ที่นี่ไม่มีความลับ
โดย…เอราวัณ
ยันด้วยราชกิจจา "ทัตตชีโว" โยกเงินวัดเล่นหุ้น
ผู้ที่ตัดสินใจมาบวชเป็นพระในบวรพุทธศาสนา ในประเทศไทยมี 3 จำพวก คือ 1.บวชเรียนตามประเพณีไทย ด้วยคติที่สืบเนื่องกันมาว่าชายไทยเมื่อมีอายุพอสมควร ควรได้รับการบวชเรียนเพื่อทดแทนคุณบิดา มารดา หรือผู้มีพระคุณ คติที่สอนแบบนั้นมีกุศโลบายแฝงไว้สำหรับชายฉกรรจ์ที่กำลังมีอารมณ์พลุ่งพล่านในเรื่องต่างๆ ได้มีสติในการใช้ชีวิตและสงบนิ่งมากขึ้นเพื่อประโยชน์แห่งการใช้ชีวิตในภายภาคหน้าอย่างมีสติ
2.การบวชเพื่อสืบทอดคำสอนของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และละทิ้งซึ่งกิเลสทั้งปวงเพื่อแสวงหาความเป็น "นิพาน" ของพระสงฆ์รูปนั้นๆ และจรรโลงไว้ซึ่งพระพุทธศาสนา
3.การบวชเพื่อเข้ามาหาประโยชน์หรือความมั่งคั่งแก่ตน จะมาก-น้อยขึ้นอยู่กับโอกาสนั้นๆ เพราะผู้บวชเรียนเหล่านี้ (ไม่อยากเรียกสรรพนามว่าพระ) ไม่อาจละทิ้งกิเลสได้และเป็นเสมือนเหลือบที่กัดกินพระพุทธศสนา
กรณี “ธรรมกาย” พระหลายรูปที่เป็นหัวขบวนจะตกอยู่ในข่ายการบวชในรูปแบบที่ 3 แต่อีกหลายรูปไม่ใช่ แต่หลงผิดกับคำสอนที่ไม่ถูกต้อง ซี่งคิดว่า "นิพพานซื้อได้ด้วยเงิน" จึงเร่งหาเงินในรูปแบบต่างๆ ทั้งการระดม "ซื้อบุญ" การฉ้อฉลเงินสหกรณ์มาเป็นของตน หรือการนำเงินไปเล่นหุ้น
การที่พระนำเงินไปเล่นหุ้นนี้ก็เพื่อหวัง "กำไร" ซึ่งก็คือ "กิเลส" ที่ตัดไม่ขาด แม้สำนักงานสื่อสารองค์กรวัดพระธรรมกายจะตอบโต้การเสนอข่าวของหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจว่าเป็นข้อมูลอันเป็นเท็จ ก็ถือเป็นเรื่องธรรมดาของผู้ที่ถูกเปิดเผยข้อมูลจะปฏิเสธ เพราะข้อหาการขนเงินไปเล่นหุ้นเป็นสิ่งร้ายแรงทางสงฆ์
“ฐานเศรษฐกิจ” ได้เสนอเรื่องนี้ เพราะการตามต่อระหว่างบรรทัดของประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการถอดสมณศักดิ์ของ พระทัตตชีโว ซึ่งประกาศในราชกิจจานุเบกษาลงวันที่ 8 มีนาคม 2560 ซึ่งมีข้อความว่า
"ด้วยพระราชภาวนาจารย์(พระทัตตชีโว หรือเผด็จ ทัตตชีโว) วัดพระธรรมกาย จังหวัดประทุมธานี เข้าข่ายการเป็นผู้ต้องหาในคดีที่เกี่ยวเนื่องกับการให้ที่พักพิง แก่ผู้ต้องหาและการนำเงินวัดพระธรรมกายไปเล่นหุ้น เป็นความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฏหมายอาญา มาตรา157"
อ่านกันชัดๆ นี่คือที่มาที่บอกว่าพระทัตตชีโว เอาเงินวัดพระธรรมกายไปเล่นหุ้นไม่ใช่ “ฐานเศรษฐกิจ” มั่วนิ่ม แต่แสวงหาข้อมูลเพิ่มเติมว่าเงินดังกล่าวเอาไปเล่นหุ้นในกลุ่มแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ที่มี อนันต์ อัศวโภคิน ผู้เป็นลูกศิษย์คนสำคัญของวัดนี้เป็นเจ้าของ
และข้อมูลเหล่านี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ รวมทั้งกรมสอบสวนคดีพิเศษ บอกตรงกันว่ากำลังสอบสวนข้อมูลอยู่
เล่ามาเพื่อบอกสำนักสื่อสารองค์กรวัดพระธรรมกายว่า อย่ามัวเสียเวลาปฏิเสธข่าวนี้ แต่ควรเอาเวลาไปเตรียมข้อมูลเพื่อชี้แจงในคดีจะดีกว่า เพราะขณะนี้การสอบสวนกำลังเดินหน้าอย่างเข้มข้น ขอร้อง พระทัตตชีโว อย่าล่องหนเหมือน ธัมมชโย อีกก็แล้วกัน จงอยู่สู้ความจริง หากมั่นใจว่าไม่ผิด
คอลัมน์ : ที่นี่ไม่มีความลับ หน้า 16 ฉบับ 3245 ระหว่าง 19-22 มี.ค.2560