มาเลย์เป็นฮับ ‘อาลีบาบา’ รอยเตอร์อ้าง‘แจ็ค มา’ ตั้งศูนย์กระจายสินค้า

23 มี.ค. 2560 | 12:00 น.
กลุ่มบริษัทอาลีบาบาฯ ยักษ์ใหญ่อี-คอมเมิร์ซจากจีน ตัดสินใจเลือกกรุงกัวลาลัมเปอร์เป็นศูนย์กระจายสินค้าของภูมิภาคอาเซียน เป็นส่วนหนึ่งของโครงการเขตปลอดภาษีดิจิตอล ตั้งอยู่เมืองท่าอากาศยานเคแอล

สำนักข่าวรอยเตอร์อ้างแหล่งข่าวระบุว่า ศูนย์กระจายสินค้าประจำภูมิภาคอาเซียนของอาลีบาบา จะตั้งอยู่ในเขต KLIA Aeropolis ซึ่งเป็นโครงการเมืองท่าอากาศยาน ที่รัฐบาลมาเลเซียสร้างขึ้นโดยพัฒนาพื้นที่รอบ ๆ สนามบินกัวลาลัมเปอร์ในเซปัง ให้เป็นศูนย์กลางทางการบินใหม่ที่มีพื้นที่ให้บริการทางการบินและอากาศยานรวมทั้งการประชุมต่าง ๆ
รอยเตอร์ระบุว่า โครงการ KLIA Aeropolis จะมีพื้นที่รวม 24,700 เอเคอร์ (ประมาณ 62,491 ไร่) พัฒนาขึ้นโดยบริษัทท่ากาศยานมาเลเซีย เป็นโครงการที่คาดว่าจะมีการลงทุนจากภาครัฐและเอกชนรวม 7,000 ล้านริงกิต

ทางด้านโครงการเขตปลอดภาษีดิจิตอล ซึ่งเป็นโครงการที่ผลักดันโดยนายมา และนาย นาจิบ ราซัก นั้นคาดว่าจะตั้งอยู่ในกรุงกัวลาลัมเปอร์และปริมณฑลในเขตกลังวัลเลย์ เป็นโครงการเพื่อเพิ่มสัดส่วนธุรกิจในศรษฐกิจฐานดิจิตอลต่อจีดีพีให้เพิ่มมากขึ้น โดยการลดภาษีและอำนวยความสะดวกทางด้านศุลกากรแก่ธุรกิจอี-คอมเมิร์ซ รวมทั้งการสร้างบรรยากาศที่ดีให้บริษัทที่ทำธุรกิจให้บริการในฐานดิจิตอลเข้าไปลงทุนในประเทศมาเลเซีย

สื่อในมาเลเซีย ระบุก่อนหน้านี้ว่าองค์กรที่เป็นผู้บริหารจัดการเขตปลอดภาษีดิจิตอลคือ บริษัทมาเลเซียดิจิตอลอีโคโนมีคอร์เปอเรชันฯ โดยคาดว่าจะมีการให้สิทธิประโยชน์คล้ายกับเขตปลอดภาษีปาซีร์กุดัง (Pasir Gudang) บายันเลอปาส (Bayan Lepas) หรือท่าเรือกลัง

แหล่งข่าวระบุว่า แจ็ค มา ผู้ก่อตั้งและประธานกลุ่มอาลีบาบา และ นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย นายนาจิบ ราซักจะร่วมกันแถลงเปิดตัวโครงการศูนย์กระจายสินค้าของอาลีบาบา โดยให้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการเขตปลอดภาษีดิจิตอล ซึ่งอยู่ภายในเมืองท่าอากาศยาน KLIA Aeropolis

