ความเร็วสูงสุด 330 กม./ชม. พร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อควอตโทร ซึ่งสมรรถนะอันยอดเยี่ยม ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากโครงสร้างแบบสเปซเฟรม ตัวถังใช้วัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ผสมอลูมิเนียม ดังนั้น “อาร์8 ใหม่” จึงมีน้ำหนักตัวเพียง 1,454 กิโลกรัม หรือลดลงจากรุ่นเดิม 50 กิโลกรัม
อย่างไรก็ตามในการเปลี่ยนผ่านนี้ ออดี้ เอจี ประเทศเยอรมนี ยังเปิดโอกาสให้ผู้จำหน่ายรายเดิม “เยอรมัน มอเตอร์เวิร์ค” มีสิทธิ์ขายรถยนต์ใหม่ ควบคู่ไปกับ “ไมซ์สเตอร์ เทคนิค” ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง จากนั้นถึงจะผันตัวไปเป็นดีลเลอร์
…นับเป็นอีกทางเลือกในตลาดรถยนต์ระดับหรู ซึ่งการจัดทัพใหม่ของออดี้ครั้งนี้ เมอร์เซเดส-เบนซ์ อาจจะไม่สะท้าน บีเอ็มดับเบิลยูคงไม่ถึงกับสะเทือน แต่ถือเป็นโอกาสของผู้บริโภคชาวไทยที่จะได้ใช้รถสมรรถนะดี เทคโนโลยียานยนต์ขั้นสูงตามที่คนทั่วโลกนิยม บนความมุ่งมั่นตั้งใจของผู้ดูแลตลาดรายใหม่
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,246 วันที่ 23 - 25 มีนาคม พ.ศ. 2560