อินเดียเดินสายเจาะอุดรฯ-อีสานบน ชวนลงทุนอุตฯแปรรูปผลผลิตเกษตร หอการค้าสนนำสินค้าไปอวดโฉม ส่วนประธานสภาอุตฯอีสานชี้ไทยเปิดเอฟทีเอมานาน แต่ลงทุนจิ๊บจ๊อยแค่ 260 ล้านดอลลาร์
นายซานเจย์ กุมาร ตัวแทนฝ่ายการพาณิชย์สถานทูตอินเดียประจำประเทศไทย เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆนี้ สถานทูตอินเดียประจำประเทศไทย ออกมาจัดการสัมมนาแนะนำประเทศอินเดีย ให้กับนักธุรกิจ นักลงทุน และผู้เอกชน ในส่วนภูมิภาคที่จังหวัดอุดรธานี และจังหวัดสมาชิกในกลุ่มจังหวัดภาคอีสานตอนบน 1 ในครั้งนี้ จะทำให้เกิดโอกาสในการสร้างโอกาสที่ดีในด้านการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว ระหว่างประเทศอินเดีย กับประเทศไทยโดยเฉพาะในส่วนภูมิภาคที่เพิ่มขึ้น และเป็นการสร้างความสัมพันธ์ความที่ใกล้ชิดของประชาชนของทั้ง2ประเทศให้มีความใกล้ชิดกันมากขึ้น
อินเดียเป็นประเทศที่มีประชากรมากถึง 1,300 ล้านคน มีภาษาพูดที่แตกต่างกันมากถึง 1,600 ภาษา มีประชากรที่เป็นทรัพยากรมนุษย์ในวัยทำงานอายุโดยเฉลี่ยต่ำกว่า 25 ปี มากถึง 50 % ประเทศอินเดียมีรัฐจำนวน 25 รัฐ ประเทศอินเดียมีอัตราความเจริญเติบโตของเศรษฐกิจในช่างไม่กี่ปีที่ผ่านมามาก เป็นเขตเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก และมีการคาดการณ์ว่าการเจริญเติบโตด้านเศรษฐกิจของประเทศอินเดียเช่นนี้ไปอีกระยะหนึ่ง
นายอับบากานี ราม อุปทูตอินเดีย เปิดเผยว่า ได้เดินสายมาเชิญชวนให้นักธุรกิจอุดรธานี เข้าไปลงทุนในอุตสาหกรรมแปรรูปเกษตร ด้วยเหตุผลที่ว่า อุตสาหกรรมของไทยมีความเชี่ยวชาญในการแปรรูปผลผลิตทางการเกษตรสูง ในขณะเดียวกันอินเดียมีพืชการเกษตร เช่น ผลไม้ และพืชผักอื่นๆเป็นจำนวนมาก เหลือจากการบริโภคในประเทศมากถึง 49% ซึ่งเป็นวัตถุดิบทางการเกษตรจำนวนมหาศาล นอกจากนี้แล้วก็ยังมีการลงทุนที่น่าสนใจ เช่น การก่อสร้างโครงสร้างพื้นที่ การก่อสร้างเส้นทางรถไฟความเร็วสูง พลังงานและพลังงานทดแทน และอุตสาหกรรมขนาดต่างๆที่จำเป็น และยังมีธุรกิจ อุตสาหกรรม และการลงทุนในด้านอื่นๆ เช่นธรกิจสุขภาพ การบริการ อีกเป็นจำนวนมาก ที่เปิดโอกาสให้นักลงทุนจากประเทศไทยสามารถเดินทางเข้าไปลงทุนทำธุรกิจ ในประเทศอินเดียได้
นายสวาม ธีระรัตนนุกูลชัย ประธานหอการค้าจังหวัดอุดรธานี กล่าวว่า ถือว่าเป็นการริเริ่มที่ดีที่ทางสถานทูตอินเดีย ออกมาทำการเผยแพร่ข้อมูลด้านการค้า การลงทุนของอินเดียกับ นักธุรกิจ นักลงทุน ในส่วนภูมิภาคของไทย โดยเฉพาะจังหวัดอุดรธานี ที่เป็นศูนย์กลางของประเทศลุ่มแม่น้ำโขง และเป็นโอกาสที่ดีของนักธุรกิจ นักลงทุนในส่วนภูมิภาค ได้รับรู้ความเคลื่อนของประเทศอินเดียที่กำลังอยู่ในการกล่าวถึงมากอีกประเทศหนึ่ง และอาจจะมีโอกาสนำเอาสินค้าต่างๆไปอวดโฉมแก่ประชาชนชาวอินเดียได้เห็นได้ในอนาคต
ในขณะที่ นายพรเทพ ศักดิ์สุจริต ประธานสภาอุตสาหกรรมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กล่าวว่า ถือว่าเป็นโอกาสที่ดีกับ นักธุรกิจ การค้า นักลงทุนในทุกๆ ด้าน เพราะอินเดียยังเป็นตลาดการลงทุนที่ใหญ่มาก นอกจากนี้แล้ว จากการที่ทราบว่า ไทย-อินเดีย ทำเอฟทีเอ มาเป็นเวลานานแล้วนั้น การส่งออก การลงทุน หรืออื่นๆ ยังใช้ประโยชน์ต่อเอฟทีเอดังกล่าวน้อยมาก ดูได้จากจำนวนเงินลงทุนของไทยในอินเดียเพียง 260 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม นักธุรกิจอุดรธานีส่วนหนึ่งมองว่า กฎระเบียบ กฎหมายการลงทุนของอินเดีย ยังไม่ค่อยชัดเจน เช่นวีซ่ากรุ๊ปสำหรับนักท่องเที่ยวที่เป็นกรุ๊ป ก็ยังไม่มี แต่ก็ให้ความหวังว่าในอนาคตน่าจะมีการเปลี่ยนระเบียบดังกล่าว และมีการแจ้งว่าสำหรับวีซ่าบุคคล ทางอินเดียสามารถออกให้ได้นานถึง 5 ปี
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,245 วันที่ 19 - 22 มีนาคม พ.ศ. 2560