แหล่งข่าวรายหนึ่งให้สัมภาษณ์รอยเตอร์ว่า ‘กลุ่มอาลีบาบา มีพื้นที่อยู่ในสนามบินนานาชาติกัวลาลัมเปอร์อยู่แล้ว เพื่อทดสอบการเป็นศูนย์กระจายสินค้าของภูมิภาค ซึ่งหากอาลีบาบาตัดสินใจขยายงานสามารถใช้พื้นที่ในโครงการเมีองท่าอากาศยานได้เลย’

รอยเตอร์ชี้ว่าโครงการดังกล่าว อาจเป็นผลต่อเนื่องจากการที่ประธานาธิบดีมาเลเซียได้แต่งตั้งให้นายมา เป็นที่ปรึกษารัฐบาลมาเลเซียในด้านเศรษฐกิจฐานดิจิตอล ขณะที่เยือนประเทศจีนอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว ทำให้มีรายงานข่าวในสื่อมาเลเซีย ตามมาว่านอกเหนือจากอีคอมเมิร์ซแล้ว นายมา จะช่วยรัฐบาลมาเลเซียพัฒนาระบบการชำระเงินออนไลน์และธนาคารออนไลน์

แหล่งข่าวอีกรายหนึ่งให้สัมภาษณ์รอยเตอร์ว่า "คนส่วนใหญ่ เชื่อว่ามาเลเซีย จะกลายเป็นศูนย์กลางการ

[caption id="attachment_135969" align="aligncenter" width="503"] มาเลย์เป็นฮับ ‘อาลีบาบา’ รอยเตอร์อ้าง‘แจ็ค มา’ ตั้งศูนย์กระจายสินค้า มาเลย์เป็นฮับ ‘อาลีบาบา’ รอยเตอร์อ้าง‘แจ็ค มา’ ตั้งศูนย์กระจายสินค้า[/caption]

ค้าของภูมิภาคต่อจากสิงคโปร์ โดยจะเป็นเป็นศูนย์กลางการค้าและให้บริการแทนที่สิงคโปร์ได้บางส่วนแม้โครงสร้างพื้นฐานจะยังไม่สมบูรณ์แบบเท่าสิงคโปร์ ซึ่งเหมาะสำหรับการตั้งศูนย์กระจายสินค้าได้"

รอยเตอร์ระบุว่า การลงทุนสร้างศูนย์กระจายสินค้าในกรุงกัวลาลัมเปอร์จะเป็นการลงทุนครั้งแรกในประเทศมาเลเซีย ของอาลีบาบา หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้ลงทุนในประเทศสิงคโปร์เป็นส่วนใหญ่ โดยในปีที่แล้วลงทุนซื้อแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ ลาซาดา ของสิงคโปร์ไปในราคา 1,000 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 35,000 ล้านบาท) และยังซื้อหุ้นบริษัทสิงคโปร์โพสต์เพิ่มจาก 10.2 % เป็น 14.4 %

นอกจากสิงคโปร์แล้ว อาลีบาบายังได้ลงทุนในประเทศไทยโดยการซี้อหุ้น 20 % ของบริษัท เอสเซนต์มันนี่ ซึ่งเป็นบริษัทฟินเทคของกลุ่มซีพีในไทยด้วย

นักวิเคราะห์เศรษฐกิจภูมิภาคอาเซียน ระบุว่าการลงทุนของอาลีบาบา ในมาเลเซีย สอดคล้องกับกระแสความสัมพันธ์ระหว่างจีนและมาเลเซีย ที่พัฒนาดีขึ้นจากเดินทางเยือนจีนของนายราจิบ ราซัก ในปีที่แล้วโดยระหว่างการพบปะกับนายสี จิ้นผิงประธานาธิบดีจีน รัฐบาลจีนประกาศลงทุนหลายแสนล้านบาทในประเทศมาเลเซีย ซึ่งรวมทั้งโครงการพัฒนาที่ดิน โครงการสร้างท่าเรือนำลึก ทางรถไฟ

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,246 วันที่ 23 - 25 มีนาคม พ.ศ. 2560