วิศัลย์ วนะศักดิ์ศรีสกุล ถักทอความสำเร็จด้วย ความศรัทธา

“เสื้อเป็นงานศิลปะอย่างหนึ่งที่ถ่ายทอดวัฒนธรรม นำเสนอความเป็นมา ซึ่งเล่าผ่านความศรัทธาและความจงรักภักดีต่อชาติ เราจึงขออัญเชิญเรื่องราวที่เป็นดั่งความทรงจำของประวัติศาสตร์ไทยที่เกี่ยวข้องกับช้างศึกสมเด็จพระนเรศวรมาเป็นแก่นแนวคิดหลักในการออกแบบเสื้อฟุตบอลทีมชาติไทยชุดปัจจุบัน ผ่านการดำเนินงานอย่างประณีตให้ความสำคัญกับวิจิตรศิลป์ไทย ทั้งในเรื่องของโทนสีที่แสดงออกถึงความแข็งแกร่งดุดัน มีความเป็นสุภาพบุรุษ รวมทั้งลวดลายไทยที่ถักทอด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยเพื่อทำให้เสื้อนักฟุตบอลทีมชาติไทยไม่ได้เป็นเพียงแค่เสื้อกีฬา แต่ยังสะท้อนถึงความภาคภูมิใจของเราในการนำความเป็นไทยสู่สายตาชาวโลกด้วยความสุขใจ”

ความไม่หวาดกลัวการต่อสู้และพร้อมทะยานสู่เป้าหมายสูงสุดอย่างไม่มีขีดจำกัดคือ เส้นทางฉากใหม่ในชีวิตของนิสิตคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จากรั้วจามจุรี หลังจากจบการศึกษาคุณวิศัลย์มุ่งศึกษาและเก็บเกี่ยวประสบการณ์ด้านการตลาดโดยเฉพาะการค้าระหว่างประเทศในกลุ่มธุรกิจการ์เมนท์ และการเริ่มต้นเปิดโรงงานผลิตเสื้อยูนิฟอร์มสำหรับองค์กร สถาบันการศึกษา และบริษัทต่างๆ เมื่อ 10 ปีก่อน ได้กลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญสู่การเกิดขึ้นของแบรนด์ “วอริกซ์” ในปี 2556 ที่ผ่านมา

ภายใต้กลยุทธ์ “ป่าล้อมเมือง” วอริกซ์เริ่มจากการเจาะตลาดเสื้อกีฬาในหัวเมืองจังหวัดต่างๆในประเทศไทย อาทิ ชัยนาท ชลบุรี รวมทั้งสุพรรณบุรี โดยกีฬาที่เราโฟกัสคือ เสื้อกีฬาประเภทฟุตบอล หลังจากเป็นที่ยอมรับในตลาดประเทศไทยเราไม่หยุดนิ่งในการสร้างแบรนด์ ผลจากการมุ่งหน้ารุกสู่ตลาดอาเซียนและเอเชียอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันแบรนด์วาริกซ์ได้สัญญาจากสโมสรเคดาห์ เอฟเอ ทีมดังในลีกมาเลเซีย รวมทั้งสโมสร ลาวโตโยต้า ในลาวพรีเมียร์ลีก ขณะเดียวกันอยู่ระหว่างการเจรจากับทีมฟุตซอลลีกและฟุตบอลของเจลีคในประเทศญี่ปุ่น และล่าสุดกับการคว้าลิขสิทธิ์ผู้ผลิตชุดแข่งขันฟุตบอลทีมชาติไทย ปี พ.ศ.2560 - 2563

คุณวิศัลย์ เล่าต่อว่า สำหรับชุดแข่งขันฟุตบอลทีมชาติไทยจากวอริกซ์ ถูกออกแบบภายใต้แนวคิดนักรบคนที่ 12 (We are the 12th warrior) โดยสื่อถึงความสำคัญของเหล่ากองเชียร์ ออกแบบมาด้วย 2 โทนสี คือ 1.สีดำ กำหนดเป็นชุดเหย้า ใช้ชื่อว่า “ไชยานุภาพ” และ 2.สีขาว กำหนดเป็นชุดเยือน ใช้ชื่อว่า “ปราบไตรจักร” โดยทั้งหมดเกิดจากแรงบันดาลใจที่อัญเชิญเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ของช้างศึกไทยอย่าง เจ้าพระยาไชยานุภาพช้างทรงของพระบาทสมเด็จพระนเรศวรมหาราช และเจ้าพระยาปราบไตรจักร ช้างทรงของสมเด็จพระเอกาทศรถ มาปลุกพลังและหล่อหลอมความเป็นนักสู้ มุ่งมั่น ยืนหยัดและรวมพลังให้นักฟุตบอลทีมชาติไทยคว้าชัยชนะในทุกสนามอย่างภาคภูมิใจ

