เตือนอย่าโหมโรงAPX ระวังหุ้นรีซูมเทรดแจกกำไรไม่แรง

22 มี.ค. 2560 | 05:00 น.
นักวิเคราะห์เตือนรายย่อย อย่าโหมเก็งกำไร APX หวั่นซ้ำรอย SGF หลังนักลงทุนพีพี กลุ่มเดียวกันนักลงทุนรายใหญ่ “เสี่ยปู่ - เฮียจึง” เชื่อราคาไม่ขึ้นแรงเหมือนอดีต

แหล่งข่าวนักวิเคราะห์ กล่าวว่า นักลงทุนไม่ควรแห่เก็งกำไรหุ้นที่กลับมาซื้อขายใหม่ หลังจากผ่านการปรับโครงสร้างหนี้เรียบร้อยแล้ว (รีซูมเทรด) โดยคาดหวังว่าราคาหุ้นวันแรกซึ่งไม่มีเพดาน สามารถปรับตัวขึ้น-ลงเสรี จะปรับตัวขึ้นแรงเหมือนอดีตหุ้นหลายตัวที่กลับมา เนื่องจากระยะหลัง หุ้นรีซูมเทรด แจกกำไรนักลงทุนไม่มาก เกือบเท่ากับหุ้นไอพีโอที่เข้ามาซื้อขายวันแรก ที่มีเพดานขึ้น-ลง 200% เท่านั้น

นักวิเคราะห์ กล่าวว่า หุ้นเอเพ็กซ์ ดีเวลลอปเม้นท์ (APX) ซึ่งตลาดอนุมัติให้กลับมาซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ (SET) กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ วันที่ 27 มีนาคม 2560 นี้ หากพิจารณาดูโครงสร้างผู้ถือหุ้น พบว่ามีนักลงทุนรายใหญ่ ที่ซื้อหุ้นเฉพาะเจาะจง (PP) เป็นกลุ่มเดียวกับนักลงทุนที่ซื้อ PP หุ้น สยามเจเนอรัล แฟคตอริ่ง (SGF) คือ นายสมพงษ์ ชลคดีดำรงกุล, นายวิวัฒน์ วิฑูรย์เธียร และนางวรพรรณ จึงทรัพย์ไพศาล ภรรยา “เฮียจึง” นักลงทุนรายใหญ่โบรกเกอร์ค่ายมาเลเซีย

นักลงทุนรายใหญ่ ที่ถือหุ้น APX กล่าวว่า กรณีราคาหุ้นขึ้นแรงวันแรก จะขายทำกำไรออกมา เนื่องจาก การรับรู้รายได้ของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ต้องใช้เวลารับรู้รายได้ หลังการโอนสิทธิให้กับผู้ซื้อโครงการแล้ว และระหว่างทางการก่อสร้างจำเป็นต้องใช้เงินทุน มีโอกาสที่บริษัทจะเพิ่มทุนได้ จึงเชื่อว่าเป็นหุ้นที่เหมาะลงทุนระยะยาว ไม่ใช่เก็งกำไร

ทั้งนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ อนุมัติให้APXพ้นเหตุถูกเพิกถอนและให้หลักทรัพย์กลับเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ ตั้งแต่วันที่ 27 มี.ค.นี้ เป็นต้นไป ราคาสุดท้าย 30 สิงหาคม 2542 ปิดที่ 2.80 บาท โครงสร้างผู้ถือหุ้นใหญ่ ประกอบด้วย กลุ่มสัมภวคุปต์ 44.84%, นายสมพงษ์ ชลคดีดำรงกุล 4.95% , นางวรพรรณ4.85% และนายวิวัฒน์ วิฑูรย์เธียร 4.24%

ปัจจุบัน APX ประกอบธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เพื่อขาย เป็นอาคารชุดโรงแรม อาคารชุดพักอาศัย และจัดสรรที่ดินพร้อมบ้านพักตาก รวมถึงให้บริการจัดการให้เช่าห้องชุด หรือบ้านพักตากอากาศที่ลูกค้าซื้อบางส่วนนําออกให้เช่าในระบบโรงแรม โดยบริษัทจะเก็บค่าธรรมเนียมในการบริหารจัดการ และมีผลตอบแทนให้กับผู้ซื้อตามที่ระบุในสัญญา

ผลประกอบการปี 2558 มีกำไรสุทธิ 53 ล้านบาท และปี 2559 จำนวน 31.6 ล้านบาท มีส่วนผู้ถือหุ้น 819.57 ล้านบาท ผู้ถือหุ้นมีส่วนร่วมบริหารงาน มี 18 ราย นำหุ้นรวมกัน 1,649.91 ล้านหุ้น คิดเป็น 55% ของทุนชำระแล้ว 2,999.85 ล้านบาท ติดระยะห้ามขาย (ไซเร้นพีเรียด ) ภายใน 1 ปีโดยรับการผ่อนผันขายได้ 25 % เมื่อครบ 6 เดือน หลังจากหุ้นเข้าซื้อขาย

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,245 วันที่ 19 - 22 มีนาคม พ.ศ. 2560