'เนวิน'ลุ้นโมโตจีพีบูมสปอร์ตทัวริซึม

เพียงไม่กี่ปี บุรีรัมย์ เติบโตขึ้นเป็นเมืองแห่งกีฬาและการท่องเที่ยวที่ทุกคนกล่าวถึง ไม่ว่าจะเป็นทีมฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด สนามฟุตบอล ไอ-โมบาย สเตเดียม และสนามแข่งขันยานยนต์มาตรฐานโลก อย่าง ช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต แนวทางการพัฒนาเมืองเป็นอย่างไร ต้องฟังจากปากคำของ "เนวิน ชิดชอบ" ประธานที่ปรึกษา สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต

 การจัดงานแข่งรถ
ช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ เตรียมจัดงานแข่งขันจักรยานยนต์ รายการ เอเชีย โร้ด เรซซิ่ง แชมเปี้ยนชิพ 2016 สนาม 2 ระหว่างวันที่ 14-15 เมษายนนี้ ซึ่งการแข่งขัน เอเชีย โร้ด เรซซิ่ง นับเป็นหนึ่งในรายการแข่งขันที่มีแฟนติดตามมากที่สุดรายการหนึ่งของทวีป เพราะรวมเอานักบิดชื่อดังจากทุกประเทศ อาทิ ญี่ปุ่น, ออสเตรเลีย, ไทย และ อินโดนีเซีย แฟนๆ จะได้เห็นการแข่งขันสุดเข้มข้น เร้าใจ ไม่แพ้จากการแข่งขันระดับโลก เปรียบเสมือนการแข่งขัน เอเชียน เกม ในแบบฉบับของ มอเตอร์ไซค์ทางเรียบ โดยจะเปิดให้เข้า ชมฟรีในส่วนไซด์สแตนด์ ขณะที่บัตรเข้าชมโซนแกรนด์สแตนด์ ผู้สนับสนุนหลักของสนามทุกรายร่วมลงขันนำบัตรไปเล่น กิจกรรมกับแฟนๆ เพื่อให้เข้าชมการแข่งขัน และร่วมให้กำลังใจนักแข่งไทยแบบติดขอบสนามฟรีๆ เช่นกัน นอกจากนี้ ยังถ่ายทอดสดความมันส์ผ่าน ทรู4ยู ช่อง 24 ด้วย

 ผุดงานมิดไนท์สงกรานต์
ในช่วงเวลาเดียวกัน บุรีรัมย์ เตรียมจัดกิจกรรมในช่วงสงกรานต์ ได้แก่ "ช้าง บุรีรัมย์ มิดไนท์ สงกรานต์" บริเวณหน้าสนามฟุตบอลไอ-โมบาย สเตเดียม เปิดโอกาสให้ประชาชนที่เข้าร่วมงานได้สนุกไปกับสายน้ำที่ฉ่ำเย็น แสงสีที่สวยงามเหนือจินตนากร และปาร์ตี้โฟม รวมถึงการแดนซ์ ไปกับกองทัพศิลปินกว่า 15 วง ร่วมสนุกฟรีเพียงใส่เสื้อบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด นอกจากนี้ ยังได้จัดงาน "บุรีรัมย์ สงกรานต์ คานิวัล" ขบวนคานิวัลสุดยิ่งใหญ่และเต็มไปด้วยสีสัน แห่จากสยามมไอ-โมบายไปยังอนุสาวรีย์ราชการที่ 1 ไปกลับ-กลับระยะทาง 6 กม. การจัดการแข่งขันมอเตอร์สปอร์ตพร้อมๆกับเทศกาลสงกรานต์ในครั้งนี้ ต้องการให้คนทั่วโลกได้เห็นวัฒนธรรมของไทย โดยเฉพาะสงกรานต์ซึ่งมีความสนุกสนาน ด้วยการถ่ายทอดสดออกไปทั่วโลก

 จำนวนนักท่องเที่ยว
เมื่อก่อน นักท่องเที่ยว มาบุรีรัมย์ปีนึงไม่ถึง 5 แสนคน ตอนนี้มีเกิน 3 ล้านคนแล้ว เมื่อก่อนไม่เคยมีนักท่องเทียวต่างประเทศ แต่ปัจจุบันมีปีละหลายแสนคน หากมีการจัดโมโตจีพี ที่กำลังรอครม.อนุมัติในเร็วๆนี้ โดยรัฐจ่ายค่าลิขสิทธิ์ 100 ล้านบาท และจะมีการระดมทุนจากภาคเอกชนอีก 300 ล้านบาท รวมเป็นค่าลิขสิทธิ์ 400 ล้านบาท โดยสามารถจัดในสนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ที่ลงทุนไปหลายพันล้านบาท ซึ่งจะมีนักท่องเที่ยวต่างประเทศและทีมงานร่วมแสนคน ผลประโยชน์ที่เกิดขึ้นจากการจัดโมโตจีพีไม่ได้มีเฉพาะแค่บุรีรัมย์ แต่ยังส่งผลประโยชน์ไปยังจังหวัดอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นหัวหิน เชียงใหม่ ภูเก็ต เกาะสมุย พัทยา เชียงราย เขาใหญ่ เท่ากับเราขายแหล่งท่องเที่ยวของไทยให้กับผู้เดินทางมาชมโมโตจีพี

 เน้นสปอร์ตทัวริซึ่ม
เป้าหมายการพัฒนาเมืองคือ ทำให้บุรีรัมย์เป็นสปอร์ตทัวริซึ่ม และทำได้เป็นจังหวัดแรก เพราะบุรีรัมย์มีความพร้อมของภาคเอกชน ความพร้อมของชุมชน และความพร้อมภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยงข้อง มาจับมือกันไปในทิศทางที่ผลักดันให้จังหวัดบุรีรัมย์เป็นเดสติเนชั่นเรื่องการท่องเที่ยว ทั้งด้านสปอร์ต สปีด และทัวริซึ่มเข้ามาบวกกัน แม้จังหวัดอื่นจะมีความพร้อมเหมือนกัน แต่ไม่มีคนทำ ไม่สามารถจับต้องได้ เหมือนที่รัฐบาลปัจจุบันพยายามผลักดันเรื่องประชารัฐ คำว่าประชารัฐคือ ประชาเป็นคนทำและรัฐสนับสนุน ที่ผ่านมา ไม่ประสบความสำเร็จ ไม่สามารถจับต้องได้ ไม่เป็นรูปธรรมเพราะประชาไม่ได้เดินนำหน้า และรัฐเดินตามหลัง แต่ที่บุรีรัมย์เป็นตัวอย่างของประชารัฐ ค่าใช้จ่ายในการจัดงานต่างๆ ประชาเป็นคนจัดการ รัฐเป็นผู้อำนวยความสะดวก

 เน้นการบริหารจัดการ
การบริหารจัดการ ต้องเป็น "บุรีรัมย์สแตนดาร์ด" คือต้องทำให้ดีที่สุดในระดับเวิลด์สแตนดาร์ด อย่างการจัดงานบุรีรัมย์ มาราธอน เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา จัดเป็นปีแรก ก็ขึ้นมาเป็นเบอร์ 1ของประเทศไทยไปแล้ว

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,246 วันที่ 23 - 25 มีนาคม พ.ศ. 2560