ด้านดีไซน์ชุดแข่งขันฟุตบอลทีมชาติไทย วอริกซ์มุ่งสื่อถึงปรัชญาและหัวใจความเป็นไทยผ่านการดีไซน์ในแต่รายละเอียดอย่างพิถีพิถัน มุ่งเน้นความแข็งแกร่ง ดุดัน และเป็นสุภาพบุรุษที่มีน้ำใจนักกีฬา ยกตัวอย่างเช่น ผ้าประเจียดผูกแขน มีลักษณะเป็นผ้าพันเกลียวแน่น ใช้ผูกมัดแขนข้างใดข้างหนึ่งหรือทั้งสองข้าง เพื่อสื่อแทนถึงความสามัคคีของเหล่านักรบ ถูกนำมาออกแบบเป็นลายสานเกลียวเชือกวางบนแขนเสื้อ เช่นเดียวกันกับแถบชายผ้าถุงแม่ที่ถูกนำมาออกแบบวางไว้ที่ชายเสื้อ ซึ่งตามความเชื่อสามารถสร้างขวัญและกำลังใจให้นักรับ และสุดท้ายคือ ลวดลายไทยโดยทางวอริกซ์เพิ่มความพิเศษบนเนื้อผ้าด้วยลายทักถอแนวไทยประยุกต์ เน้นน้ำหนักลวดลายไทยประยุกต์ เฉียงไปทางด้านขวา มีประกายโดดเด่นสะดุดตา สวยงามและแสดงออกซึ่งความภาคภูมิใจในความเป็นไทยและส่งต่อเอกลักษณ์ดังกล่าวสู่สายตาชาวโลกด้วยความสง่างาม

มิติของคุณภาพวอริกซ์มุ่งสร้างมาตรฐานการผลิตเทียบเท่าระดับสากล ยกตัวอย่างเช่น การใช้เนื้อผ้าไมโครไฟเบอร์และสเปนเด็กซ์ รองรับความยืดหยุ่นได้เป็นอย่างดี ดีไซน์ตัดเย็บให้โค้งรับกับสรีระของนักเตะ ถักทอเนื้อผ้าโดยใช้เทคโนโลยี COMBATEC ซึ่งเป็นเทคโนโลยีระดับโลกที่ใช้เส้นใยแบบใหม่ล่าสุด สามารถระบายอากาศด้านหลังและด้านข้างลำตัวได้เป็นอย่างดี เพื่อสร้างสมรรถนะที่ได้เปรียบให้กับนักกีฬาเมื่อลงแข่งขัน

“เราใส่ใจและพร้อมตอบโจทย์กลุ่มลูกค้า” ก่อนที่วอริกซ์จะคว้าสิทธิ์ในการออกแบบชุดฟุตบอลทีมชาติไทยในทุกรูปแบบ คุณวิศัลย์และทีมงาน ได้ลงพื้นที่สำรวจความต้องการซึ่งสิ่งที่พบคือความกังวลของลูกค้าใน 4 ปัจจัยหลักประกอบไปด้วย 1.ราคา 2.จุดจำหน่าย 3.จำนวนการผลิต 4.คุณภาพและดีไซน์ โดยกรรมการผู้จัดการ บริษัท วาริกซ์ สปอร์ต จำกัด ขยายความและตอบโจทย์ความต้องการของแฟนบอลชาวไทยใน 4 ความกังวลดังกล่าวได้อย่างน่าสนใจว่า เรื่องราคาเราแบ่งชุดออกเป็น 3 รูปแบบ ประกอบไปด้วย เสื้อเชียร์ (Warrix Cheer Jersey) ราคา 390 บาท มุ่งเน้นการสวมใส่สบาย รูปแบบถัดมาคือ ชุดแข่งขันสำหรับแฟนบอล (Warrix Replica) ราคา 890 บาท และชุดแข่งขันสำหรับนักเตะ (Warrix Player Grade) ราคา 1,990 บาท ซึ่งทั้งสองราคาสามารถรองรับความต้องการของแฟนบอลชาวไทยได้อย่างครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย

