‘แอล เอช ฟันด์’แนะลงทุนตราสารหนี้ระยะสั้นรับดอกเบี้ยขาขึ้น

"แอล เอช ฟันด์” มองแนวโน้มดอกเบี้ยขาขึ้น แนะเลี่ยงลงทุนตราสารหนี้ระยะกลาง-ระยะยาว ชูกองทุนใหม่ ‘LHSTPLUS’ เป็นทางเลือก

นายมนรัฐ ผดุงสิทธิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด หรือ แอล เอช ฟันด์ เปิดเผยว่า บริษัทฯ คาดว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีแนวโน้มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 3-4 ครั้งในปีนี้ กดดันให้อัตราดอกเบี้ยตราสารหนี้ระยะกลาง-ยาวของไทยปรับตัวขึ้นไปในทิศทางเดียวกับเฟด ส่งผลกระทบให้การลงทุนในตราสารหนี้ระยะกลาง-ยาวมีความเสี่ยงจากราคาตราสารหนี้ที่มีโอกาสปรับลดลงจึงแนะนำลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้น เพื่อลดความเสี่ยงจากราคาตราสารหนี้ระยะกลาง-ยาว ที่มีโอกาสปรับลดลง

อย่างไรก็ตามจากปัจจัยดังกล่าวบริษัทฯ จึงเปิดเสนอขายครั้งแรก (IPO)  กองทุนเปิด แอล เอช ตราสารหนี้ระยะสั้น พลัส (LHSTPLUS) ในวันที่ 20-28 มีนาคม 2560 มูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการลงทุนในช่วงอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น เน้นลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้น ที่มีอายุเฉลี่ยตราสารหนี้ในพอร์ตลงทุนไม่เกิน 1 ปี เพื่อลดความเสี่ยงจากความผันผวนของมูลค่าหน่วยลงทุนต่อหน่วย (NAV)

นอกจากนี้กองทุนจะกระจายการลงทุนในตราสารหนี้ภาคเอกชนที่มีผลการดำเนินงานและฐานะการเงินที่ดีรวมถึงลงทุนตราสารหนี้ในต่างประเทศ ซึ่งจะมีการป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนจากการลงทุนในต่างประเทศเต็มจำนวนเพื่อเพิ่มโอกาสได้รับผลตอบแทนที่ดี สามารถซื้อ-ขายคืนได้ทุกวันทำการและได้รับเงินค่าขายคืนในวันที่ทำรายการขายคืน +1 วันทำการ

“อัตราดอกเบี้ยระยะกลาง-ยาวของไทยมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นตามทิศทางอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ  ที่เกิดจากเศรษฐกิจฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องและนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนใหม่ ซึ่งการปรับขึ้นดอกเบี้ยส่งผลให้ราคาของตราสารหนี้ระยะกลาง-ยาว มีความเสี่ยงที่ราคาซื้อ/ขายในตลาดอาจปรับลดลง และมีผลต่อการบันทึกบัญชี จึงแนะนำนักลงทุนเน้นลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้นแทน และเมื่ออัตราดอกเบี้ยระยะกลาง-ยาวสะท้อนปัจจัยลบต่างๆ อาทิ การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ความกังวลต่ออัตราเงินเฟ้อที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นไปแล้ว จึงค่อยกลับมาลงทุนในตราสารหนี้ระยะกลาง-ยาว อีกครั้งหนึ่ง”นายมนรัฐ กล่าว