วิบากกรรม! "ศานิตย์ มหถาวร" แจงบัญชีทรัพย์สินพิสดาร

03 มี.ค. 2560 | 12:47 น.
 

1485517130232

 

 

 

ที่นี่ไม่มีความลับ 
โดย : เอราวัณ  

"วิบากกรรม ศานิตย์ มหถาวร แจงบัญชีทรัพย์สินพิสดาร"

"ใครอยากรู้จักตัวเองให้มากกว่าที่ตัวเองจำได้ให้มาเล่นการเมือง" เป็นคำพูดที่มักถูกนำมาล้อเลียนกันในวงสนทนาการเมือง แต่สำหรับเจ้าของฉายา "น.1" พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ที่ไม่ได้เป็นเรื่องแค่ถูกล้อเล่นแล้ว เพราะ
"น.1." กำลังรู้จักสิ่งที่ตนเอง "กระทำ" ไว้ในอดีตมากขึ้น เมื่อก้าวคล่อมเป็นทั้งข้าราชการประจำและข้าราชการเมืองในคราวเดียวกัน

ด้วยกฏหมายป.ป.ช.ที่บังคับให้ข้าราชการการเมืองต้อง "แก้ผ้า" หรือแสดงบัญชีทรัพย์สินต่อสาธารณะภายใน 30 วัน ที่มารับตำแหน่ง   ทำให้ทรัพย์สินของพล.ต.ท.ศานิตย์ และครอบครัวต้องเปิดเผยออกมา

ทันทีที่เปิดเผยออกมาพบข้อสังสัยใน 3 ประเด็นคือ ประเด็นที่1.การรับราชการจะทำให้มีทรัพย์สินมากมายถึง 93 ล้านบาทได้หรือ ?  ประเด็นนี้ถูกอธิบายด้วยการแสดงบัญชีทรัพย์สินว่า เพราะมีมรดกจากมารดา ภรรยาและน้า ทำให้มีทรัพย์อู้ฟู้

ประเด็นที่ 2.คือการพกเงินสดวันละ3.2 ล้านบาท ที่ได้ชี้แจงในเวลาต่อมาว่า จำเป็นไว้เพื่อเอาไปดูแลเจ้านาย คำชี้แจงนี้ทำให้น่ากังขาว่าในวงการตำรวจมันมี "ค่าดูแล"กันขนาดนี้เชียวหรือ? พร้อมคำถามว่าเงินเดือนตำรวจจะสักกี่หมื่นบาทถึงได้พกเงินสดคราวละ 3.2 ล้านบาทดูแลคนอื่น ถามคำเดียว "เงินนั่นท่านได้แต่ใดมา?"

ประเด็นที่ 3. น่าจะร้ายแรงสุด เพราะน.1มีการแจ้งต่อป.ป.ช.ว่ามีรายได้จากการเป็นที่ปรึกษาบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด(มหาชน) หรือเบียร์ช้าง หลังจากสำนักข่าวอิศราออกมาเผยแพร่การยื่นบัญชีทรัพย์สินในรูปแบบนี้ ก็ถูกตั้งคำถามว่า ผิดกฏหมายหรือไม่ที่ไปรับเงินที่ปรึกษาจากบริษัทเอกชนเกินกว่าที่กฏหมายป.ป.ช.กำหนดว่า  ห้ามรับของกำนัลหรือทรัพน์สินเกินกว่า3,000 บาท

เมื่อมีการร้องเรียนต่อผู้ตรวจการแผ่นดินให้สอบเรื่องจริยธรรมและความผิดต่อกฏหมายในการแสดงบัญชีทรัพย์สิน พล.ต.ท.ศานิตย์ กลับชี้แจงว่าไม่มีค่าที่ปรึกษา "ลูกน้อง" ทำบัญชีผิด

"กลายเป็นวัวพันหลัก” หรือ "ลิงแก้แห"เลยคราวนี้ เพราะถ้าชี้แจงกับผู้ตรวจการแผ่นดินแบบนี้ แต่ไปชี้แจงกับป.ป.ช.อีกแบบและมีการลงลายมือชื่อกำกับ เท่ากับว่า "จงใจยื่นบัญชีทรัพย์สินอันเป็นเท็จ" ไปอีกกระทงหนึ่ง

ฟันธงตรงนี้ว่าคำอธิบายที่บอกว่า "ลูกน้องลงบัญชีผิด" นั้น "ฟังไม่ขึ้น" เป็นนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ จับผู้ร้ายมามากมาย ย่อมรู้อยู่แก่ใจว่าเอกสารใดที่ลงนามด้วยตนเองจะอ้างว่าไม่ได้อ่านหรือผู้อื่นกระทำการให้ย่อม"ฟังไม่ขึ้น"

ปกติเห็น "น.1” ผู้นี้อธิบายทุกเรื่อง ยกเว้นเรื่องนี้   ท่านบ่ายเบี่ยงที่จะตอบคำถามสื่อให้ชัดแจ้ง ก็ว่ากันไป ให้ ”วิบากกรรม " เป็นคำตัดสินอนาคตของผู้บัญชาการตำรวจนครบาลที่ขื่อ "ศานิตย์" ก็แล้วกัน

คอลัมน์ : ที่นี่ไม่มีความลับ /หน้า 16  หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3241 ระหว่างวันที่ 5-8 มี.ค.2560