ด้านจุดจำหน่ายเรามุ่งสร้างเครือข่ายด้วยการรุกโมเดิร์นเทรดตามจุดต่างๆของประเทศ ยกตัวอย่างเช่น การเป็นคู่ค้ากับทางเซเว่นอีเลฟเว่น คาดว่าภายในปีนี้เราจะมีจุดจำหน่ายเพิ่มขึ้นถึง 10,000 – 13,000 จุด โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับ 300 จุดก่อนหน้านี้ นี่คือทิศทางที่ดีในการแก้โจทย์ทางการตลาดของวอริกซ์ อย่างไรก็ดีด้านเป้าหมายการผลิตในปี พ.ศ.2560 เราตั้งเป้าไว้ที่ 1 ล้านชิ้น และประเด็นสุดท้ายคือคุณภาพและดีไซน์ โดยปัจจัยนี้เรามุ่งมั่นและพัฒนาอย่างต่อเนื่องด้วยการยึดเอาความต้องการของลูกค้าเป็นที่ตั้ง พร้อมต่อยอดธุรกิจในด้านอุปกรณ์กีฬาอื่นๆ อาทิ รองเท้าฟุตซอล รองเท้าวิ่ง และในอนาคตเตรียมพบกับลูกฟุตบอลและของเครื่องใช้กีฬาอื่นๆอย่างครบวงจรมากยิ่งขึ้น โดยทั้งหมดที่กล่าวมาข้างต้นจะเป็นส่วนสนับสนุนที่สำคัญในการยกระดับวอริกซ์ให้ก้าวสู่ระดับสากลอย่างเต็มภาคภูมิในฐานะแบรนด์ไทย

ตลอดหลายปีที่ผ่านมาแม้จะต้องประสบกับวิกฤตหลากหลายด้าน แต่คุณวิศัลย์เลือกที่จะมองปัญหาให้เป็นโอกาส ในการเรียนรู้ พัฒนาตนเองและทีมงานให้พร้อมอยู่เสมอ ซึ่งการเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการนำเสนอและออกเสื้อฟุตบอลทีมชาติไทยคือโอกาสที่ยิ่งใหญ่สำหรับวาริกซ์สู่การพิสูจน์ตนเองในเรื่องของสินค้าบนเวทีธุรกิจเสื้อกีฬา และสิ่งที่เรากำลังก้าวเดินหรือบุกเบิกนั้นคือเส้นทางใหม่ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความแตกต่างอย่างสร้างสรรค์จากพลังศรัทธาทั้งจากทีมงาน แฟนบอล ลูกค้า คู่ค้าและสังคม

“ผมเป็นคนทำงานที่หนักมากแต่ผมไม่ลืมที่จะแบ่งเวลา ผมเชื่อว่า ทุกคนมีเวลาเท่ากันหมดคือ 24 ชั่วโมง แต่ทุกวินาทีขึ้นอยู่กับเราว่าจะบริหารอย่างไรให้มีประสิทธิภาพ ซึ่งผู้ที่ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่จะเป็นผู้ที่ใช้ชีวิตอย่างคุ้มค่า โดยไม่โฟกัสแต่เพียงเรื่องเงิน เพราะสุดท้ายถ้าคุณหาเงินได้มากแต่สุขภาพเสีย ผลลัพธ์ที่ได้คือความไม่ยั่งยืนนั้นเอง”นี่คือเส้นใยทางความคิดที่แข็งแกร่งถักทอสู่ความสำเร็จผ่านเครื่องจักรอันทรงพลังที่เรียกว่าศรัทธา คุณวิศัลย์ วนะศักดิ์ศรีสกุล

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,241 วันที่ 5 - 8 มีนาคม พ.ศ. 2560