หาเงินล้านส่งลูกจบปริญญาตรี

20 มี.ค. 2560 | 02:44 น.
mp27-3245-b สวัสดีครับท่านผู้อ่านทุกท่านผมเชื่อแน่ว่าท่านผู้อ่านหลายท่านมีข้อกังวลเกี่ยวกับการวางแผนอนาคตให้กับคุณลูกโดยเฉพาะเรื่องการศึกษา เพราะทุกวันนี้ค่าใช้จ่ายทางด้านการศึกษาเพิ่มสูงขึ้นและจะยิ่งเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในอนาคต

ลองคำนวณตามผมดูนะครับว่ากว่าท่านจะส่งลูกเรียนหนังสือจบต้องใช้เวลาและเงินเท่าไหร่ ในปัจจุบันการศึกษาชั้นอนุบาลใช้เวลาประมาณ 2-3 ปี ช่วงประถมศึกษา 6 ปี ช่วงมัธยมศึกษาอีก 6 ปี และระดับปริญญาตรีอีก 4 ปี รวมระยะเวลาที่คุณลูกต้องเรียนเกือบ 20 ปี แถมบางบางครอบครัวยังส่งลูกเรียนต่อระดับปริญญาโทในต่างประเทศก็ยิ่งต้องมีค่าใช้จ่ายมากขึ้นไปอีก และกรณีที่ส่งลูกเรียนในโรงเรียนรัฐบาลกับเอกชนก็ยิ่งแตกต่างกัน และโดยเฉพาะหากส่งลูกเรียนโรงเรียนอินเตอร์ก็ยิ่งแพงขึ้นไปอีก ผมลองประมาณการให้คร่าวๆนะครับว่าถ้าท่านผู้อ่านต้องส่งลูกเรียนในแต่ละแห่งจะมีค่าใช้จ่ายเท่าไหร่

เห็นมั้ยละครับว่าขนาดส่งลูกเรียนคนเดียวยังใช้เงินเยอะขนาดนี้ แล้วถ้าท่านผู้อ่านที่มีลูกหลายคนก็ยิ่งต้องใช้เงินเพิ่มขึ้นไปอีกถึง 2 -3 เท่าตัว ดังนั้นการวางแผนการเงินที่ดีจึงเป็นสิ่งที่สำคัญและจำเป็นอย่างมากวันนี้ผมจึงมี 4 เทคนิคดีๆในการวางแผนการเงินเพื่อการศึกษาของคุณลูกมาฝากครับ

ข้อแรก:วางแผนแนวทางการศึกษาให้ชัดเจนและประมาณการค่าใช้จ่ายให้เพียงพอ อย่างแรกท่านผู้อ่านควรต้องหาข้อมูลสถานศึกษา หลักสูตร ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องก่อนเพราะปัจจุบันมีหลายรูปแบบซึ่งมีค่าใช้จ่ายที่แตกต่างกัน โดยจะต้องตั้งเป้าหมายและประมาณการค่าใช้จ่ายเหล่านี้ไว้ว่าต้องใช้จ่ายเท่าใด และควรเลือกสถานที่ศึกษาที่เหมาะกับความต้องการและสถานภาพทางการเงินของครอบครัวเป็นหลัก

ข้อที่ 2:วางแผนจัดตั้งกองทุนเพื่อการศึกษาสำหรับคุณลูก ท่านผู้อ่านควรจะต้องมีการวางแผนออมเงินล่วงหน้าเพื่อเป็นค่าเทอมและค่าใช้จ่ายให้กับคุณลูกโดยอาจจัดตั้งเป็นกองทุนเพื่อการศึกษาของคุณลูกด้วยการเก็บออมเงินและนำมาลงทุนเป็น 3 ส่วน คือ ระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว ให้สอดคล้องกับช่วงเวลาเรียนของคุณลูก เช่น ระยะสั้นอาจลงทุนโดยฝากประจำหรือลงทุนในกองทุนระยะสั้น ระยะกลางอาจลงทุนโดยฝากประจำแบบปลอดภาษี 3-5 ปี หรือซื้อพันธบัตรรัฐบาล หรือซื้อประกันชีวิตแบบออมทรัพย์ระยะสั้น ระยะยาวอาจลงทุนซื้อหุ้นหรือหุ้นกู้ต่างประเทศเพื่อเกร็งกำไร หรือซื้อประกันชีวิตแบบระยะยาวเพื่อรับเงินปันผลเป็นช่วงๆ และรับอัตราผลตอบแทนที่แน่นอน

ข้อที่ 3: การสร้างหลักประกันเพื่ออนาคตที่แน่นอนสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับท่านผู้อ่านทุกท่านซึ่งเป็นกำลังหลักในการวางแผนและเก็บออมเงินก็คือการสร้างหลักประกันที่มั่นคงไว้ให้คุณลูก เพราะอนาคตเป็นเรื่องที่ไม่แน่นอน ซึ่งหากมีเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้นกับท่านก็อาจจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อแผนการศึกษาของคุณลูกได้ อาจทำให้คุณลูกได้เรียนไม่เป็นไปตามแผนหรืออาจจะไม่ได้เรียนเลยก็ได้ ดังนั้นการสร้างหลักประกันเพื่ออนาคตของคุณลูกที่แน่นอนวิธีหนึ่งก็คือการทำประกันชีวิตไว้เพื่อช่วยลดความเสี่ยงในส่วนนี้ลง โดยท่านผู้อ่านอาจจะทำประกันที่มีความคุ้มครองไว้เท่ากับค่าใช้จ่ายที่ได้มีการประมาณการไว้จนคุณลูกจบการศึกษาก็จะสามารถช่วยการันตีได้ว่าหากมีเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้นคุณลูกก็จะสามารถเรียนจบได้ตามแผนที่วางไว้อย่างแน่นอน

ข้อที่ 4: กันเงินสำรองเพื่อสร้างสภาพคล่อง ท่านผู้อ่านควรต้องมีการกันเงินสำรองไว้บางส่วนเป็นสภาพคล่องสำหรับค่าใช้จ่ายฉุกเฉินต่างๆ เช่น ตกงาน หรือคุณลูกป่วย เพราะเหตุการณ์เหล่านี้อาจจะทำให้แผนที่วางไว้สะดุดลงได้ ดังนั้นท่านผู้อ่านจึงควรกันเงินสำรองไว้อย่างเป็นระบบเพื่อสร้างสภาพคล่องและไม่ทำให้ผิดแผนจากที่กำหนดไว้
ท่านผู้อ่านลองนำเทคนิคดังกล่าวไปปรับใช้ในการวางแผนการเงินเพื่อการศึกษาของคุณลูกกันนะครับ แล้วกลับมาพบกันใหม่ในครั้งหน้า สำหรับวันนี้สวัสดีครับ

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,245 วันที่ 19 - 22 มีนาคม พ.ศ. 2560