พาณิชย์เล็งตั้งตลาดกลางข้าวสารเชื่อมโยงสู่ตลาดโลก

17 มี.ค. 2560 | 06:20 น.
นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ไทยเป็นผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่ของโลก ส่งออกข้าวไปจำหน่ายยังต่างประเทศปีละประมาณ 10 ล้านตัน มูลค่าประมาณกว่า 155,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นธุรกิจการเกษตรที่สำคัญของประเทศ แต่การบริหารจัดการ ในการซื้อขายตลอดจนการให้บริการด้านโลจิสติกส์ เพื่อส่งออกไปต่างประเทศ ขึ้นอยู่กับความพร้อมของผู้ประกอบการแต่ละราย ยังไม่มีศูนย์รวบรวมข้าวสารที่ให้บริการครบวงจร กระทรวงพาณิชย์จึงได้หมอบหมายให้กรมการค้าภายในดำเนินโครงการเพื่อจัดตั้งตลาดกลางข้าวสารสู่มาตรฐานสากลขึ้น

การจัดตั้งตลาดกลางดังกล่าวเพื่อรวบรวมและจำหน่ายข้าวสาร โดยมีการให้บริการอย่างเบ็ดเสร็จครบวงจร สามารถเชื่อมโยงข้าวสารไปยังตลาดภายในและต่างประเทศ เพื่อให้ไทยเป็นศูนย์กลางการค้าข้าวสารของภูมิภาคอาเซียนและตลาด โลก รวมทั้งส่งเสริมและพัฒนาข้าวคุณภาพพิเศษหรือข้าวสารที่มีความเฉพาะถิ่นทุกสายพันธุ์จากทุกภูมิภาคทั่วประเทศ อาทิ ข้าวอินทรีย์ ข้าวพื้นเมือง ให้จำหน่ายได้อย่างกว้างขวาง ได้รับผลตอบแทนที่สูงขึ้น เป็นแหล่งข้อมูลการตลาดและราคากลางที่สามารถเชื่องโยงการซื้อขายภายใต้ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศที่ทันสมัย ระหว่างผู้ขาย (เกษตรกร กลุ่มเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน สหกรณ์ โรงสี) กับผู้ซื้อ (โรงงานแปรรูป ผู้ค้า ผู้ส่งออก ตลอดจนผู้นำเข้าในต่างประเทศ) เพื่อให้เกษตรกรสามารถใช้อ้างอิงประกอบการวางแผนการเพาะปลูก และผู้ประกอบการสามารถใช้วางแผนด้านการผลิต และการตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ทั้งนี้กระทรวงพาณิชย์จะพิจารณา ความพร้อมของเอกชนที่ประกอบการตลาดข้าวสารในด้านความเหมาะสม ของสถานที่เพื่อให้เป็นศูนย์กลางการค้าและคมนาคมที่สามารถเชื่อมโยงการขนส่งทั้งทางบก ทางเรือ และทางอากาศได้อย่างสะดวก มีโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับการดำเนินการของตลาดกลางโดยปรับปรุงสถานที่ให้เป็นศูนย์กลางการซื้อขายข้าวสาร การแสดงสินค้า การจัดเตรียมเครื่องมือวัสดุ และสิ่งอำนวยความสะดวกที่จำเป็นต่อการซื้อขายข้าวสารของเกษตรกร กลุ่มเกษตรกร สหกรณ์ โรงสี หยง ผู้ค้าส่ง และผู้ส่งออก มีการดำเนินการบริหารจัดการตลาดและจัดทำและบำรุงรักษาระบบฐานข้อมูลสินค้า ข้อมูลผู้ซื้อ ผู้ขาย ระบบการซื้อขายที่มีมาตรฐานสากล โปร่งใส ตรวจสอบได้ สามารถรองรับระบบการซื้อขายในระบบออนไลน์ได้

“ด้านการสนับสนุนของภาครัฐกระทรวงพาณิชย์จะจัดกิจกรรมส่งเสริมเชื่อมโยงการซื้อขายข้าวสาร เพื่อให้มีการพบปะระหว่างผู้ผลิตกับผู้ซื้อ เป็นการกระตุ้นการซื้อขาย เพิ่มโอกาส ช่องทางการตลาดให้เกษตรกร และการพัฒนาผลิตภัณฑ์ข้าวสารให้ตรงความต้องการของผู้ซื้อ รวมทั้งกิจกรรมการประมูลข้าวสาร ส่งเสริมและพัฒนาความรู้ด้านการบริหารจัดการ การตลาด และการพัฒนาคุณภาพสินค้า ให้แก่ผู้ประกอบการตลาดกลางประมูลข้าวสาร ผู้ส่งออก เกษตรกร วิสาหกิจชุมชน และผู้เกี่ยวข้องจัดให้มีการประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่างๆ สร้างการรับรู้การเป็นตลาดกลางข้าวสารที่มีความโปร่งใส เป็นธรรมรวมทั้งเป็นแหล่งอ้างอิงราคาซื้อขายข้าวสาร ให้ครอบคลุมและทั่วถึงผู้ซื้อ ผู้ขาย และผู้ส่งออกทั้งในและต่างประเทศ”  นางอภิรดีกล่าว