นับตั้งแต่ที่แอปเปิลเผยแอปเปิลวอตช์ (Apple Watch) ของตัวเองออกมาอย่างเป็นทางการ เมื่อปี 2558 สะท้อนให้เห็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมนาฬิกาที่ชัดเจน ยอดส่งออกของนาฬิกาข้อมือจากสวิสเซอร์แลนด์ทยอยปรับตัวลดลงติดต่อกัน อย่างไรก็ดี นับว่าเป็นข่าวดี เพราะล่าสุด เจ้าพ่อนาฬิกาสวิส อย่าง สวอตซ์ (Swatch) แบรนด์นาฬิกาแฟชั่นจากสวิสเซอร์แลนด์ก็ออกมาเผยแผนการที่จะเอามาสู้กับแอปเปิลวอตซ์ ด้วยการเตรียมปล่อยสมาร์ทวอตซ์รุ่นแรกที่มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการของตนเองในแบรนด์ ทิสโซต (Tissot) นาฬิกาชื่อดังในเครือสวอตซ์ กรุ๊ป
สวอตซ์ กรุ๊ป เอจี บริษัทผู้ผลิตนาฬิการายใหญ่จากสวิสเซอร์แลนด์ได้เตรียมผลิตสมาร์ทวอตซ์และพัฒนาระบบปฏิบัติการ (โอเอส) ของตนเอง โดยตั้งเป้าเป็น Swiss-made OS รายแรกของโลก เพื่อเอามาแข่งกับคู่แข่งเจ้าใหญ่อย่างแอปเปิลวอตซ์ โดยทางสวอตซ์ กรุ๊ป เอจี เผยว่า บริษัทกำลังพัฒนาระบบปฏิบัติการสำหรับสมาร์ทวอตซ์ร่วมกับสถาบันไมโครเทคโนโลยีและอิเล็กทรอนิกส์แห่งสวิส ซึ่งในส่วนของกลไกนาฬิการุ่นใหม่ของทิสโซตถูกออกแบบให้สามารถเชื่อมต่อกับการใช้อุปกรณ์แวร์เอเบิลขนาดเล็กได้
นายนิค ฮาเยก ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของสวอตซ์ กล่าวว่า ทางบริษัทเลือกพัฒนาระบบปฏิบัติการสำหรับสมาร์ทวอชต์เอง แทนการเลือกใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์แวร์ โดยเชื่อว่าอุปกรณ์แวร์เอเบิลที่ได้รับความนิยมต้องมีขนาดเล็ก ใช้พลังงานแบตเตอรี่น้อย และมีระบบความปลอดภัยต่อข้อมูลของผู้ใช้มากขึ้น
สวอตซ์ได้เลือกแบรนด์ทิสโซตให้เป็นสมาร์ทวอตซ์นำร่องของตน โดยจะวางจำหน่ายประมาณปลายปี 2561 ส่วนราคายังไม่มีการเปิดเผยแต่อย่างใด ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของสวอตซ์ กล่าวเสริมว่า มีแผนจะให้ไลเซนส์ของระบบปฏิบัติการนี้กับบริษัทขนาดเล็กหรือสตาร์ทอัพไปใช้งานได้ด้วย ซึ่ง ณ ตอนนี้มีบริษัทผู้ผลิตสมาร์ทวอตซ์และแวร์เอเบิลทั่วโลก ประมาณ 100 กว่าราย ให้ความสนใจระบบปฏิบัติการดังกล่าว ในจำนวนนี้ประมาณครึ่งหนึ่งเป็นผู้ผลิตรายเล็กๆ ในซิลิคอนแวลลีย์ที่ต้องการเป็นอิสระไม่ขึ้นกับแอนดรอยด์และไอโอเอส มากเกินไป
การแข่งขันที่ดุเดือดของสมาร์ทวอตช์ ทำให้เราได้เห็นการปรับตัวอย่างต่อเนื่องจากค่ายผู้ผลิตนาฬิกาข้อมือรูปแบบดั้งเดิม อย่างสวอตซ์เองก็ได้เปิดตัวสมาร์ทวอตซ์แบรนด์ทิสโซตหน้าปัดอนาล๊อกกึ่งดิจิตอล ที่มาพร้อมฟีเจอร์ไฮเทคอย่างระบบนำทางและข้อมูลสภาพอากาศ ที่สำคัญมีระบบชาร์จแบตเตอรี่ด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ ทั้งนาฬิกาดังกล่าวสามารถเชื่อมต่อกับทั้งแอนดรอยด์และแอปเปิลได้
นอกจาก สวอตซ์จะพัฒนาระบบปฏิบัติการสำหรับสมาร์ทวอตช์ของตนเองขึ้นมาแล้ว ทางบริษัทก็กำลังพัฒนาบลูทูธ ชิพ ขนาดเล็กที่สุดในโลก เพื่อใช้กับสมาร์ทวอตซ์ อุปกรณ์แวร์เอเบิล รวมถึงอุปกรณ์เครื่องใช้ในบ้านทั่วไปอีกด้วย
จากการบุกตลาดสมาร์ทวอตซ์ที่เอาจริงเอาจังของสวอตซ์ ทำให้ล่าสุด หุ้นของสวอตซ์ในเมืองซูริก ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ สูงขึ้น 1.6% ส่งผลให้บริษัทมีมูลค่าทางการตลาด ถึง 19.4 พันล้านฟรังซ์สวิส (ราว 19.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) ทั้งนี้ สวอตซ์ยังคาดการณ์การฟื้นตัวในตลาดสหรัฐฯ และยุโรปว่ารายได้อาจจะเพิ่มขึ้น ประมาณ 7-9% ในปีนี้
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,246 วันที่ 23 - 25 มีนาคม พ.ศ. 2560