อนันดา วอนรัฐวางแผนพัฒนาประเทศสู่ “สมาร์ท ซิตี”ช่วยแก้ปัญหาชีวิตคนเมือง แนะนำที่ดินภาครัฐออกประมูลให้เอกชนพัฒนา พร้อมแก้กฎเกณฑ์ข้อบังคับ ควบคู่วางแผนสร้างระบบนิเวศการอยู่อาศัยชูโมเดลญี่ปุ่นเป็นต้นแบบ
นายชานนท์ เรืองกฤตยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปัญหาของเมืองใหญ่คือความหนาแน่นของที่อยู่อาศัย และสัดส่วนของการอยู่อาศัยในพื้นที่เมืองที่เพิ่มสูงขึ้น อนาคตอาจทำให้เกิดปัญหาในเรื่องของการบริหารจัดการตามมา เช่น ปัญหามลภาวะ ปัญหาการจราจร ปัญหาการจัดการของเสีย ปัญหาความสิ้นเปลืองพลังงาน
ดังนั้นจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีการวางแผนการอยู่อาศัยให้มีประสิทธิภาพในรูปแบบของ "สมาร์ท ซิตี" ซึ่งเป็นรูปแบบที่เป็นที่นิยมอย่างมาก และกำลังเป็นกระแสไปทั่วโลก โดยรูปแบบบดังกล่าวจะเป็นการนำเรื่องของเทคโนโลยีมาใช้กับเมือง เพื่อให้มีความน่าอยู่มากขึ้น ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการสาธารณะของเมืองได้อย่างรวดเร็ว รวมถึงการเชื่อมโยงข้อมูลต่างๆได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ประเทศที่ถือได้ว่าเป็นต้นแบบการพัฒนาในรูปแบบ "สมาร์ท ซิตี" คือประเทศญี่ปุ่น เมืองชิบะ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นโครงการที่พัฒนาโดยบริษัท มิตซุย ฟูโดซัง จำกัด บนเนื้อที่กว่า 2,000 ไร่ แบ่งการพัฒนาออกเป็น 2 เฟส โดยเฟส 1 ก่อสร้างแล้วเสร็จและเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการเมื่อปี 2557 ประกอบด้วย ที่พักอาศัย โรงแรม ร้านค้า อาคารสำนักงาน มูลค่ารวมประมาณ 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในส่วนของเฟส 2 อยู่ระหว่างการก่อสร้าง คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2573
ทั้งนี้ การพัฒนาเมืองในรูปแบบนี้ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน โดยเฉพาะภาครัฐไม่ว่าจะเป็นเรื่องของที่ดิน ตลอดจนกฎระเบียบต่างๆที่ยังคงเป็นอุปสรรคในการพัฒนา หากเป็นไปได้ภาครัฐจะต้องนำที่ดินที่อยู่ในมือซึ่งเป็นพื้นที่ขนาดใหญ่และมีศักยภาพมาพัฒนา เช่น ที่ดินแปลงมักกะสัน ซึ่งเป็นของการรถไฟแห่งประเทศไทย ผ่านการประมูลในรูปแบบที่เป็นธรรม พร้อมกับการปรับเปลี่ยนกฎระเบียบต่างๆ เพื่อจูงใจให้ภาคเอกชนร่วมพัฒนา
"โครงการเช่นนี้จะเกิดขึ้นได้ก็ต้องได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐตั้งแต่ระดับท้องถิ่น รวมไปถึงภาคการศึกษาในระดับต่างๆ หากภาครัฐให้การสนับสนุนก็เชื่อว่าเอกชนในทุกภาคส่วนก็พร้อมให้การสนับสนุนเช่นเดียวกัน เราต้องสร้างระบบนิเวศน์การอยู่อาศัยให้กับประเทศของเรา เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน เชื่อว่าถ้าเราทุกคนรวมพลังกันทุกอย่างก็มีความเป็นไปได้ แต่ปัจจุบันยังมีข้อจำกัดหลายประการ"นายชานนท์ กล่าว
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,246 วันที่ 23 - 25 มีนาคม พ.ศ. 2560